สงครามสิทธิบัตรที่เงียบหายไปนานดูเหมือนจะระอุขึ้นมาอีกครั้งนึงแล้ว เมื่อบริษัท Rockstar ซึ่งทั้ง Apple และ Microsoft เป็นเจ้าของร่วมกัน ได้ยื่นฟ้อง Google และผู้ผลิต Android อีก 7 ราย

ขอเท้าความกลับไปในปี 2011 ถึงการกำเนิดของผู้ฟ้องร้องที่ชื่อ Rockstar กันซะก่อน ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับ Rockstar Game ผู้ผลิต GTA นะ อย่าสับสน

บริษัท Rockstar เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของ Apple, Microsoft, RIM (ตอนนี้ใช้ชื่อ Blackberry แล้ว) ,Ericsson และ Sony ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อประมูลสิทธิบัตรของ Nortel บริษัทเทคโนโลยีของ Canada ที่มีสิทธิบัตรกว่า 6,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิทธิบัตรเทคโนโลยีไร้สาย และชนะการประมูลด้วยมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจริงๆ Google เองก็ร่วมประมูลด้วยที่ 4.4 พันล้านเหรียญและล้มเลิก ไม่สู้ต่อ หันไปคว้าเอา Motorola แทนที่ 12.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

และตอนนี้ Rockstar ก็เริ่มหาเงินจากสิทธิบัตรที่ได้มาจาก Nortel โดยยื่นฟ้อง Google ข้อหาการละเมิดสิทธิบัตร 6 รายการ ซึ่งเป็นเรื่อง “การใช้เครืองมือโฆษณาที่แสดงโฆษณาเมื่อมีการค้นหาในเครือข่ายข้อมูล” (“an advertisement machine which provides advertisements to a user searching for desired information within a data network”) ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับเทคโนโลยีไร้สายเลย แต่มันไปชนกับขุมทรัพย์ของ Google ที่ชื่อว่า AdWords นั่นเอง

ส่วนผู้ผลิต Android อีก 7 รายคือ Asustek, HTC, Huawei, LG Electronics, Pantech, Samsung, และ ZTE นั้นโดนฟ้องเรื่อง การใช้ระบบนำทางผ่านหน้าจอและศูนย์บริการข้อความ (navigation through electronic interfaces or to an integrated message center) ซึ่งรวมเป็นสิทธิบัตรท้้งหมด 7 รายการ

ความมันอย่ตรงที่ Rockstar นั้นเป็นองค์กรที่แยกตัวเป็นเอกเทศ แม้ว่า HTC และ Apple จะเคยมีการตกลงเรื่องสิทธิบัตรระหว่างกันมาแล้ว หรือ Microsoft ที่น่าจะมีการตกลงเรื่องสิทธิบัตรกับผู้ผลิต Android หลายๆ เจ้า นั้นก็ไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับ Rockstar แต่ประการใด ทาง Rockstar สามารถสั่งฟ้องกับผู้ผลิตทุกรายที่กล่าวมาข้างต้นได้ทั้งหมด

คดีความเรื่องสิทธิบัตรนั้นกินเวลาเป็นปีๆ ครับ กว่าจะไต่สวนจบขึ้นศาลแล้วก็พิจารณากันเสร็จ แถมยังไม่มีความแน่ชัดว่าสิทธิบัตรที่ Rockstar ยื่นฟ้องนั้นจะสามาถเอาผิดกับ Google และผู้ผลิต Android ได้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ ส่วนเราซึ่งเป็นผู้บริโภคนั้นคงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงหรอกครับ ยังไงก็ไม่ต้องดราม่ากันเยอะก็ได้ เพราะเราก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับเค้าอะนะ

source : androidauthority