เรียกว่ามาแบบเซอร์ไพรส์ไม่ตั้งตัวเหมือนกันสำหรับ iPad รุ่นใหม่ เพราะแทบไม่มีข่าวคราวอะไรเลยว่าจะมาเปิดตัวใน Apple Event นี้ด้วย แต่สุดท้ายแล้ว iPad 9th Gen ก็มาเผยโฉมเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าคราวนี้มันต้องได้รับการอัปเกรดสเปคหลาย ๆ อย่างขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นชิป A13 Bionic, กล้องหลัง-กล้องหน้าที่ประสิทธิภาพดีขึ้น แถมหน้าจอก็ยังดีขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก
iPad 9th Gen อัปเกรดชิปขึ้นจากรุ่นเดิมที่ใช้ A12 มาเป็น A13 Bionic ที่มี CPU และ GPU ทรงพลังขึ้นกว่าชิป A12 ถึง 20% ทำให้มันสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้แบบไม่มีติดขัด ไม่ว่าจะใช้ในการตกแต่งภาพความละเอียดสูง, ตัดต่อวิดีโอเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือจะเล่นเกมกราฟิก 3D เนียน ๆ ก็ลื่นปรื๊ด
หน้าจอของ iPad 9th Gen ใช้หน้าจอ Retina Display ขนาด 10.2 นิ้ว แบบ True Tone ให้การแสดงผลสีสันที่แม่นยำตามสภาพแสงแบบ Real-time เพิ่มความสบายตาในการใช้งานให้มากขึ้น และรองรับการใช้งาน Apple Pencil (1st Gen) ด้วย
สำหรับกล้องหน้าของ iPad 9th Gen เรียกว่าอัปเกรดขึ้นจากเดิมแบบจมหูด้วยความละเอียดที่สูงถึง 12MP จากเดิมแค่ 1.2MP เท่านั้น และยังมากับฟีเจอร์ Center Stage เหมือนกับ iPad Pro 2021 ที่จะใช้เลนส์แบบ Ultrawide ในการจับโฟกัสและซูมเข้าไปที่บุคคลหน้ากล้องแบบอัตโนมัติ และเมื่อมีคนอื่นเดินเข้ามาแจมด้วย กล้องก็จะซูมออกมาให้เห็นกันแบบครบ ๆ ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดเท่าเดิมที่ 8MP แต่ได้รับการพัฒนาให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีกว่าเดิมด้วย
สเปค iPad 9th Gen
- หน้าจอ Retina Display ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 2160 x 1620
- CPU : A13 Bionic
- ความจุ : 64GB / 256GB
- กล้องหลัง : 8MP (f/2.4)
- กล้องหน้า : 12MP (f/2.4)
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi (802.11a/b/g/n/ac); dual band (2.4GHz and 5GHz); HT80 with MIMO, BT 4.2
- เซนเซอร์ : Touch ID, Three‐axis gyro, Accelerometer, Barometer, Ambient light sensor
- ลำโพงสเตอรีโอ
- แบตเตอรี่ : เล่นเน็ตสูงสุด 10 ชม. (WiFi), สูงสุด 9 ชม. (WiFi + Cellular)
- ระบบ iPadOS 15
- ขนาด / น้ำหนัก : 250.6 x 174.1 x 7.5 มม. / 487 กรัม (WiFi) 498 กรัม (WiFi + Cellular)
iPad 9th Gen เพิ่มความจุในตัวเครื่องมากกว่าเดิมโดยรุ่น 64GB มีราคาในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 11,400 บาท และรุ่น 256GB เริ่มต้นที่ 16,900 บาท ส่วนวันวางจำหน่ายต้องรออัปเดตกันอีกทีนึงครับ
ราคาแบบนี้ กับ CPU ตัวนี้ คุ้มมากแล้ว แรงเหลือ ๆ เล่นเกมสบาย
ปากกาทำไมไม่แปะชาร์จ แพงอีกจิ๊ดนึง ทำไมไม่เอาม๊าาาาาาาาาาาาาาา ทำไมต้องเสียบตูดปากกาชาร์จห๊ะ
จริงๆ เขาก็มีสายชาร์จปากกาแถมมาให้นะ แต่คนแกะกล่องไม่เจอเอง เลยเป็น meme ยาวเลย แต่ถ้าหมายถึงว่าขี้เกียจหยิบสายแล้วต้องชาร์จ อันนี้ก็เห็นด้วยค้าบ มันก็ดีไซน์เก่าอะเนาะ รุ่นประหยัดสำหรับการศึกษา A12 ก็แรงแล้ว นี่ A13 แรงไปใหญ่ แถมได้ 64GB ด้วย
ให้ปากกาแม่เหล็กมามันก็ราคาโดด ไม่ใช่รุ่นประหยัดแล้วนะซิครับ รุ่นเริ่มต้นก็แบบนี้ ต่างประเทศเด็กๆนักเรียนใช้กันเยออะอยู่
ได้แต่หวังว่า ทรงนี้คงลากเป็นรุ่นสุดท้าย ไม่ต่อรุ่น 10 แล้ว มารอบหน้า ต้องทรงแบบรุ่นพี่ได้แล้ว
ทรงนี้ ผม เซ๊ง เรื่อง เขียนๆอยู่ มือไปโดย ปุ่ม Home มากกว่า แต่ไม่เป็นไร รอ iPad Air 5 พอละ จบๆ