Apple เริ่มวางขาย iPhone 16 series อย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลายคนอาจจะทราบแล้วว่าฟีเจอร์ Apple Intelligence ยังไม่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้ แต่จะสามารถเริ่มใช้งานใน iOS18.1 ที่จะปล่อยให้อัปเดตในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และทาง Apple ก็จะค่อยทยอยอัปเดตฟีเจอร์อื่น ๆ ไปจนถึง iOS18.4 มาดูรายละเอียดกันว่าในแต่ละเวอร์ชันจะมีอะไรใหม่ ๆ ให้เราได้ใช้บ้าง

iOS 18.1

  • ปรับปรุง Siri ให้ฉลาดมากกว่าเดิม ในเวอร์ชันนี้จะปรับปรุงให้สามารถเข้าใจคำถามต่อเนื่อง หรือคำพูดตะกุกตะกัก
  • เครื่องมือช่วยเขียน สำหรับ การสรุปข้อความ การตรวจทานข้อความ
  • สรุปการแจ้งเตือนสำหรับแอปข้อความ เมล และแอปอื่นๆ อีกมากมาย
  • แนะนำการตอบกลับในแอปข้อความ และเมล
  • Clean Up ลบคน หรือวัตถุที่เราไม่ต้องการออกจากภาพ และใช้ AI เติมฉากหลังให้ภาพมีความเนียน
  • สร้างภาพยนตร์ Memories ในแอป Photos ผ่านการพิมพ์คำอธิบายเข้าไป
  • บันทึก และถอดเสียงตอนคุยโทรศัพท์ได้
  • โหมด Focus แบบใหม่ ลดการรบกวนด้วยการแสดงแค่การแจ้งเตือนที่สำคัญเท่านั้น

iOS 18.2

ถ้าอิงตามหลักฐานของเวอร์ชันซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ของ Macrumors เป็นไปได้ที่ Apple อาจทำการทดสอบ iOS 18.2 ภายในองค์กรเป็นระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดย iOS 18.2 มีแนวโน้มที่จะปล่อยให้อัปเดตในช่วงเดือนธันวาคม (เหมือนกับ iOS 17.2 และ iOS 16.2) ในเวอร์ชันนี้ Apple จะขยาย Apple Intelligence ให้สามารถใช้งานภาษาอังกฤษท้องถิ่นในออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร

Mark Gurman จาก Bloomberg ยังระบุไว้ว่าฟีเจอร์ Apple Intelligence อย่าง Image Playground การสร้างรูปภาพใหม่ใน Photos ด้วยคำอธิบาย และ Genmoji สร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง ก็จะสามารถใช้งานได้ใน iOS 18.2 เช่นกัน

Apple เคยระบุไว้ว่า ChatGPT จะสามารถใช้งานได้ผ่าน Siri ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iOS 18.2 โดย Siri จะสามารถตอบสนอง และแสดงคำตอบจาก ChatGPT ได้โดยตรง และ ChatGPT ยังเป็นตัวเลือกเครื่องมือฟีเจอร์ Writing Tools ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสรุปข้อความ หรือสร้างรูปภาพได้ ทั้งหมดนี้จะขับเคลื่อนโดย GPT-4o เวอร์ชันใหม่ล่าสุดของ OpenAI

โดยผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ Mac สามารถใช้งาน ChatGPT แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่ ส่วนใครที่สมัครสมาชิก ChatGPT Plus สามารถเชื่อมต่อบัญชีเพื่อใช้งานฟีเจอร์แบบเสียตังค์บนอุปกรณ์ของ Apple ได้เช่นกัน และ Apple ยังกล่าวไว้ว่า OpenAI จะไม่จัดเก็บคำสั่ง ChatGPT บนอุปกรณ์ของ Apple และที่อยู่ IP ของผู้ใช้ก็จะถูกลบทิ้งเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้

สรุปฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 18.2 แบบสั้น ๆ

  • รองรับภาษาอังกฤษท้องถิ่นใน ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร
  • Image Playground การสร้างรูปภาพใหม่ใน Photos ด้วยคำอธิบาย
  • Genmoji สร้างอิโมจิแบบกำหนดเอง
  • ใช้งาน Siri ร่วมกับ ChatGPT

iOS 18.3

ในเวอร์ชันนี้เหมือนทาง Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ตามรายงานก็เป็นไปได้ที่ Apple Intelligence จะรองรับภาษาอื่น ๆ มากกว่าเดิมใน iOS 18.3 เช่นกัน

iOS 18.4

ในเวอร์ชันนี้จะเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุด ทำให้ Siri จะรองรับ Personal Context, On-Screen Awareness และสามารถควบคุมแอปได้ลึกมากกว่าเดิม โดย Mark Gurman กล่าวย้ำไว้ว่าฟีเจอร์ทั้งหมดนี้จะยังไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะถึง iOS 18.4 ซึ่งคาดว่าจะปล่อยให้อัปเดตในเดือนมีนาคมปีหน้า

Apple ยังระบุไว้ว่า Apple Intelligence จะรองรับภาษาอื่น ๆ เช่น จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน เยอรมัน อิตาลี โปรตุเกส เกาหลี เวียดนาม และภาษาอื่นๆ ในปีหน้า ซึ่งภาษาเหล่านี้อาจถูกเพิ่มใน iOS 18.4 เช่นกัน

Apple Intelligence รองรับแค่อุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น

Apple Intelligence สามารถใช้งานผ่านอุปกรณ์ ดังนี้

  • iPhone 16 Pro Max
  • iPhone 16 Pro
  • iPhone 16 Plus
  • iPhone 16
  • iPhone 15 Pro Max
  • iPhone15 Pro
  • iPad Pro ชิป M1 ขึ้นไป
  • iPad Air ชิป M1 ขึ้นไป
  • MacBook Air ชิป M1 ขึ้นไป
  • MacBook Pro ชิป M1 ขึ้นไป
  • iMac ชิป M1 ขึ้นไป
  • Mac mini ชิป M1 ขึ้นไป
  • Mac Studio ชิป M1 Max ขึ้นไป
  • Mac Pro M2 Ultra

ส่วน Apple Intelligence สำหรับภาษาไทยนั้น ยังไม่มีประกาศจาก Apple ว่าจะได้ใช้กันตอนไหน ใครที่อยากใช้ Apple Intelligence จะต้องตั้งค่าอุปกรณ์ และภาษาของ Siri ให้เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกากันไปก่อน

ที่มา : MacRumors