Digitimes ได้ออกรายงาน ใหม่ ว่า Apple เตรียมเปิดตัว iPhone Fold ปีหน้า เพราะตอนนี้ได้เริ่มสร้างต้นแบบเพื่อใช้ในการทดสอบแล้ว จะใช้จอจาก Samsung มีความบางเฉียบ พร้อมโครงสร้างไทเทเนียม แต่อีกโปรเจอกต์อย่าง iPad จอใหญ่แบบพับได้ กลับถูกพักโครงการเอาไว้ก่อน เพราะเนื่องด้วยต้นทุนที่แพง แล้วอาจจะยังไม่มีคนต้องการซื้อมากพอ

iPhone Fold

iphone fold

iPhone Fold เริ่มทดสอบต้นแบบแล้ว คาดเปิดตัวปี 2026

หลังมีข่าวลือมายาวนาน ล่าสุดรายงานจาก DigiTimes ยืนยันว่า Apple ได้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบต้นแบบ (Prototype Testing Phase) สำหรับ iPhone แบบพับได้เครื่องแรกของบริษัท ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา

  • ขั้นตอนนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2025
  • จากนั้นจะเข้าสู่เฟส EVT (Engineering Verification Test) หรือการทดสอบด้านวิศวกรรม
  • หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่า iPhone Fold จะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 18 Series ในเดือนกันยายน 2026

สเปคและดีไซน์ iPhone Fold (ตามข่าวลือ)

จากแหล่งข่าวในสายการผลิต iPhone Fold รุ่นแรกของ Apple จะมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ดังนี้

  • หน้าจอหลัก OLED ขนาด 7.8 นิ้ว ผลิตโดย Samsung
  • กล้องหน้าใต้หน้าจอ (Under-display Camera)
  • Touch ID ที่ปุ่มด้านข้าง ไม่มี Face ID
  • บานพับใช้โลหะเหลว (Liquid Metal) เพิ่มความทนทานสูง
  • โครงเครื่องผลิตจากไทเทเนียมอัลลอยด์
  • รอยพับแทบมองไม่เห็น
  • ความบางเมื่อพับอยู่ที่ 9 – 9.5 มม.
  • คาดว่าราคาเปิดตัวอยู่ระหว่าง $2,100 – $2,300 (ประมาณ 76,000 – 83,000 บาท)

iPad Fold

iPad Fold

iPad Fold ถูกพักการพัฒนาชั่วคราว

ขณะที่ iPhone Fold เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ฝั่ง iPad Fold หรือ iPad แบบพับได้ กลับมีข่าวว่า Apple ได้หยุดพัฒนาไว้ชั่วคราว เหตุผลหลักจากรายงานของ Digitimes ได้แก่

  • ปัญหาในการผลิตหน้าจอพับขนาดใหญ่
  • ต้นทุนการผลิตที่สูง โดยเฉพาะเทคโนโลยีจอพับ
  • ความต้องการของผู้บริโภคที่ยังไม่ชัดเจน สำหรับอุปกรณ์พับจอขนาดใหญ่

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์หลายรายเคยคาดว่า iPad Fold จะเปิดตัวในปี 2026 หรืออย่างช้าที่สุดในปี 2028 แต่จากข้อมูลล่าสุด อาจต้องเลื่อนไปอีกหลายปี หรืออาจไม่เปิดตัวเลยก็ได้ หากไม่มีความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและดีมานด์จากตลาด

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า Apple อาจกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างทำ iPad Fold กับ MacBook แบบจอพับได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่

ที่มา : digitimes, macrumors, gsmarena