จากการประชุมเมื่อวันจันทร์ คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ได้ลงมติให้ระบบปฏิบัติการ iPadOS ของ Apple เข้าข่ายเป็น gatekeeper ตามกฎ Digital Markets Act (DMA) หลังใช้เวลาตรวจสอบและพิจารณามากว่า 8 เดือน เช่นเดียวกับ iOS, Safari และ App Store จากค่ายเดียวกันที่ถูกตัดสินไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ โดย Apple จะมีเวลาอีก 6 เดือนในการเปลี่ยนแปลงแนวทางของ iPadOS เพื่อให้สอดคล้องตามกฎ DMA มิเช่นนั้นจะต้องเสียค่าปรับสูงถึง 10% ของรายได้ หรือ 20% หากทำผิดซ้ำ

คณะกรรมาธิการฯ ระบุว่าจำนวนผู้ใช้งานทั่วไปบน iPadOS ตอนนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ gatekeeper แต่ก็ปริ่ม ๆ จะคาบเส้น และมีแนวโน้มจะเกินเกณฑ์ในไม่ช้า แต่จุดสำคัญที่ทำให้ iPadOS โดนฟันเป็น gatekeeper คือจำนวนผู้ใช้งานเชิงธุรกิจ ที่ทะลุเกณฑ์ไปไกลถึง 11 เท่า กล่าวคือ iPad ได้กลายมาเป็นเครื่องมือ – ช่องทางสำคัญที่บริษัทต้องพึ่งพาในการเข้าถึงลูกค้า ประกอบกับตัวระบบปฏิบัติการมีลักษณะ ‘ผูกติด’ ให้ผู้ใช้งานวนเวียนอยู่ในระบบนิเวศ (ecosystem) ของ Apple เอง ดังที่คนมักแซวกันว่า ‘คุกกระจก’

ก่อนหน้านี้เราได้เห็นกันไปแล้วว่า Apple ต้องปรับปรุงแนวทางหลาย ๆ อย่างกับสินค้า บริการ หรือแพลตฟอร์มที่โดนตัดสินเป็น gatekeeper เช่นกรณี iOS ต้องเปิดรับแอปสโตร์ภายนอก แอปต่าง ๆ บนเครื่องต้องถอนการติดตั้งได้อย่างง่ายดาย และผู้ใช้งานต้องสามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าแอปเริ่มต้นได้สะดวก เป็นต้น ซึ่งคาดว่า iPadOS ก็น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้าย ๆ กัน

ที่มา : Reuters