Google ปล่อย Android 12L Beta 2 ออกมาแล้ว โดยเปิดให้อัปเดตตั้งแต่ Pixel 3a ขึ้นไปจนถึง Pixel 5a with 5G ส่วน Pixel 6 ยังไม่มาเหมือนเดิม ความเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญคือ บั๊กนาฬิกาแสดงผลเพี้ยนบนหน้าล็อกสกรีนซึ่งกวนใจหลาย ๆ คน ตอนนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว นอกจากนี้ยังเพิ่มตัวเลือกให้สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลนาฬิกาเป็นแบบ 1 แถว หรือ 2 แถวได้ตามใจชอบด้วย

บั๊กนาฬิกาเพี้ยนที่หลายคนรำคาญ ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว

Android 12L Beta 2 ถือเป็นรุ่นรองสุดท้ายก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยจะเน้นไปที่การปรับปรุงอินเทอร์เฟซของทั้งระบบให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ เช่นมือถือจอพับและแท็บเล็ต แต่สมาร์ทโฟนทั่วไปก็รับได้อานิสงส์ในบางส่วนพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่ ๆ ไปด้วยเหมือนกัน ตามที่เคยพรีวิวให้ดูไปแล้วใน Android 12L Beta 1 ก่อนหน้านี้

เข้า Calendar จาก At a Glance ได้เหมือนเดิมแล้ว

ตอนนี้เราสามารถเข้าถึงแอป Calendar เพื่อดูปฏิทินและกำหนดการนัดหมายต่าง ๆ ได้ผ่านการแตะวิดเจ็ต At a glance บนหน้าโฮมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ Google ได้นำคุณสมบัตินี้ออกไปใน Android 12 รุ่นปกติ

แตะที่ At a glance ปุ๊บ เข้าแอป Calendar ปั๊บ

การแสดงผลนาฬิกาในหน้าล็อกสกรีนสามารถเลือกปรับได้

ส่วนการเปลี่ยนนาฬิกาในหน้าล็อกสกรีนให้เป็นแบบ 1 แถว ตามที่เอ่ยถึงไปข้างต้น สามารถตั้งค่าโดยเข้าไปที่ Settings > Display > Lock screen จนเจอกับเมนู Double-line clock หากเลือกปิดฟังก์ชันนี้ไว้ นาฬิกาจะแสดงผลแบบ 1  แถวอยู่ด้านบนเสมอแม้ไม่มีรายการแจ้งเตือนก็ตาม

ซ้าย Double-line clock เปิดอยู่ ; ขวา Double-line clock ปิดอยู่

เข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings > Display > Lock Screen > Double-line clock

การกำหนดค่ารูปแบบนาฬิกาในหน้าล็อกสกรีนจะส่งผลต่อ Always on Display ด้วยเช่นกัน เพราะแอนิเมชันตอนเปิดจอจะแสดงผลอย่างต่อเนื่องกัน เป็นอีกจุดหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงในการอัปเดตครั้งนี้

เมนู Split Sceen เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น Split Top

ถัดมา ฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง จาก Split sceen ใน Android 12 หรือต่ำกว่า กลายเป็น Pin to top ใน Android 12L Beta 1 และล่าสุดคือ Split top ใน Android 12 L Beta 2 พร้อมกันนี้ก็ได้ปรับขอบของแอปบนและล่างในโหมด App pairs ให้มีความโค้งมน สอดคล้องตามภาษาการออกแบบ Material you ของระบบด้วย

เมนู Split Screen เปลี่ยนชื่ออีกรอบ และอีกรอบ…

ขอบของแอปในโหมด App pairs เป็นแบบมนแล้ว

ออกจากโหมดเครื่องบินได้ทันทีจากชอร์ตคัต Wi-Fi ใน Quick settings

เมื่อเปิดโหมดเครื่องบินใน Android 12L Beta 2 ท็อกเกิลช็อร์ตคัตของ Wi-Fi จะมีเมนู Turn off air plane mode เพิ่มเข้ามา ทำให้สามารถเลือกได้ว่า ต้องการเปิด Wi-Fi แล้วอยู่ในโหมดเครื่องบินต่อ หรือปิดโหมดเครื่องบินทิ้งไปเลย ลดความซ้ำซ้อนในการใช้งาน จากเดิมต้องเลือกเปิดหรือปิดทีละอย่าง

ออกจากโหมดเครื่องบินได้ทันทีจากหน้าท็อกเกิล Wi-Fi

และถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่า ความสว่างของฉากหลังหลังเปิดเมนูท็อกเกิลใน Android 12L Beta 1 จะต่ำกว่า Beta 2 เล็กน้อย

เพิ่มปุ่ม Split top ในหน้าต่าง PiP

ของใหม่อีกอย่างหนึ่งคือ ปุ่ม Split top ในหน้าต่าง PiP โดยจะปรากฏเฉพาะเมื่อมีการเปิดแอปใด ๆ ควบคู่กันอยู่ใน ณ ขณะนั้น (ภาพขวา) หากอยู่ในหน้าโฮมจะไม่โชว์ (ภาพซ้าย) เมื่อกดไปแล้วจะเข้าสู่โหมด App pairs ของทั้ง 2 แอปนั้น ๆ ในทันที

หน้าต่าง PiP กลายเป็นขอบมนเช่นกัน และมีปุ่ม Split top เพิ่มเข้ามา

ส่วนการปรับขนานหน้าต่าง PiP สามารถทำได้โดยวิธีจีบนิ้วเข้าหรือออก แบบเดียวกับการซูมดูรูปภาพ ไม่ต้องไปลากจากขอบเหมือนที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่มีตัวเลือกสำหรับการปรับความโปร่งแสงของหน้าต่าง

การเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่น ๆ ที่เหลือ

นอกจากนี้ แอนิเมชันของ Power menu จากเดิมเป็นเอฟเฟกต์แบบสไลด์ ขยับออกมาจากด้านขวา ตอนนี้ถูกปรับกลายเป็นเอฟเฟกต์แบบลิงก์ โผล่ออกมาจากตรงกลางแทน และในที่สุดเมนู Hold for Assistant ก็พรีวิวให้ดูเป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว

เพิ่มภาพพรีวิว Hold for Assistant ให้ดู เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น

การเปลี่ยนแปลงอย่างสุดท้ายคือ ป็อปอัปแจ้งเตือนการเข้าถึงกล้องและไมโครโฟน (กรณีสิทธิ์การเข้าถึงถูกปิดอยู่) มีการปรับดีไซน์นิดหน่อย โดยเปลี่ยนการจัดเรียงข้อความ จากชิดซ้ายมาอยู่กึ่งกลางแทน พร้อมขยายกรอบให้ใหญ่กว่าเดิม แต่ตรงส่วนนี้ผมขัดใจพอสมควร เพราะเมนูป๊อปอัปในส่วนอื่น ๆ ยังใช้ดีไซน์แบบเก่าอยู่ มันเลยดูไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันสักเท่าไหร่ เดี๋ยวคงไม่พ้นได้ปรับแก้อีกครั้งในอนาคต

แก้ไขอินเทอร์เฟซอีกเล็กน้อย