วันนี้ทาง Apple ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ มากมายที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาประสบการณ์ในการใช้งานของบุคคลทุพพลภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนไหว การมองเห็น การได้ยิน และทางสมอง ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ ๆ พวกนี้ จะเข้ามามีบทบาทช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีความผิดปกติทางร่างกายสามารถเข้าถึง และใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ได้ง่ายขึ้น

SignTime บริการล่ามภาษามือสำหรับ Applecare

สำหรับฟีเจอร์แรกอย่าง SignTime เป็นบริการล่ามภาษามือ สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple สามารถติดต่อสื่อสารกับ AppleCare และบริการหลังการขายผ่านล่ามภาษามือของทาง Apple ได้ ซึ่งตอนนี้รองรับภาษามือของ สหรัฐอเมริกา, สหราชอณาจักร และฝรั่งเศส สามารถใช้งานได้จากหน้าเบราว์เซอร์โดยตรง หรือเข้าไปที่ Apple Store แล้วเรียกใช้เพื่อคุยกับพนักงานก็ได้ โดยตอนนี้จะเปิดให้ใช้งานใน 3 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอณาจักร และฝรั่งเศส และจะขยายขอบเขตบริการไปประเทศอื่น ๆ ในอนาคต

 

ใช้งานโดยไม่ต้องแตะหน้าจอด้วย Assistive Touch บน Apple Watch 

Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Assistive Touch บน WatchOS ให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมคำสั่งต่าง ๆ บน Apple Watch ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องแตะหน้าจอเลย โดยผู้ใช้งานควบคุมคำสั่งต่าง ๆ บน Apple Watch ด้วยการเกร็งหรือขยับแขนในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเซนเซอร์ Gyroscope, Accelerometer และเซ็นเซอร์วัดระดับหัวใจแบบออปติคัล จะทำงานร่วมกันจน Apple Watch สามารถตรวจจับการขยับ หรือการเกร็งแขนแทนการใช้นิ้วจิ้มหน้าจอ ให้ผู้ใช้งานสามารถทำมือในลักษณะกำมือ หรือทำมือเป็นจีบ ซึ่งสามารถใช้รับสาย ขยับเคอร์เซอร์บนหน้าจอ และอื่น ๆ ได้อีกมากมาย

แค่กรอกตาก็ใช้งาน iPad OS ได้ แบบไม่ต้องสัมผัส

iPadOS จะถูกอัปเดตเพื่อให้รองรับเซ็นเซอร์ติดตามสายตาของผู้พัฒนาแบบ Third-party ได้ โดยผู้ใช้งานจะสามารถควบคุมการทำงานของ iPad ได้เพียงแค่ใช้สายตาเท่านั้น ซึ่งภายในปลายปีนี้อุปกรณ์ MFi ที่รองรับกับ iPadOS จะสามารถขยับเคอร์เซอร์บน iPad ได้เพียงใช้แค่การกวาดสายตา และสามารถกดสั่งงานแบบแตะได้โดยการจ้องที่ตำแหน่งเดียวกันซักพักนึง เป็นต้น

 

อ่านออกเสียงสิ่งที่อยู่บนจอด้วย VoiceOver สำหรับผู้พิการทางสายตา

ฟีเจอร์ VoiceOver ที่อยู่ในหน้า Accessibility ก็ไม่ใช่อะไรใหม่เพราะก็มีติดเครื่องมานานอยู่พอตัว โดยมันจะทำหน้าที่อ่าน และระบุตัวเลือกต่าง ๆ ในหน้าจอให้ผู้ใช้งานที่พิการทางสายตาสามารถใช้งานมือถือได้ ซึ่งล่าสุดได้มีการอัปเดตเพิ่มเติมให้สามารถสแกน และอธิบายรูปภาพบนหน้าจอได้ โดยถ้าเป็นภาพคน VoiceOver จะทำการอธิบายตำแหน่ง และท่าทางของบุคคล พร้อมทั้งสิ่งของต่าง ๆ ในรูปให้ผู้ใช้งานสามารถนึกภาพตามได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากรูปภาพแล้ว VoiceOver ยังสามารถตรวจจับ และอธิบายตัวอักษร, ตาราง ฯลฯ ได้อีกด้วย และสำหรับผู้ใช้งานที่อยากบันทึกคำอธิบายเอาเองก็ใช้ฟีเจอร์ Markup ในการใส่คำอธิบายของตัวเองเข้าไปในรูปภาพได้

 

รองรับเครื่องช่วยฟัง และ Audiogram บน iPhone

Apple อัปเดตโปรแกรมเครื่องช่วยฟัง MFi เพิ่มการรองรับเครื่องช่วยฟังแบบ Bi-directional (สองทิศทาง) เพื่อให้ผู้ที่พิการทางการได้ยินสามารถใช้เครื่องช่วยฟังควบคู่ไปกับ iPhone ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดคอลแบบใช้ลำโพง หรือการคุย FaceTime ซึ่งเครื่องช่วยฟังรุ่นใหม่ของ Mfi จะเริ่มวางขายภายในปีนี้

นอกจากนั้น Apple จะยังเพิ่มฟีเจอร์ Audiograms ชาร์ตแสดงผลการทดสอบการได้ยิน เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้กับหูฟังเพื่อให้การได้ยินดีขึ้นได้ โดยผู้ใช้งานสามารถ Import ผลการทดสอบจากกระดาษ หรือไฟล์ PDF เข้าไปยัง iPhone ได้โดยตรง แล้วตัวโปรแกรมจะแปลงข้อมูลเหล่านั้น และนำไปปรับให้หูฟังเร่งเสียงบางย่านความถี่ ให้ฟังง่ายขึ้นนั่นเอง

 

เปลี่ยนเสียงรบกวนเป็นเสียงผ่อนคลาย สำหรับผู้มีปัญหาทางระบบประสาท

สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านระบบประสาท เสียงพื้นหลังในชีวิตประจำวันอาจเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดอาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสียสมาธิ หงุดหงิด หรือความรู้สึกกดดันได้ Apple จึงเปิดตัวฟีเจอร์เสียงพื้นหลังใหม่ ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอก และสร้างเสียงใหม่ขึ้นมาให้ผู้ใช้งานรู้สึกสงบผ่อนคลายมากขึ้น มีให้เลือกมากมายหลายเสียงตั้งแต่เสียง ทะเล สายฝน หรือกระแสน้ำ เล่นวนไปเรื่อย ๆ เพื่อกลบเสียงภายนอกที่ไม่ต้องการ

ฟีเจอร์อื่น ๆ 

นอกจากฟีเจอร์มากมายที่บอกไปก่อนหน้านี้ ก็ยังมีฟีเจอร์เล็ก ๆ อีกมากมายที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของบุคคลทุพพลภาพง่ายขึ้นดังนี้

ระบบคำสั่งเสียงสำหรับควบคุม iPhone

Switch Control เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม iPhone ของตัวเองได้อย่างง่าย ๆ เพียงไม่กี่ปุ่มเท่านั้น ซึ่งเพื่อผู้ใช้งานทุพพลภาพสามารถควบคุม iPhone ได้ง่ายมากขึ้น Apple จึงเพิ่มฟีเจอร์การควบคุมเสียงเข้าไปใน Switch Control ใช้เป็นเสียงปาก เช่นเสียงเดาะลิ้น เสียงเป่าปาก หรือเสียง “อี” เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เป็นใบ้ หูหนวก หรือไม่สามารถสามารถควบคุม iPhone ของตัวเองได้ง่ายขึ้น

ทางเลือกตั้งค่าตัวอักษรที่มากขึ้น

ผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการตั้งค่าตัวอักษรที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีหรือขนาดตัวอักษรให้แต่ละแอปพลิเคชัน ให้ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาเช่นตาบอดสีสามารถอ่านตัวอักษรได้ง่ายดายมากขึ้น

Memoji แบบใหม่

ถือว่าเป็นฟีเจอร์น่ารัก ๆ ที่เพิ่มเข้ามาให้ผู้ใช้งานทุพพลภาพสามารถแสดงตัวตนของตัวเองออกมาได้ด้วยเครื่องตกแต่ง Memoji จำพวก ท่ออ็อกซิเจน เครื่องช่วยฟัง และหมวกนิรภัยแบบนุ่ม

เทรนเนอร์ใช้ภาษามือใน Apple Fitness+

นอกจากเรื่องฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เทรนเนอร์ในแอป Fitness+ ยังมีการใช้สัญญาณมือในการให้กำลังใจผู้ใช้งานทุพพลภาพทั้งหลาย ด้วยภาษามือจำพวก “ยินดีต้อนรับ” “เก่งมาก” “ได้เวลาเดินแล้ว” แถมยังมีโปรแกรมออกกำลังกายที่ออกแบบโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้ออกกำลังที่นั่งรถเข็นสามารถเล่นตามได้

ถือว่าเป็นอัปเดตที่ใหญ่มาก ๆ ของ Apple เพื่อให้ผู้ใช้งานที่มีข้อบกพร่องทางร่างกายสามารถใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ จาก Apple ได้สะดวกง่ายดายมากขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วบางฟีเจอร์อย่าง Assistive Touch บน Apple Watch ก็สามารถหยิบมาใช้กับคนปกติได้เหมือนกันนะครับ เพราะดู ๆ ไปแล้วก็เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกดีเหมือนกัน

 

Source: AppleNewsroom