เราน่าจะเคยได้เห็นส่วนแบ่งยอดขายสมาร์ทโฟนที่แอนดรอยด์กินไปเกือบ 80% ของทั่วโลกไปบ้างแล้ว แต่ว่าหากมองในเรื่องของเชิงธุรกิจแล้ว Android กลับแพ้ Apple แบบหลุดลุ่ย เพราะ Apple เป็นแบรนด์ที่สามารถทำกำไรได้สูงสุด กินส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นในอุตสากรรมมือถือไปถึง 93% ในไตรมาสล่าสุด กล่าวคือถ้าทั้งวงการขายมือถือไปมีกำไร 1000 ล้านเหรียญ Apple ฟาดไปราวๆ 930 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลืออยู่ กำไรกระจิ๊ดริด – เท่าทุน – หรือขาดทุน!!

กำไรส่วนที่เหลือเป็นของ Samsung ที่ 9% !?!

ทำไมเป็น 9% เพิ่มมาจากไหนเป็น 102% …นั่นก็เพราะว่าแบรนด์อื่นๆไม่มีกำไรจากการการขาย Smartphone นี้เลย รวมถึง Microsoft ที่ขาดทุนไป 2% จึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงรวมทั้งหมดแล้วเป็น 102% ครับ

อย่างไรก็ดี นี่เป็นการสำรวจบริษัทเพียงไม่กี่เจ้า ได้แก่ Apple, Microsoft, Samsung, BlackBerry, Lenovo, Sony, LG และ HTC เท่านั้น ยังไม่นับรวมแบรนด์จีนอย่าง Huawei, ZTE, หรือ Xiaomi เข้าไป จึงอาจจะยังบอกไม่ได้ว่าเป็นตัวเลขที่ถูกต้องแค่ไหน แต่เชื่อว่าไม่น่าจะต่างไปมากนัก เพราะแต่ละแบรนด์ข้างต้นก็ขายราคาถูกกำไรต่ำกันทั้งสิ้น

 


iPhone 6 จะยังขายดีต่อไปอีก

นักวิเคราะห์ผู้ทำรายงานชุดนี้ออกมาบอกว่า iPhone 6 วันนี้ขายไปเพียง 15% ของจำนวน iPhone รุ่นก่อนๆหน้านี้ ที่มีจำนวนราว 404 ล้านเครื่อง ซึ่งผู้ที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็น่าจะทยอยอัพเกรดขึ้นมาใช้ iPhone 6 กันเรื่อยๆ รวมถึงกินส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์หน้าจอใหญ่และรุ่นราคาพรีเมียมของแบรนด์อื่นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าภายในปีนี้จะมีผู้ใช้ iPhone เติบโตขึ้นเป็น 487 ล้านราย (subscribers) และสูงถึง 650 ล้านรายในปี 2018

 

ขายแพงกำไรดี ควบคุมต้นทุนต่ำ สูตรสำเร็จที่หลายๆบริษัทรู้แต่ทำไม่ได้ (หรือไม่ทำ)

อันนี้ตามข่าวต้นทางไม่ได้เขียน แต่เนื่องจากเคยทำงานในวงการนี้มาก่อนจึงพอจะทราบมาว่าการที่ Apple มีกำไรสวยหรูขนาดนี้ได้ไม่ใช่เพียงแค่ขายแพงกำไรต่อเครื่องสูงเท่านั้น แต่เกิดจากการจัดการภายใน การผลิตและควบคุมสต๊อก การทำการตลาด และอื่นๆอีกมากมาย ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแบรนด์อื่นๆ ทำให้ต้นทุนของ Apple ต่ำกว่าชาวบ้านเค้าอีกต่างหาก เรียกว่าขายแพงกว่าชาวบ้าน และต้นทุนต่ำกว่าคนอื่นอีก Apple เลยรวยเละเทะ ล่าสุดทำกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทในตลาดหุ้นที่อเมริกา คิดเป็นเงิน 18,000 ล้านเหรียญ หรือราว 586,000 ล้านบาท1 เลยทีเดียว

 

ยินดีกับ Apple ที่ทำกำไร ประกอบธุรกิจได้เจริญงอกงาม แต่ก็ขอบคุณ Google ที่ปั้น Android ขึ้นมาให้คนทั่วโลกมีโอกาสได้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้นเช่นกัน 🙂

 

ที่มา Barrons.com (via Blognone), Financial Times1