Apple ได้กล่าวหาว่า Meta คุกคามความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ผ่านการร้องขอการเข้าถึงซอฟต์แวร์ iPhone มากเกินไป ซึ่งข้อพิพาทนี้เน้นย้ำถึงการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสอง โดยทาง EU กล่าวว่า จะต้องให้ข้อเสนอแนะภายในวันที่ 9 มกราคม ก่อนจะตัดสินอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมข้างหน้านี้

พระราชบัญญัติตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act) ของสหภาพยุโรป กำหนดให้ Apple ต้องอนุญาตให้คู่แข่งและนักพัฒนาทำงานร่วมกันได้ มิฉะนั้นอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 10% ของยอดขายประจำปีทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Apple คิดว่าคำขอ 15 รายการจาก Meta นั้นค่อนข้างมากเกินไป เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ

Apple แสดงความกังวลเกี่ยวกับแอปฯ ของ Meta ที่ขอเข้าถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บน iPhone มากเกินไป

Apple อ้างว่าคำขอของ Meta นั้น ก่อให้เกิดการละเมิดถึงข้อมูลของผู้ใช้ อย่างเช่น การขอการเข้าถึงข้อความ อีเมล และรหัสผ่าน ซึ่ง Meta พยายามเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกมากเกินไป ในความคิดของ Apple

เนื่องการจากอนุญาตให้แอปฯ ของ Meta อย่างเช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ จะทำให้ Meta สามารถอ่านข้อความและอีเมลทั้งหมดของลูกค้า รวมถึงการสนทนาโทรศัพท์ การติดตามกิจกรรมในแอปฯ ภาพถ่ายในเครื่อง กิจกรรมในปฏิทิน หรือแม้แต่ log ของ Password ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือว่าน่ากังวลไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม Meta ก็โต้ตอบกลับว่า Apple แค่ไม่เชื่อในการทำงานร่วมกันกับบริษัทอื่น ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ Apple ถูกตำหนิเรื่องการต่อต้านการแข่งขัน ก็มักจะหยิบประเด็นด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ขึ้นมาปกป้องตัวเอง โดยที่ไม่มีพื้นฐานความเป็นจริง

คณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยแพร่ผลการวิจัยเบื้องต้น เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการทำงานร่วมกันของสหภาพยุโรปของ Apple โดยวางกรอบการให้ข้อเสนอแนะภายในวันที่ 9 มกราคม และการตัดสินคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมของปีหน้า

โดย Apple จะต้องอธิบายขั้นตอนการประเมิน กำหนดเวลา และเกณฑ์สำหรับการร้องขอการทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน มีการอัปเดตเป็นประจำ และการให้ข้อเสนอแนะร่วมกันกับนักพัฒนา พร้อมกับมีกลไกการแก้ไขข้อพิพาทอย่างยุติธรรม รวมถึงการทำงานร่วมกันกับการแจ้งเตือน iOS สำหรับอุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch, Apple Vision Pro หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในอนาคตที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคู่แข่ง และฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปจะตรวจสอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติตลาดดิจิทัลของ Apple ต่อไป

ที่มา reuters