กูเกิลปล่อย Android 16 รุ่นเสถียรออกมาแล้วเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เร็วกว่าปีที่แล้ว 4 เดือน ตามไทม์ไลน์การออกอัปเดตแบบใหม่ที่ประกาศไว้ล่วงหน้า มือถือ Pixel อัปเดตได้ทันที ตั้งแต่ Pixel 6 ขึ้นไป รวมถึง Pixel Fold และ Pixel Tablet

Live Updates

ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างแรกคือ live updates เป็นหน้าต่างแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบเรียลไทม์ เช่น การส่งของ ส่งอาหาร และเรียกรถ เป็นต้น แบบเดียวกับ Live Activities บน iOS

ผู้ผลิตมือถือค่ายอื่นที่มีระบบแจ้งเตือนที่คล้ายกันอยู่ก่อนแล้ว จะได้รับการผสาน live updates ให้ทำงานร่วมกันบน Android 16 ตัวอย่างที่กูเกิลยกมาคือ Now Bar ของซัมซุง และ Live Alerts ของออปโป้

Desktop Windowing

ถัดมาคือ desktop windowing สำหรับแท็บเล็ต ช่วยให้เปิดแอปได้หลายหน้าต่าง ย่อได้ ขยายได้ ย้ายตำแหน่งได้ เหมือนโหมด DeX ของซัมซุง และฟีเจอร์นี้เองก็เกิดจากความร่วมมือระหว่างซัมซุงและกูเกิลเช่นกัน

ฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ

นอกเหนือจากที่กล่าวมา Android 16 ยังมีฟีเจอร์ใหม่ยิบย่อยอีกบางส่วน แบ่งตามหมวดหมู่ดังนี้

ประสบการณ์การใช้งาน

  • จับกลุ่มการแจ้งเตือนจากแอปเดียวกันเข้าด้วยกัน ลดความรกของหน้าแจ้งเตือน
  • ปรับปรุง API ในส่วน adaptive refresh rate ให้แสดงผลแอนิเมชันได้ลื่นไหลโดยไม่กินแบต
  • เพิ่ม haptic sliders หรือการตอบสนองโดยการสั่น เมื่อเลื่อนแถบปรับระดับเสียงหรือความสว่าง

ความปลอดภัย

  • เพิ่ม Advanced Protection โหมดความปลอดภัยขั้นสูง สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะโดนโจมตีแบบระบุเป้า กดปุ่มเดียว เปิดฟีเจอร์ความปลอดภัยทั้งหมดบน Android
  • เพิ่มฟีเจอร์ Identity Check บังคับสแกนนิ้ว / สแกนม่านตา เมื่อล็อกอินด้วยพาสคีย์หรือแอปจัดการรหัสผ่านในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย (โหมดนี้ปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น)

ผลิตภาพการทำงาน

  • เพิ่ม taskbar overflow ให้แท็บเล็ตแสดงแอปที่ล้นออกจากทาสก์บาร์ได้ กรณีเปิดแอปจำนวนมากพร้อมกัน
  • เพิ่ม custom keyboard shortcuts ให้แท็บเล็ตปรับแต่งปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดเองได้
  • เพิ่มเครื่องมือแก้ไขภาพ HDR ที่มาจากการแคปฯ หน้าจอ โดยที่เมตาดาตาของ HDR จะไม่หาย

การช่วยเหลือการเข้าถึง

  • อุปกรณ์ช่วยฟังมีหน้าตั้งค่าแยกเป็นเนทีฟของระบบแล้ว ปรับเสียง – แยกเสียง ได้โดยตรงจากบนมือถือ
  • เพิ่มตัวเลือกให้อุปกรณ์ช่วยฟังสลับไปใช้ไมค์จากโทรศัพท์ได้ (เนื่องจากไมค์ของอุปกรณ์กลุ่มนี้ถูกออกแบบให้รับเสียงจากคู่สนทนาเป็นหลัก การรับเสียงจากผู้สวมใส่จึงอาจทำได้ไม่ดีนัก)

ฟีเจอร์ taskbar overflow และ custom keyboard shortcuts จะเปิดให้ใช้งานภายในปีนี้ เช่นเดียวกับดีไซน์ใหม่ Material 3 Expressive ก็จะตามมาทีหลัง ถ้าดูจากไทม์ไลน์อาจเป็นไตรมาส 3 ตามภาพด้านล่าง

ที่มา : Google