ถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ที่ไม่น่าโสภาสำหรับ Apple เอาเสียเลย เมื่อ Jeff Wilcox ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรมระบบ Mac หัวกะทิผู้เป็นหัวหอกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากโปรเซสเซอร์ Intel มาสู่ Apple Silicon ได้ประกาศลาออกจากบริษัทฯ หลังทำงานมานาน 8 ปี เพื่อไปร่วมงานกับ Intel ในฐานะ “Intel Fellow” คุมทีมวิศวกรรมการออกแบบชิปเซตฝั่งไคลเอนต์ทั้งหมดทุกเซกเมนต์
Jeff ให้เหตุผลถึงการลาออกในครั้งนี้ว่า เพราะอยากมองหาโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ในอาชีพ และรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ในทุกความสำเร็จตลอดเวลาที่ได้อยู่กับ Apple โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Apple Silicon ทั้ง M1, M1 Pro และ M1 Max นอกจากนี้ Jeff ยังเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบชิปความปลอดภัย T2 ด้วย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Jeff ร่วมงานกับ Intel โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยทำงานด้วยกันมาแล้วหนหนึ่งระหว่างปี 2553 ถึง 2556 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวดำรงตำแหน่งเป็นวิศวกรออกแบบชิปเซตสำหรับพีซี ก่อนที่จะย้ายไป Apple ในภายหลัง และย้ายกลับมารังเดิมอีกครั้งในท้ายที่สุด
เป็นที่ทราบกันดีว่า Apple กำลังประสบภาวะ “สมองไหล” เสียวิศวกรเก่ง ๆ ให้แก่คู่แข่งไปหลายคนในช่วง 2 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Bloomberg พึ่งรายงานว่า บริษัทฯ ได้เสนอโบนัสเป็นหุ้นแบบทยอยให้ตามเวลาให้แก่วิศวกรเมื่อทำงานครบตามกำหนด เป็นมูลค่าตั้งแต่ 50,000 ถึง 180,000 เหรียญ (ประมาณ 1 ล้าน 7 แสน ถึง 6 ล้านบาท) เพื่อจูงใจไม่ให้พนักงานลาออก
เป็นเรื่องน่าสนใจว่า การที่ Apple เสียพนักงานมือดีให้แก่คู่แข่งไปแบบนี้จะส่งผลกระทบมากหรือน้อยแค่ไหน แล้วบริษัทฯ จะแก้ปัญหาอย่างไรต่อ
ที่มา : 9to5Mac | Bloogberg | Jeff Wilcox
ด้านผู้ บริโภค คือดี อยากให้เทคโนโลยีได้กระจายไปได้หลากหลายที่ เพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ใช้
อยากใช้ Windown on ARM แรงๆ
แต่ถ้านำไปแล้ว 1 ปีมันก็จะนำตลอดไปเลยรึเปล่า? ผมเข้าใจถูกมั้ย?
กรณีส่วนใหญ่ครับในสถานการณ์ปกติที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่เนื่องจากทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง จึงเกิดเวลาขึ้น (เวลาคือปริมาณของการเปลี่ยนแปลง)
เมื่อเวลาผ่านไปก็มีโอกาสที่ผู้นำจะกลายเป็นผู้ตามได้เหมือนกันครับ
ไม่งั้นแข่งรถก็ไม่ต้องรอแข่งครบ 40 รอบ ใครออกตัวก่อนก็ชนะสิครับ T_T
โอเคค้าบ
จะสู้วัฒนธรรมองค์กรอินเทลไหวมั้ย
55555