สัปดาห์ที่แล้ว Google ได้ประกาศเปิดตัว Android 12L โดยเน้นไปที่การปรับปรุงระบบและการแสดงผลให้ทำงานได้ดีกับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ได้แก่ แท็บเล็ต มือถือจอพับ และแล็ปท็อป Chome OS ถือเป็นการออกอัปเดตเวอร์ชันย่อยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ Android 8.1 ในปี 2560 แม้ตอนนี้จะยังอยู่ในสถานะ Developer Preview 1 แต่ก็มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาหลายอย่าง โดยมากจะเกี่ยวกับด้านมัลติทาสกิง
แบ่งอินเทอร์เฟซเป็นสองคอลัมน์
อินเทอร์เฟซของ Android 12L เกือบทั้งระบบจะถูกปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดใหญ่ โดย Google ได้แจ้งว่า อุปกรณ์ที่มีพิกเซลที่ไม่ขึ้นกับความหนาแน่น (density-independent pixels) ตั้งแต่ 600dp ขึ้นไป เลย์เอาต์ในส่วนของหน้าต่างแจ้งเตือน หน้าจอล็อก หน้าจอตั้งค่า จะแสดงผลในรูปแบบสองคอลัมน์ แยกระหว่างฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เป็นการดึงประโยชน์จากพื้นที่ขนาดใหญ่มาใช้ให้เต็มที่ ผู้ใช้งานจะมองเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้นจากในหน้าจอเดียว
มีแถบ Taskbar ให้สลับแอปได้สะดวก
ใน Android 12L จะมีแถบ Taskbar เพิ่มเข้ามาบริเวณด้านล่างของหน้าจอ ลักษณะเดียวกับ Chrome OS และ Windows ช่วยให้สลับแอปได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถแตะค้างที่ไอคอนแล้วลากออกมาเพื่อเปิดแอปให้โหมดแบ่งหน้าจอ (split-screen) ได้ทันทีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Taskbar ยังมีข้อจำกัดและจุดที่ควรปรับปรุงอยู่บ้าง ประการแรกคือ รายการแอปใน Taskbar จะอ้างอิงจากแอปใน Dock บนหน้าจอหลัก ไม่สามารถปักหมุดแอปได้ตามที่ต้องการ และยังจำกัดจำนวนสูงสุดแค่ 5 แอป ทั้งที่มีพื้นที่เหลือเฟือ ประการถัดมาคือ Taskbar ยังไม่มีตัวเลือกให้ปิดหรือซ่อนเหมือนอย่างใน Galaxy Z Fold 3 ของ Samsung ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเกะกะได้ในบางที
เพิ่มปุ่ม Split ในหน้า Recent
หน้า Recent ได้ปรับเลย์เอาต์การแสดงผลแบบใหม่เป็นรูปแบบตาราง เป็นอีกหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่ดูคล้ายกับของฝั่ง Samsung นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Split เพิ่มเข้ามาตรงรายการชอร์ตคัตด้านล่าง อยู่ถัดจากปุ่ม Screenshot และปุ่ม Select ให้เปิดใช้งานในโหมดแบ่งหน้าจอได้จากตรงนี้ ไม่ต้องไปแตะค้างที่ไอคอนด้านบนแบบที่ผ่านมา
ตรงจุดนี้ยังมีเรื่องชวนขัดใจอยู่เหมือนกัน เพราะการแบ่งหน้าจอถูกล็อกไว้ตามแนวของอุปกรณ์ หากใช้งานในแนวตั้งจะแบ่งหน้าจอได้แค่ “บน-ล่าง” กลับกัน หากใช้งานในแนวนอนจะแบ่งหน้าจอได้แค่ “ซ้าย-ขวา” ไม่สามารถเลือกสลับรูปแบบเองได้
เปิดแอปแบบแบ่งหน้าจอได้โดยตรงจาก Notification
นอกเหนือจากการเปิดแอปในโหมดแบ่งหน้าจอจากแถบ Taskbar และหน้า Recent แล้ว ใน Android 12L ยังเปิดจากหน้า Notification ได้ด้วย วิธีง่าย ๆ แค่แตะที่รายการแจ้งเตือนแล้วลากออกมายังพื้นที่ว่างได้เลย
Another hidden feature in Android 12L is called "notification to contents". Once enabled, you can long-press on a notification and then drag-and-drop it to the left or right side to launch it in split-screen mode. pic.twitter.com/KvUhsmpL6y
— Mishaal Rahman (@MishaalRahman) October 28, 2021
แอปแสดงผลไม่เพี้ยน ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
มีแอปจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในแนวนอน จึงมีปัญหาการแสดงผลเพี้ยน ๆ เมื่อเปิดใช้งานบนแท็บเล็ต Android ทาง Google จึงแก้ปัญหานี้โดยการปรับปรุงส่วนที่เรียกว่า Letterboxing ทำให้แอปใด ๆ สามารถรักษาสัดส่วนการแสดงผลเอาไว้ได้โดยไม่คำนึงถึงขนาดหน้าจอและแนวของอุปกรณ์โดยการถมสีลงไปยังช่องว่างของส่วนที่เหลือ ฟังก์ชันนี้ทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ผู้พัฒนาสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมเองได้ เช่น เลือกรูปทรงขอบกรอบ เป็นขอบเหลี่ยมหรือขอบมน เลือกสีที่ใช้ถมในพื้นที่ว่าง เป็นต้น
เปลี่ยนวอลเปเปอร์ได้อย่างรวดเร็ว
แถบ Wallpaper & style ของเมนูตามบริบทในหน้า Home จะมีภาพพรีวิววอลเปเปอร์เล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมา ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยนภาพพื้นหลังได้ทันทีจากตรงนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ดูเข้าท่ามาก เพราะปกติเมนูเปลี่ยนวอลเปเปอร์จะอยู่ค่อนข้างลึก ต้องกดเข้าไปหลายขั้นตอน
คุยโทรศัพท์ผ่าน Nest Hub
Nearby calling เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Android 12L และอาจเป็นเอกซ์คลูซีฟสำหรับ Pixel โดยฟีเจอร์นี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมือถือและ Nest Hub มีความสามารถหลัก ๆ ดังนี้
- Incoming call – รับสายผ่าน Nest Hub
- Call transfer – สลับการคุยโทรศัพท์ได้ระหว่างมือถือและ Nest Hub
- Voice intiation – สั่งให้โทรออกผ่าน Nest Hub ด้วยคำสั่งเสียง โดยการพูด “Hey Google” สามารถใช้งานร่วมกับแอปภายนอกที่รองรับได้ เช่น WhatsApp
แอนิเมชันบูตเข้าระบบใหม่ สไตล์ Material You
จนถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ น่าจะทราบกันดีแล้วว่า Android 12 นั้นมาพร้อมกับระบบธีมแบบไดนามิกที่อ้างอิงชุดสีจากวอลเปเปอร์ ซึ่งใน Android 12L จะขยายความครอบคลุมไปยังหน้าจอบูตก่อนเข้าระบบด้วย โดยโลโก้รูปตัว G จะมีชุดสีแบบเดียวกับธีมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และแน่นอน มีผลเฉพาะ Pixel เหมือนเดิม เพราะแบรนด์อื่น ๆ มีแอนิเมชันบูตเข้าระบบเป็นโลโก้ของตัวเองอยู่แล้ว
Another hidden feature in Android 12L: Themed bootanimation! With this feature, the Google logo takes on colors generated by "monet". Of course, the boot animation differs by device, so how it'll look will depend on the OEM.
More details here: https://t.co/ilJ3z99kEw pic.twitter.com/id6ytlkwFe
— Mishaal Rahman (@MishaalRahman) October 28, 2021
Android 12L มาเมื่อไหร่ เปิดให้อัปเดตตอนไหน
ตอนนี้ Android 12L ยังอยู่ในสถานะ Developer Preview 1 กว่ารุ่น Stable จะออก Google คงมีการปรับแก้สิ่งต่าง ๆ อีกหลายอย่าง อาจมีทั้งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาและฟีเจอร์ที่ถูกตัดออกไป ส่วนรุ่น Beta 1 จะเปิดให้ทดลองใช้งานกันภายในเดือนธันวาคม 2564 เริ่มจากมือถือในตระกูล Pixel ต่อด้วย Tab P12 Pro ของ Lenovo และ Galaxy Z Fold 3 ของ Samsung ในขณะที่ Beta 2 และ Beta 3 จะตามมาติด ๆ ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2565 ตามลำดับ
- Pixel 6 Pro
- Pixel 6
- Pixel 5a with 5G
- Pixel 5
- Pixel 4a (5G)
- Pixel 4a
- Pixel 4
มีข้อสังเกตเพิ่มเติมเล็กน้อย เกี่ยวกับ Pixel 3 และ Pixel 3 XL ที่ดันไม่อยู่ในลิสต์การได้ทดลองใช้ Android 12L รุ่น Beta 1 จาก Google ทั้ง ๆ ที่มันสามารถอัปเดตมาเป็น Android 12 ได้ …แปลกดีเหมือนกัน
Google ระบุกรอบเวลาการปล่อย Android 12L รุ่น Stable ภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 อย่างเร็วที่สุดคงเป็นเดือนมีนาคม เรื่องนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ โดนค่อนขอดมาตลอดว่า ไม่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ตเอาเสียเลย
ที่มา : Google | XDA | 9to5Google (1, 2) | Mishaal Rahman (1, 2)
Comment