ตอนแรกดูเหมือนว่า iPod Touch จะเป็นโปรเจ็คที่ทาง Apple ทิ้งเลิกผลิตกันไปแล้ว ทว่าล่าสุด Apple ได้เปิดตัว iPod Touch 2019 ตัวใหม่ แต่สเปคค่อนข้างจะเก่า โดยรอบนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A10 (ตัวเดียวกับที่เราเห็นกันใน iPhone 7) และถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชิปตัวล่าสุดอย่าง A12 แต่ก็ถือว่าอัพเกรดจากรุ่นก่อนอยู่มากเลยทีเดียว โดยในรุ่นก่อนจะใช้ชิปเซ็ตเพียงตัว A8 เท่านั้น
ถึงจะไม่ใช่ชิปเซ็ตตัวที่แรงหรือใหม่ล่าสุดในตลาด แต่ทาง Apple ก็เอาฟีเจอร์ใหม่ๆ จากใน iPhone มาใส่ให้กับ iPod Touch 2019 เพียบ ไม่ว่าจะการใช้งาน FaceTime แบบหลายคน ซึ่งสามารถคุยพร้อมกันได้มากถึง 32 คนในเวลาเดียวกัน (แต่ทางที่ดีคุยคนเดียวดีที่สุดน้า.. อ่อคนละเรื่อง) นอกจากนี้ยังมีกล้อง และใช้ฟีเจอร์ AR ได้อีกด้วย ในส่วนของหน่วยความจำก็มีให้เลือกถึง 3 แบบ ตั้งแต่ 32GB, 128GB และ 256GB!
ส่วนที่เหลือก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากตัวก่อนอะไรเลยแต่อย่างใด ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกัน!
สเปค iPod Touch
- ระบบปฏิบัติการ iOS 12
- หน้าจอ
- จอภาพ Multi-Touch ไวด์สกรีน ขนาด 4 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS
- ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซลที่ 326 ppi
- อัตราส่วนคอนทราสต์ 800:1 (ทั่วไป)
- ความสว่างสูงสุด 500 cd/m2 (ทั่วไป)
- เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ
- กล้องหลัง
- ความละเอียด 8MP
- รูรับแสง f/2.4
- เซ็นเซอร์รับแสงด้วยส่วนหลัง
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ
- HDR สำหรับภาพถ่าย
- กล้องหน้าความละเอียด 1.2 MP
- ลำโพงแบบ single loudspeaker
- ไม่มี Face ID, Touch ID, 3D Touch หรือ haptic feedback
- การเชื่อมต่อ
- Wi‑Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
- เทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth 4.1
- แผนที่: บริการอ้างอิงตำแหน่ง
- แบตเตอรี่
- ระยะเวลาการเล่นเพลง: สูงสุด 40 ชั่วโมง
- ระยะเวลาการเล่นวิดีโอ: สูงสุด 8 ชั่วโมง
- รูเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม
- ของแถมภายในกล่อง
- iPod touch
- Apple EarPods
- สาย Lightning เป็น USB
- คู่มือเริ่มต้นแบบรวดเร็ว
- วางขายทั้งหมด 6 สีไม่ว่าจะเป็นสีชมพู, สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีทอง, สีฟ้า และสีแดงซึ่งเป็นรุ่น (PRODUCT) Red หมายความว่ารายได้ส่วนหนึ่งของการขายเครื่องสีแดงจะเป็นการสมทบทุนให้กองทุนโลกเพื่อต่อต้านโรคเอดส์โดยตรง
- ราคา
- 32GB ที่ 6,900 บาท
- 128GB ที่ 10,900 บาท
- 256GB ที่ 14,900 บาท
เพื่อนๆ คิดว่าในปัจจุบัน iPod Touch จะยังจำเป็นอยู่หรือเปล่า? เรายังต้องการอุปกรณ์ฟังเพลงแยกต่างหากหรือไม่ หรือจะเอามาเล่นเกม (บนหน้าจอ 4 นิ้ว) เพราะหากจะมองกันตอนนี้สมาร์ทโฟนราคาระดับเดียวกันในฝั่ง Android นั้นก็ได้สเปคที่ดีมากๆ แถมยังจอใหญ่ระดับ 6 นิ้วกันแล้ว
ที่มา: Apple
มันกลับมาแหละ 🙂 🙂
❌
worthless to pay
ใครไม่ซื้อช่างหัวมัน ผมซื้อ
32GB + A12 ราคา 9,900 ผมซื้อเลยนะ
คิดถึง ipod classic กลับมาด้วยสิคับ
ถ้าสายเพลงจริงๆ ผมว่าซื้อครับ เพราะมือถือราคา 6900 ที่อเนกประสงค์ อาจจะไม่ตอบโจทย์คุณภาพเสียงที่สายเพลงต้องการได้ครับ
ต้องรอรีวิวว่า มันจะมาสมชื่อในอดีตหรือเปล่าที่ไดรเวอร์เรื่องเสียงนี่หลายคนยอมรับ
พอเอาไปเทียบกับ iPad mini แล้ว
เหตุผลที่ผมควรจะซื้อ iPod touch ที่รอคอยมานาน มันแทบจะหมดลงเลยทีเดียว
ราคาต่างกัน 7000 ผมว่าแล้วแต่ประโยชน์การใช้งานมากกว่าครับ
อยากรู้แค่ว่าเอามาฟังเพลงแล้ว คุณภาพเสียงจะดีกว่า iPad Mini รึเปล่านี่แหละครับ
เพราะถ้าจะซื้อก็คงไม่ซื้อตัว 32GB ครับ
กลับมาตอนนี้นี่คิดหนักเลย หลังจากขาย touch 5 ไปก็ขี้เกียจพก 2 เครื่องแระ
แต่ยังคิดถึงแนวเสียงของไอพอด โปร่ง โล่ง ฟังสบาย กำลังขับเหลือเฟือ
ถ้ายัดA12มา ใส่จอ4.7นิ้ว 1080p เริ่มต้นซัก64GB 11,900 คงขายดีเหมือนแจก แต่ก็นะเอามาฟังเพลงดูคลิปเล่นเกมขำๆ CPUก็แอบแรงอยู่เบาๆเหลือๆละ แค่ฟังเพลง32GBเหลือๆ ลงเกมด้วยคงไป128GB ตัว32GBแค่ลงRO Mobileเกมเดียวคงแทบหมดพื้นที่แล้ว เสียดายไม่มีรุ่นตรงกลาง64GB ปล.เหมือนเป็นDeviceเริ่มต้นให้เข้าEco Systemมากกว่า
เสียดาย น่าเป็น Bluetooth 5.0
ตอนนี้อุปกรณ์ก็มีหลายตัวด้วย T_T
ไม่มีชิปเสียง ไม่ใช้บลูทูธ 5.0 ไม่ใช่สาวกคงซื้ออยาก ราคาแรง
ตลาดเครื่องเล่นเพลงยังไปได้เรื่อยๆในระดับนิชมาร์เก็ต
แต่ต้องเน้นเรื่อง DAC เรื่อง Amp เรื่องเสียงมากๆ
ให้เจาะกลุ่มนักฟังระดับจริงจังให้ได้
แต่ดูจากฟีเจอร์และราคาแล้วคงไม่ได้อัดของเทพอะไรเท่าไหร่
จุดเด่นคือรูหูฟังที่ถูกมือถือตัดออกไปแน่ๆ 55
สำหรับการฟังผ่านหูฟัง wireless ไม่รองรับ BT5 ไม่มี aptX HD นับว่าไม่ตอบโจทย์
สำหรับการฟังผ่านรูหูฟัง ต้องรอดูชิปเสียง แต่ปกติ Apple ให้แค่ดีกว่ารุ่นกลางตลาด (แต่แพงกว่า)
กับค่านิยมปัจจุบันพกมือถือคนละสองเครื่อง ผมว่าเกินความจำเป็นมากๆ เพราะจะกลายเป็น 3 เครื่อง นี่ไม่นับ ipad 55
ฟังเพลง เล่นเนต โซเชียล ไม่เล่นเกมส์ เหลือเฟือครับ ราคา6900 ตัวเล็กเบาด้วยพกสะดวก