หลังจากตบตีกันมานานระหว่าง Samsung และ Apple ล่าสุดศาลสหรัฐฯก็ใช้เวลากว่า 21 ชั่วโมง เคาะโต๊ะทุบโป้งแล้วว่า Samsung ละเมิดสิทธิบัตรของ Apple จริง พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ทาง Apple อ่วมอรทัยกว่า 32000 ล้านบาท
โดยสิทธิบัตรที่ทางศาลตัดสินว่า Samsung ละเมิด Apple มีอยู่หลายตัวด้วยกันเช่น สิทธิบัตรหมายเลข 381 เกี่ยวกับการ “เด้งกลับเมื่อ Scroll จนสุด” ของ UI ทาง Samsung ละเมิดทั้งหมด 21 รุ่น สิทธิบัตรหมายเลข 915 เกี่ยวกับการ Scroll โดยใช้นิ้วเดียวรวมถึงการ Pinch-Zoom สิทธิบัตรหมายเลข 163 การ “Tap to Zoom” นอกจากนั้นยังมีสิทธิบัตรหมายเลข D’677 และ D’087 เกี่ยวกับการ “ลอกดีไซน์” และ หมายเลข D’305 เกี่ยวกับการดีไซน์ User Interface สำหรับมือถือที่ละเมิดก็ได้แก่ Captivate, Continuum, Droid Charge, Epic 4G, Exhibit 4G, Fascinate, Galaxy Ace, Galaxy Indulge, Galaxy Prevail, Galaxy S, Galaxy S 4G, Galaxy S II (AT&T), Galaxy S II (unlocked), Galaxy Tab, Galaxy Tab 10.1, Gem, Infuse 4G, Mesmerize, Nexus S 4G, Replenish, Vibrant
งานนี้เรียกได้ว่าอ่วมทีเดียวสำหรับ Samsung เพราะโดนปรับไปเต็มๆ 1.05 พันล้าน แต่สำหรับแอปเปิ้ลแล้วก็ถือว่าน้อยกว่าที่คาดไว้เท่าตัวนึงเลยทีเดียว เพราะ Apple คาดหวังจะได้ค่าปรับ $2.5 พันล้านเหรียญแหนะ
หลังจากศาลตัดสินทาง Apple ก็ออกมาประกาศชัยชนะ เนื้อหาคร่าวๆว่า
“เรารู้สึกยินดีมากกับผลการตัดสิน ตลอดการสืบสวนที่ผ่านมาหลายเดือนทำให้เราได้รู้ว่า Samsung ลอกพวกเราไปไกลกว่าที่เรารู้มาก การฟ้องร้องระหว่าง Samsung กับ Apple มันไม่ได้เกี่ยวกับสิทธิบัตรหรอก แต่มันเกี่ยวกับคุณค่า พวกเราทุ่มเทสุดตัวเพื่อทำนวัตกรรมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ไม่ใช่เพื่อให้ใครลอกและขโมยไป พวกเราขอปรบมือให้กับศาลที่ตัดสินอย่างยุติธรรมและเป็นการประกาศว่า การขโมยไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง”
ทางด้าน Samsung ก็ออกมาพูดอย่างผิดหวัง
“ผลการตัดสินครั้งนี้ไม่ใช่การชนะของ Apple แต่เป็นความพ่ายแพ้ของอเมริกันชนทุกท่าน มันจะทำให้ตัวเลือกการใช้งานน้อยลง นวัตกรรมน้อยลงและราคาแพงขึ้น มันน่าเศร้ามากที่ระบบสิทธิบัตรทำให้เทคโนโลยีจำกัดอยู่แค่ในบริษัทเดียว (บลาๆๆๆๆ พูดอีกยาวแต่เนื้อหาเหมือนเดิม)” แล้วจบด้วยว่า “แต่ซัมซุงจะดำเนินการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างตัวเลือกให้ลูกค้าต่อไป”
ส่วนคดีที่ Samsung ฟ้อง Apple เรื่องละเมิดสิทธิบัตรต่างๆ ศาลสหรัฐฯก็เคาะเหมือนกันว่า Apple ไม่ได้ละเมิดอะไรซัมซุงเลยแม้แต่ข้อหาเดียว
ทั้งนี้ Q2 2012 ที่ผ่านมา Samsung (ทุกแผนกรวมกัน) ฟันกำไรไป 5.9 พันล้านเหรียญ เฉพาะส่วนของมือถือก็ฟันไปเหนาะๆ 3.64 พันล้านเหรียญ ดังนั้นถึง 1.05 พันล้านเหรียญจะเป็นเงินที่มากโขอยู่ แต่ขนหน้าแข้งของซัมซุงก็ยังไม่ได้ร่วงลงไปเยอะมาก
สิ่งที่น่าขันหลังจากคำตัดสินนี้ออกคือ “แอปเปิ้ลเลวอย่างโน้นเลวอย่างนี้” ทั้งๆที่ทั้งกระบวนการทำออกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เห็นทีการรักษาสิทธิ์จะกลายเป็นเรื่องผิดไปแล้ว
Source: TechCrunch, Engadget, Business Insider
เต็มข้อ =_="
แต่มันก็น่าเห็นใจ เพราะในหนังสือที่เคยอ่าน บางท่านใช้ศัพท์คำว่า "แรงบันดาลใจ" แทนคำว่า copy
ซึ่งเทคโนโลยีบางอย่าง มันน่าจะแพร่หลายมากกว่าจริงๆ ซึ่งบางอย่างทาง apple ก็มีมาทีหลังค่ายอื่น แต่ไม่มีใครจดสิทธิบัตรไว้
และหวังว่าจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทาง SS คงไม่ขึ้นราคาโทรศัพท์ที่จะออกในรุ่นต่อไปนะครับ
apple เห็นแก่ตัวมากๆครับ ทั้ง multitouch,tap to zoom มันมีมาก่อนแต่ไม่มีใครจดเพราะจะได้แบ่งๆกันใช้
แบบนี้ใครอยากได้ Multitouch, Tap to zoom ก็ต้องไปใช้ของ Apple หมด…..
ตัวเลือกก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มี SS วันนี้ สงสัย Apple คงเป็นเจ้าแห่ง Smart Phone ไปแล้ว เพราะยังไม่เห็นมีใครจะพอสู้ Apple ได้นอกจาก SS เลย
HTC ก็ไกล้ตายจากยอดขายเข้าทุกที LG SONY ก็ยังไม่แข็งพอ….
ถ้าวันที่ Apple เป็นเจ้าเดียวในตลอด… Apple จะขึ้นราคาเท่าไรก็ได้ จะกดราคาจาก Supplier เท่าไรก็ได้… แล้วมันจะดียังไง…..
หวังว่า Google(Motorola) จะชนะ Apple ในเรื่องที่ฟ้องกันอยู่นะ. Apple จะได้ถือเป็นคนผิดบ้าง….
ถ้าอยากจะใช้จริงๆ ก็ให้ google หรือไม่ก็ samsung ไปขอซื้อสิทธิบัตรในส่วนนั้นๆ ครับ เพียงแต่จะทำให้ต้นทุนของเพิ่มขึ้นแน่นอน ตรงข้าม ถ้าหากมีแนวคิดหรือนวัตรกรรมไหนที่ซัมซุงหรือกูเกิ้ลคิดได้ก่อน แล้วจดสิทธิบัตรไว้ หากวันนึง apple อยากจะใช้งาน ก็ต้องมีเจรจาขอซื้อเช่นกันครับ
Samsung ได้จดสิทธิบัตรอะไรไว้มั่งมั้ย เช่น ปากกา S-pen ของ Note เผื่ออนาคตApple อยากจะใช้ปากกาขึ้นมาจะได้…. เดี๊ยวมันจะชิงเอาไปจดอีก
ไม่ทันแล้วววมันจดไปแล้วครับ แต่รู้สึกซัมซุงก็จดด้วยมั้ง
ถ้าอะไรที่มีก่อนที่เหมือนกัน ไม่สามารถไปจดได้หรอกครับ อาจจะคนละเทคนิคหรืออะไรก็เป็นได้ ไม่ได้เป็นแบบเหมาะจะมาใส่กับมือถือเครื่องเล็กๆ
เกลียดผลไม้เน่า -_- เห็นแก่ตัว เอาของคนอื่นไปจดสิทธิบัติหมด
เมกาเอาข้าวหอมมะลิเราไปจดเป็นของเขา แต่ไม่มีคนไทยออกมาบ่น
บ่นแล้ว แต่ทำไรไม่ได้
คนรับจดก็นะ แหม เมกาจด แต่ไม่ดูว่าเมกามีรึเปล่า
น่าสงสารแอปเปิ้ล อยู่ดีๆกลายเป็นผิดแทนซะงั้น เฮ้ออออ
คำตัดสินนี้ น่าจะทำให้ยอดขายของ samsung ดิ่งลงเหวแน่ๆ
คนซื้อคงมีความรู้สึกว่าซื้อของเลียนแบบไปด้วย
ตลาดอเมริกา คงสู้ของบริษัท ในอเมริกา ไม่ได้แล้วมั่งเนี่ย
[color=red]
เกียด[/color]เกลียดมันจริงๆ ไอผลไม้โดนหนอนกินเนี่ย ถ้าจ้อบยังไม่ตายจะบอกว่า [color=red]เกียด[/color]เกลียดจ้อบ 555ภาษาไทยเราเนี่ย … เขียนให้ถูกหน่อยสิ
ที่ขีดสีแดงนี่คุณเนยขีดให้เหรอ ฮา
มีปุ่ม "โปรดปราน" ให้กดมั้ยครับ อยากกดให้กับคุณเนย
ฮาเลย 55+
งั้นก็ตามไปบอก จ๊อบ ถึงที่ ดิ
โมโตมีสิทธิบัตรไรมั่งเนี่ย จัดไปหน่อยดิ ตัวเองทำมือถือเครื่องแรกของโลกไม่ใช่หรอ น่าจะมีอะไรแรงๆให้เล้นบ้างนะ
ต่อให้ไม่มีสมาร์ทโฟน ของ Samsung หรือค่ายอื่นๆ ยังไงๆ ก็ไม่ใช้ของ Apple [ถ้าให้ใช้ Apple ผมไปใช้ 3310 ดีกว่า ]
[โดนไอ้พวกสาวกเล่นไว้เยอะเลยแค้นฝังเมล็ด[Apple]]
เหมือนกันเลยค่ะ
บางอย่างถ้าเพื่อนที่ใช้ apple ไม่บอกว่าทำไม่ได้นะ ไม่รู้เลยอ่ะ นึกว่ามือถือทุกแบบทำได้แต่ apple ดันทำไม่ได้…
แต่ผมใช้ apple น่ะ เกมมันสนุกกว่า 3310
นึกสภาพไม่ออกเลย ว่าถ้าอนาคต Apple ไม่มีคู่แข่ง ไม่มีใครมาคานอำนาจส่วนแบ่งได้ ราคาdeviceของ Apple ทั้งหลายมันจะไปจบที่เท่าไหรกัน ถ้าเป็นจอสัมผัส ต้องห้ามมีMultitouch, Tap to zoom คงจะเทียบเหมือนกับขายรถ ห้ามมีล้อละมั้ง
คงจะเทียบเหมือนกับขายรถ ห้ามมีล้อละมั้ง <— เห็นด้วยครับ
ถ้า Apple ผลิตรถคง Patent ล้อกลมๆแน่ๆเลย อะไรที่เป็นรูปกลมๆก็เป็นของเขาหมด ใครใช้คงโดดฟ้องเป็นแน่
คงได้เห็นรถมีล้อทรงหกเหลี่ยม?
สิทธิบัตรมันมีอายุครับ 15 หรือ 20 ปีนี่ล่ะ แล้วจากนั้นคนอื่นก็ใช้ต่อได้ครับ
อย่างจอ LCD แรกๆ แพงมาก แต่ตอนนี้ถูกเพราะอะไร เพราะระยะเวลาสิทธิบัตรหมดลง คนอื่นก็เอาไปทำได้ครับ กฏหมายเขาออกมาให้สมดุล คนคิดควรจะได้อะไรบ้าง
แล้วสิทธิบัตรที่มี คนอื่นอยากเอาไปใช้ ก็จ่ายค่าสิทธิบัตรครับ (แต่เจ้าของสิทธิบัตรจะขายหรือไม่ขายนั่นอีกเรื่อง)
ล้อรถแรกๆ ที่มีคนคิดออกมา คนอื่นจะทำตาม ก็ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตร อันนี้ก็เช่นกัน ตอนโนเกียชนะคดีแอปเปิ้ล แอปเปิ้ลก็จ่ายค่าปรับกันไป
ผมล่ะแปลกใจมากว่าคนไทย พืชสมุนไพร พันธุ์พืชต่างๆ ถูกมหาอำนาจเอาไปจดตั้งเยอะ ไม่เคยมีคนไทยออกมาทวงสิทธิ์ หรือด่าเมกา แต่แอปเปิ้ลกับซัมซุง ด่ากันจะเป็นจะตาย ไม่มีมือถือ เรายังอยู่ได้ แต่ไม่มีข้าว อยู่กันได้ไหมครับ
+1 คับ เคยรู้มั้ยว่าข้าวไทย(จำไม่ได้ว่าพันธ์อะไร) และยังมีท่ารำ และอื่นๆ โดนเขมรจดสิทธิบัตรไปแล้ว ตอนนี้กำลังยื่นหลักฐานอยู่ว่ามันเป็นของเรา
มันเป็นกลไกการรักษาสิทธิ์หนิ … ไม่งั้นก็เปิดองค์กรการกุศลเถิด กำรงกำไรไม่ต้องหาละ เงินเดือนที่ทำงานแต่ละเดือนได้มาก็เอาไปบริจาคให้หมดด้วยนะ
รถไม่มีล้อนี่เป็นประเด็นที่คนตั้งมาเพื่อให้ด่าอย่างเดียวจริงๆ มันไม่มีประเด็นอื่นเลย ล้อมันเป็นเรื่อง "พื้นฐาน" เค้าไม่ให้จดสิทธิบัตรหรอก สิทธิบัตรจะให้จดก็ต่อเมื่อมีการต่อยอด มีความ Uniqueness และการจดสิทธิบัตรมันไม่ได้ง่ายนะ ไม่ใช่แค่ยื่นแล้วได้เลย ต้องทำอะไรอีกเป็นพันอย่าง รวมถึงการเคลมว่าเราเป็นคนคิดเองคนแรก ซึ่งปกติจะมีบริษัทมาเคลมว่านั่นเราคิดมาก่อนนานแล้วนะ สุดท้ายจะจบด้วยการเอาเงินให้เพื่อยอมความและถือครองสิทธิบัตรนั้นๆ
ถ้ามีสิทธิบัตรในมือแล้ว นั่นแปลว่าเค้าก็ต้องสามารถปกป้องสิทธิ์ในเรื่องนั้นๆได้เต็มที่ ไม่งั้นก็จะโดนขโมยผลงานกันหน้าด้านๆตลอดไป แล้วใครจะอยากคิดอะไรใหม่ๆอีกหละ? ถามว่าถ้าวันนั้น Apple ไม่ได้คิด Pinch Zoom ทุกวันนี้จะมีคนใช้มั้ย? ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วนั่นแหละความหมายของคำว่า "ลอก"
+10 ครับ เค้าก็แค่รักษาสิทธิ์
+10ครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
บางอย่างมันก็ดูลอกเค้าจริงๆ
ความเข้าใจด้านสิทธิบัตรของ"คนไทย"ยังน้อยครับ
ต้องเรียนรู้ หาข้อมูล และ"จับตา"ดูกันต่อไป 🙂
ความเข้าใจเรื่องผลกระทบต่อผู้บริโภคก็น้อยครับ สนใจแต่จะปกป้องผลประโยชน์ให้บริษัทใหญ่ ๆ อย่างเดียว ไม่สนใจปกป้องผลประโยชน์ตนเอง
ต้องบอกให้ Samsung ทำตามที่ โน๊ต อุดม บอกครับ อยากซูมก็ดูด อยากย่อก็เป่าอะ อิอิ ล้อเล่นข่ำๆนะ ไปละ ฟิ้วววว…
เห็นด้วยกับน้องเนยครับ คนที่ด่าๆ เนี่ย รู้ไหมครับว่านวัตรกรรมคืออะไร การสร้างสรรค์แต่ละอย่างขึ้นมามันยากมากเลยนะครับ ไม่ใช่คิดค้นกันแค่วันสองวัน แล้วก็สามารถทำออกมาได้เลย ซัมซุงหรือกูเกิ้ลอาจจะได้แนวคิด หรือแรงบันดาลใจมาจาก Apple จริงๆ แล้วก็เอามาปรับเปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง แต่ในการทำงานจริงๆ มันไม่เปลี่ยนหรอกครับ
เอาไว้คุณลองคิดค้นงานอะไรมาได้ซักงานนึง ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วมีคนไปเอาผลงานคุณมาขาย คุณจะรู้ซึ้งเองหล่ะครับ ว่าการโจรกรรมข้อมูลทางความคิด มันเป็นอาชญากรรมร้ายแรงแค่ไหน ถ้าอยากให้มันถูกต้อง ก็เจรจาของซื้อสิทธิบัตรสิครับ มันคุยกันได้ครับ แต่ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นก็เท่านั้น ไม่ใช่ไปเอาแบบของเขามา พอเขาฟ้องแล้วถูกปรับ ก็มาบอกว่าริบรอนสิทธิ์ทำให้นวัตกรรมน้อยลง (โทษนะครับ นวัตกรรมจะน้อยลงได้ไง คุณก็เอามาใช้ได้ ขอซื้อสิครับ ถ้าเขาไม่ขาย คุณก็คิดค้นใหม่ให้มันเจ๋งกว่า apple ไปเลย)
ส่วนเรื่อง Multitouch หรือ Tap to zoom) ที่บอกว่ามีคนทำมาก่อน แต่ apple มาลอก ผมขอยกกรณีศึกษาตัวหนึ่งขึ้นมานะครับ คุณรู้ไหมว่าระบบโทรศัพท์พื้นฐาน หรือโทรศัพท์บ้านเนี่ย คนที่ประวัติศาสตร์ระบุว่าคิดค้นขึ้นมาคนแรกคือ "อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์" นั่นเอง แต่รู้ไหมครับ ว่ามีอีกคนที่มาจดสิทธิบัตรระบบโทรศัพท์พื้นฐานเหมือนกัน แต่ช้ากว่า เกรแฮมแค่ 3 ชั่วโมง (อ่านเจอมาจริงๆ จากในหนังสือการ์ตูนที่เขียนมาเป็นชีวประวัติของบุคคลสำคัญ) เพียงเพราะบ้านหรือโรงงานที่คิดค้นของเขา อยู่ไกลกว่าเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ ผมว่าประวัติศาสตร์คงมีเปลี่ยนแน่นอน ประเด็นนี้อยากบอกว่า คนคิดได้เหมือนๆ กันมีแน่นอนครับ แต่คนคิดแล้วได้รักษาสิทธิตัวเองหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง
แต่อย่าลืมว่า ประเด็นของ ผู้ประดิษฐ์ โทรศัพท์ไม่มีใคร คิดค้นก่อนเค้าจริงๆนะครับ
แต่ใน case นี้ ทั่วไปเค้าก็ใช้กันอยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่มีใครจดแต่จู่ๆ apple ไปจดนะ มันไม่ได้ต่างจากการโจรกรรมของส่วนรวมที่สังคมใช้ร่วมกันไปเป็นของส่วนตัวนะครับ ถึงแม้มันจะถูกต้องในเชิงนิตินัยก็เถอะ
ปล. ส่วนประเด็นอื่นๆพวก UI และ design ผมเห็นด้วยว่า SS ผิดจริง
ถ้ามีคนทำก่อนอยู่แล้วจดไปไม่มีผลนะ รายละเอียดน่าจะไม่เหมือนกัน อย่าง multitouch บนจอใหญ่ๆ ที่เคยมีมาก่อนก็ใช่ว่าจะยัดลงมาในจอเล็กๆ โดยใช้เทคนิคเดียวกันได้นะ
ถ้ามีคนทำก่อนอยู่แล้วจดไปไม่มีผลนะ รายละเอียดน่าจะไม่เหมือนกัน อย่าง multitouch บนจอใหญ่ๆ ที่เคยมีมาก่อนก็ใช่ว่าจะยัดลงมาในจอเล็กๆ โดยใช้เทคนิคเดียวกันได้นะ
Apple ไป "ซื้อ" บริษัทพวกนี้แล้วเอามาพัฒนาต่อ แล้วก็จดสิทธิบัตรนะครับ ไม่ใช่จดเอาดื้อๆ
ประเด็นซิครับเพราะถ้าคนที่คิดทำรถมีความคิดแบบแอปเปิ้ล แล้วเขาลุกขึ้นมาปกป้องล้อที่เขาคิด ห้ามใครเลียนแบบเป็นวงกลมแล้วมันจะเป็นยังไง แล้วถ้าคนที่คิดค้นการส่งสัญญาณโทรศัพท์เขาคิดแบบเดียวกันก็คงไม่มีการพัฒนาเป็นสมาร์ทโฟนเหมือนทุกวันนี้ สิ่งที่แอปเปิ้ลทำผมมองยังไงก็น่าเกลียด ทุกอุปกรณ์ในไอโฟนแอปเปิ้ลก็ไม่ได้คิดเองไปซะทุกอย่างแต่ก็พัฒนาต่อยอดมาอีกทีเหมือนกัน
เห็นแย้งกับคุณเนยนะ ชัดเจนด้วยนะไม่ได้ดราม่า และไม่ได้บอกว่าคุณเนยพูดผิด แต่ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องใครผิดหรือถูกด้วยทั้งซัมซุงและแอปเปิ้ล ผมมองว่าประเด็นสิทธิบัตรที่จดไอเดียเหมาโหลต่างๆหากละคือจุดเริ่มต้นของปัญหา มันเป็นกฏหมายโบราณล้าสมัย เพื่อปกป้องการประดิษฐ์วัตถุสิ่งของ แต่ตอนนี้ไม่ต้องมีของ แต่เป็นแค่ "วิธีการใช้" มันก็จดได้
สมมุติว่าเป็นพวงมาลัยละ ในยุคแรกๆ พวงมาลัยรถมันเป็นแค่ก้านโยกหมุนนะ ถ้าคนที่ทำพวงมาลัยกลมคนแรกทะลึ่งจดสิทธิบัตรวิธีการใช้พวงมาลัย ร่วมๆไปกับการออกแบบพวงมาลัยวงกลมละ แล้วไล่ฟ้องรถยี่ห้ออื่น ป่านนี้พวกเรามิต้องใช้พวงมาลัยแปดเหลี่ยม พร้อมวิธีใช้งานประหลาดๆ กันรึ
โอเคเค้าก็สามารถทำได้ไม่ได้ผิดกฏหมายอะไรแม้แต่ข้อเดียว ถูกอีกด้วยซ้ำถ้ามองในมุมของการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อเอาตัวรอด หรือเพื่อเงิน แต่อย่างว่าของแบบนี้บางทีมันก็อยู่ที่เค้าเลือกที่จะขี้เหนียว (Stingy) หรือเลือกที่จะเป็นการเอื้อเฟื้อ (Contribution) …ของใครบ้างอะไรบ้างก็เท่านั้นแหละ โชคดีสิ่งที่เกิดขึ้นจากแอปเปิ้ลในตอนนี้…มันไม่ได้เกิดขึ้นกับพวงมาลัย
เห็นด้วยอย่างแรงครับ
ผมเห็นด้วยนะครับเรื่องเคารพในสิทธิ์
แต่ "Pinch Zoom ทุกวันนี้จะมีคนใช้มั้ย? ตอบได้เลยว่าไม่" อันนี้ผมว่ามั่นใจเกินไปนะครับ จริงๆ ไม่มีใครรู้หรอกครับ
ตอนนั้นถ้า Apple ไม่คิด จากนั้นมาจนถึงปัจจุบันก็อาจจะมีคนอื่นคิด/ทำ หรือไม่ก็เป็นได้ ถ้าใช้คำว่า คงจะ น่าจะ ด้วยจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าเป็น ความเห็นส่วนตัว อันนี้ไม่เป็นไรครับ
คนไทยคิดแบบนี้เยอะล่ะซี่
เลดี้กากา ถึงไ้ด้บอกว่าสวรรค์ของก็อบ(ไทย)
พี่ nuuneoi+10 คับ
ที่สหรัฐก็คิดแบบนี้เยอะมากครับว่า ระบบสิทธิบัตรของสหรัฐตอนนี้มีจุดอ่อน ถูกนำไปใช้ในแนวทางที่ไม่ได้เป็นการปกป้องสิทธิ เพราะประเทศเค้ามีความสนใจในเรื่องการปกป้องสิทธิของผู้บริโภคด้วย บ้านเราค่อนข้างไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้ คนต่างชาติที่ผมรู้จักมักจะบอกว่าทำไมคนไทยไม่รู้จักปกป้องตัวเอง ผมก็ได้แต่บอกไปว่าคนไทยยังไม่มีความเข้าใจเรื่องสิทธิมากน่ะ นึกว่าเรื่องสิทธิต้องเป็นของคนใหญ่คนโต หรือบริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้น ยิ่งคนธรรมดานี้ไม่ต้องไปพูดถึงเลย
คนไทยที่มีความรู้มักจะปกป้องสิทธิให้บริษัทที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้ถือหุ้นอยู่เลย โดยลืมไปว่ามันมีผลกระทบต่อตนเองด้วย คนมีความรู้ประเทศที่เจริญแล้วเค้าจะคิดถึง การปกป้องสิทธิของบริษัท กับ ผลกระทบผู้บริโภค เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะเขาให้ความสำคัญกับตนเอง
ต้องบอกว่า samsung ลอกเองจริง เป็น โยบายที่ผิด
ส่วนคดีต่อไป Moto ฟ้อง Apple รอต่อไป
ตามความเห็น มันแค่ แอปเปิ้ล ฟ้อง ซัมซุง..ยังไงๆ ซัมซุง ก็ทำโทรศัพท์ได้ในระบบแอนดอย เปลี่ยนหน้าตา เปลี่ยนลูกเล่นไม่ให้เหมือนได้
ยังไม่ใช่ แอปเปิ้ล ฟ้อง แอนดอย กูเกิล…เมื่อนั้นแระ โลกาวินาศ
ไม่หรอก apple ไม่ฟ้อง google หรอก
เพราะถ้าทำแบบนั้น Iphone Ipad
อาจจะไม่มี youtube, google search, google map bra bra เอะ map apple เค้าเริ่มทำเองแล้วนิ
youtube apple เอาออกจาก iOS แล้ว ส่วน Map apple ก็ทำเองแล้ว
Google search กูเกิ้ลเป็นคนจ่ายตังให้ apple ปีล่ะ 100 ล้านดอล เพื่ออยู่ใน ซาฟารี
เหมือน คุณจะบอกว่า อย่าแย๋มกับ google ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ใช้ Google search นะ
ทะเลาะกับ apple ห้ามใช้ google search ถ้าทะเลาะกับไมโครซอฟ วินโดวน์ห้าม ใช้ Google Search
ถ้าไม่มีคนใช้ Google ใครเจ๊ง…..
เดิมที่มากับ windows ก็เป็น msn หรือ bing ผมก็เปิดไป google เพื่อ search ได้ และถ้าทำถึงขนาดที่ไม่ให้เข้าได้ก็จะไม่โดนเรื่องกีดกันเหรอ?
ถ้าห้ามมีจอเป็น 4 เหลี่ยม ผมว่า คอมผมคงเป็นวงกลมซ้อนกันหลายอันเป็น โอลิมปิก แหง๋ๆ หรือ ห้ามมีปุ่มตรงกลาง อาจจะเป็นเม็ด คล้ายๆ m&m แล้วว่าอยู่หลังเครื่องหรือ กลางจอเลยก็ได้ แล้วถ้าไม่ให้เรียงแอปแบบนี้ window ที่ผมใช้มาจะยี่สิบปีแล้วมันก็เรียงแบบนี้ แล้วจะให้เรียงแบบไหน เอาให้เรียงเป็นรูปดาวเหมือนรถเบนส์ดีไหมเนีย เพลียกับ apple
อเมริกา ยุโรป ชอบทำแบบนี้ละครับ
ฟ้องบ้านเขาก็แพ้หมดละ เอาพวกตัวเองได้ประโยชน์หมด
ถ้ามาลอง ฟ้องที่เกาหลีใต้หรือ จีนสิ รับรอง….
ขอฟันธงว่า ถึงแม้ Google จะฟ้อง Apple ยังไง ก็แพ้ หรือไม่ได้ ค่าไรเลย
ศาลเกาหลีก็เพิ่งตัดสินให้ผิดทั้ง Samsung และ Apple นะ ค่าปรับราวๆหลักล้านนิดๆ แต่เกาหลีสั่งแบนสินค้าแอปเปิ้ลด้วย
ศาลเกาหลีสั่งแบนสินค้าซัมซุงบางรุ่นด้วยนะครับ
ความยุติธรรมจริงๆ มันไม่มีหรอกครับ มีแต่ยุติเพราะการกระทำ
ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูดคง……
google กับ apple เค้าบ้านเดียวกันคับ
จะ…..ไงต่อ
ทีมทนาย ของ Apple ได้รับโบนัส กันเลยทีเดียว
ต่อไป ผมจะจดสิทธิบัตร ห้ามให้รถยนต์มี 4ล้อ ถ้ารถรถยนต์ใครมี 4ล้อ ผมจะฟ้องให้หมด เลย จะได้รวยแบบ Apple งัย
ที่เค้า อธิบายๆ กันมา หลายความคิดเห็น ข้างบน
ได้อ่านบ้างมั้ย ไอ้รถ 4 ล้อ เนี่ย พอเหอะ มันตลก..
+1 เนี่ยละครับ คนไทยไม่ค่อยจะอ่านอะไรให้ละเอียด ขอให้ได้ด่าก่อน
พวกสาวก Apple วิชาการมาก หัดมีอารมขันบ้างนะคับ เขาพุดเปรียบเปรย คุณคนเก่ง
ผมไม่ได้เปนสาวกไรทั้งนั้นคับ ใช้ ทั้ง android ios
พี่เนยเค้าก็อธิบายไปแล้ว เรื่องสิทธิบัตร คุณไม่ได้อ่านหรอคับ
เค้าหมายถึงว่าจะเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว และเป็นพื้นฐาน มาจดสิทธิบัตร ซึ่งตามจริงแล้วควรจดไม่ได้ แต่ทำไมแอปเปิ้ลจดได้ เหมือนที่จะเอารถ4ล้อมาจดไงละ
เห็นใจ Samsung
อยากให้ซัมซุง คิดแอ๊ป ที่ทำให้คนตาบอดใช้ สมาร์ทโฟนได้
และพัฒนาแอ๊ปให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแชตกับผู้ล่วงลับได้ แล้วไปจดสิทธิบัตรบ้าง 555
ให้คนไทยคิดแล้วรีบไปจดดีกว่านะ ผมว่า
ผมว่าว่ากันไม่ได้นะ เรื่องฟ้องร้อง ของอย่างนี้มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง ไม่ฟ้อง มันก็เอามาแข่งกับเรา ฟ้องมันชนะก็ว่าเราใจแคบ
เห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายครับก็คงต้องสุดแล้วแต่อำนาจตุลาการครับผม ผมว่าทั้งคู่เค้าก็รู้ตัวอยู่ว่าตัวเองทำอะไร ยังไงในธุรกิจก็ต้องมีจริยธรรมนะครับ
สุดท้าย มันก็เป็นกลไกลทาง การตลาดอยู่ดี… แค่เอาเรื่องสิทธิบัตรมาบังหน้า
ไม่สนใจ ….เราใช้ oppo อย่ามาฟ้อง oppo ละกัน ..T_T
เดี๋ยวนี้ต้อง oppa
อ่ะถูก ต้อง เพราะเราใช้ oppo เหมือนกะน
จะฟ้อง อะำไรกัน ค่าเสียหาย อย่างไรกัน มันก็…นะ เรามันผู้บริโภค เค้าผลิต ออกมา มัน น่าสนใจอยากได้เราก็ซื้อ (ก็มันเอาไว้ใช้งานนิ) เพราะมันก็ดีกับผู้บริโภค ขอแค่อย่าทำให้มันห่วยและบริการหลังการขายไม่ดีก็พอ
ศาลตัดสินมาแล้ว ก็ต้องยอมรับตามนั้น
ประเด็นที่น่าคิดคือ จะจัดการระบบสิทธิบัตรต่อไปยังไง
เพราะผมมองว่า ต่อไปนี้ การจดสิทธิบัตร คงยุ่งอีรุงตุงนังอีกมาก
อะไรยิบย่อย นิดๆหน่อยๆคงจดกันหมด (คือเดิมก็ละเอียดมากๆอยู่แล้ว)
ต่อไปแทบจะเรียกได้ว่า ทำอะไรลงไปก็คงติดสิทธิบัตรหมดแทบทุกอย่าง
หน่วยงานดูแลก็คงปวดประสาทต้องมาพิจารณาว่าอะไรจดได้จดไม่ได้
บริษัทใหญ่ๆก็คงตั้งหน้าตั้งตา จดแม่มให้หมดที่มนุษย์จะคิดได้
บริษัทเล็กๆหรือคนทั่วไปคงแทบไม่มีโอกาสได้คิดค้นอะไรเป็นของตัวเองแล้ว
ต้องเข้าใจ กฎหมายสิทธิบัตรก่อนนะครับ ไม่ใช่ใคร จะจดสิทธิบัตรอะไรก็ได้ สิทธิบัตรจะต้องได้ ต้องได้คิดค้นแล้วประดิษฐ์ขึ้นมา เป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน มีขั้นการประดิษฐ์สูง ที่ไม่เหือนกันของที่มีอยู่แล้ว ดังนั้น หากใครคิดได้ แต่ทำจริงไม่ได้ ก็จดไม่ได้ คนที่จดได้ เค้าใช้ความพยายามคิด จนประดิษฐ์ขึ้นมาได้แล้ว ถึงนำไปจดสิทธิ
คนที่คิดได้ ก็ย่อมได้รับความคุ้มครอง การจดสิทธิบัตร จำเป็นที่เมื่อจดสิทธิบัตรแล้วต้องเปิดเผยวิธีการประดิษฐ์ เพราะกฎหมายสิทธิบัตร มุ่งประสงค์ให้คนนำความรู้ไปพัฒนา พยายามคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ไม่ใช่นำไปลอกเลียนทำแบบเดียวกัน
ไม่ใช่ผมเข้าข้างใครนะ เพราะ ผมก็ไม่รู้ว่าใครคิดได้ก่อนจริง
สิทธิบัตร สี่เหลี่ยมมุมมน
สิทธิบัตร สองนิ้วย่อขยาย
ให้จดทำไมครับ มันคิดยากมากไหม ใครก็คิดได้ ผมก็คิดได้แต่ไปจดไม่ทัน Apple มันแค่เป็นการจองที่ก่อนใคร แล้วเอามาทำประโยชน์แบบเก็บกินไปวัน ๆ เหมือนเจ้าของที่แล้วก็เก็บค่าเช่านาจากชาวนา ตัวเองไม่ต้องลงแรงก็มีเงินวิ่งมาเข้ากระเป๋าไปเรื่อย คนรวยก็รวยขึ้น คนจนก็จนต่อไป พวกบริษัทเล็ก ๆ อยากพัฒนาโทรศัพท์มือถือบ้างก็ต้องไปทำในประเทศจีนแล้วเพราะเดี๋ยว Apple ตามไล่บี้อีก
คิดได้ก็ต้องทำให้เป็นรูปธรรมด้วยนะคับ ไม่ใช่แค่คิด
ครับ บริษัทที่คิดได้แต่ทำเป็นรูปธรรมไม่ได้เพราะมีคนจดสิทธิบัตรที่ไม่น่าให้จดนี้ไปแล้วสิครับ มองเห็นปัญหาไหมครับ คนในสหรัฐก็เริ่มสงสัยแล้วว่าระบบสิทธิบัตรนี้มันดีจริงหรือเปล่า เพราะประเทศเค้าสอนให้คนคิดคนสงสัย เค้าก็พูดคุยกันหาวิธีที่ดีขึ้น ต่างกันที่บ้านเราเน้นให้เชื่อว่ากฏเกณฑ์ต่าง ๆ ดีและถูกต้องแล้ว ห้ามเปลี่ยนแปลงแก้ไข ทำให้คนที่คิดว่าทำตามกฏถูกต้องเสมอ และจะรังเกียจคนที่เห็นต่าง เพราะไม่สามารถตามแนวคิดใหม่ ๆ ทัน ต้องค่อยดูต่อไปว่าปัญหาด้านสิทธิบัตรจะเป็นอย่างไรต่อไปน่ะครับ
ต้องยอมรับความจริงกันหน่อยสิครับว่า
Samsung ละเมิดสิทธิบัตรของ Appple จริงหรือเปล่า
ถ้าจริงไม่ว่าสิทธิบัตรนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ผิดอยู่ดี
เพราะรู้ทั้งรู้แต่ยังจงใจละเมิดมันก็ไม่ถูกต้องครับ
คดีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการป้องกันการละเมิดสิทธิ์
ถ้าจะมองในแง่ดีมันคือการเปิดโอกาศให้นักคิดพัฒนา
หาสิ่งที่ดีกว่ามาแทนที่เสมอ
ต่อไปเราอาจจะไม่ได้ใช้ Tap to zoom อาจจะเป็นอย่างอื่นแทน
ตอนนี้ Samsung เองผมว่าเค้าก็พัฒนาจุดเด่นของตัวเองได้อยู่นะ
อย่างตระกูล Note ตอนนี้ผมว่ามันโอเคมากเลย แต่ลึกๆผมไม่รู้นะว่าละเมิดของใครหรือเปล่า
ถ้าไม่ผมว่าสุดยอดครับ
ประเด็นทำไมต้องซัมซุง เพราะซัมซุงดูจะเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพมากที่สุดที่พอจะต่อกรกับแอปเปิ้ลได้
จะว่าไป android ทุกตัวน่าจะละเมิดสิทธิบัตรทุกตัว
ผลไม้ มันก็ขาลอกของชาวบ้าน สาวกมันก็หลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เป็นเรื่องตลกร้าย ของคนบนโลกนี้
มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องพื้นฐาน ที่(ความคิดสวนตัว)ไม่เห็นด้วย กับเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด "ตั้งแต่ต้นเรื่อง"
เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน
เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน
เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน เรื่องพื้นฐาน
ปล. กำลังอารมณ์ อ่านแล้วของขึ้น
ผมกับให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนะครับ
การที่ Apple รักษาสิทธิ์เป็นเรื่องที่พึงกระทำอยู่แล้ว
ถึงเราจะต่อยอดความคิดได้ดีมากแค่ไหน แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนคิดคนแรก
เราต้องยอมรับและให้เกียรติกับคนที่คิดคนแรก
แล้วเค้าก็จะยอมรับในความคิดต่อยอดของเราเช่นกัน
และอีกมุมนึงในความคิดของผม ผมมองว่าแบนด์อย่าง Sony, Moto ,htc, เป็นต้น
กลับมีภาษีดีกว่า Samsung เสียอีก เพราะว่าแบนด์เหล่านี้พยายามฉีกสไตล์ของตนเองออกมา
ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของตนออกมาอย่างชัดเจน
(ในที่นี้กล่าวถึงการออกแบบโดยรวมนะครับ)
ไม่ต้องการให้ใครเห็นแบนด์ของตนเองแล้วไปนึกถึงแบนด์ของคนอื่น
เหมือน Samsung ในช่วงแรกที่ใครเห็นก็บอกว่า "เฮ้ย..เหมือน Apple เลยวะ" จริงไหมครับ
จริง
มช้ใช้ Sony Moto ไปเลย Samsung มันดูเหมือน iPhone จริงนะ Galaxy Cooper นี่เป๊ะเลย T-T
ตัดเรื่องสิทธิบัตรที่ฟ้องมันสมควรหรือน่าจดหรือไม่ทิ้งไปก่อน รวมทั้งเรื่องที่ Apple ไปลอก/ได้แรงบันดาลใจจาก Nokia หรือ Sony ซึ่งยังไม่แน่ชัดออกไป งานผมอยู่ข้าง Apple เต็มๆ นะกรณีนี้ คือกว่าจะได้ชิ้นงานที่เรียกว่านวัตกรรมมาแต่ละชิ้น ทีมงานของ Apple ต้องทำงานกันอย่างหนักจริงๆ ถ้าเกิดให้เจ้าอื่นเอาไปใช้ดื้อๆ มันก็ไม่แฟร์กับทีมงานของ Apple เขานะ
ยังไง Apple ก็ต้องรักษาสิทธิ์ของเขาล่ะครับ ถ้ามีใครสักคนมาลอกหรือขโมยผลงานที่เราคิดมาแทบตายไปแจกหรือแอบเอาไปขายดื้อๆ เราก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ถึงแพ้ยังไง ก็ยังอุดหนุนของ Samsung อยู่ดี อิอิ
+1
ผมแหละตลกคนในบอร์ดมาก พอไปบอร์ดแอปเปิ้ลก็สะใจที่ซัมซุงแพ้ พอมาบอร์ดแอนดรอย์ก้บอกว่าแอปเปิ้ลใจแคบ
ผมว่าไม่มีใครแพ้ใครชนะหรอกครับมันก้เรื่องกลไกทางธุรกิจเขาแต่ที่ผมสงสัยนี่คนไทยจะไม่ทะเลาะกันซักเรื่องได้ไหม
ครับ เห็นทะเลาะกันตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ จะแบ่งกันไปทำไมครับเราก็userเหมือนกันทั้งนั้น สุดท้ายคุณไม่โทรศัพท์
หากันเหรอครับ ทั้งซัมซุงและไอโฟนหนะ
ก็ต้องเข้าใจอยู่ว่าทั้ง 2 ค่ายขายสินค้าอยู่ทั่วโลกการปกป้องสิทธิ์ของบริษัทมันเป็นเรื่องของ
การหาผลประโยชน์ รักษาผลประโยชน์ ย่อมเสียเปรียบถ้าโดนขโมยไปเป็นของบริษัทอื่น
ในมุมมองนี้แอปเปิ้ลเค้าก็ทำถูกแล้วละ
แต่ถ้าจะบอกว่าขโมยจากที่หนึ่งไปจดแล้วหวังฟ้องเพื่อทำกำไร นี่สิที่ไม่น่าทำ
ผมเชื่อว่าค่าย samsung ไม่ได้รับผลกระทบถึงขั้นหมดกำลังใจ แต่มันจะตรงกันข้าม
ถ้าหาก samsung ได้บทเรียนนี้มาพัฒนาสินค้าจนทำให้ติดตลาด แอปเปิ้ลเองแหละจะร้อง
ถ้าการแข่งขันไม่ได้มีการลอกสิทธิบัตรกันแล้ว มันก็ต้องบอกว่า สินค้าใครเจ๋งก็อยู่ได้
ไม่เจ๋งก็เตรียมหายไปจากตลาดได้เลย ดังเช่น bb nokia
หวังว่าต่อไปคงใช้เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานต่อไป ถ้ามีคนฟ้องแอปเปิ้ล…
Samsung ฟ้องสิทธิบัตร "เทคโนโลยี" เรียกค่าสิทธิบัตรไม่แพง
แต่ Apple ฟ้องสิทธิบัตร "design" เรียกค่าสิทธิบัตร…ไม่พูดละกัน
คดีนี้ Samsung พิศูจน์ให้ลูกขุนเห็น "จริง" ว่าทั้ง ไอ้ UI เด้งกลับ กับ pinch&zoom มีมาก่อนแล้ว
แต่ Samsung ไม่สามารถพิศูจน์ให้ลูกขุนเห็นว่า UI ของเค้าทำไมเหมือน Apple เกินไป ทั้งพวกสายเคเบิ้ล, ไอค่อน, การวางของ ไอค่อน ด๊อค และอื่นๆ
Samsung ต่อให้ไม่พลาดที่ส่งหลักฐานสำคัญช้า ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ได้
Samsung ก็ยังแพ้อยู่ดี
ตอนนี้ต้องดูว่าจะมี appeal ไหม แต่ศาลจะไม่รับหลักฐานเพิ่มแล้ว แต่จะพิจรณาตามศาลชั้นต้น
ส่วนตัวผมเชียร์ ฝั่ง science, ฝั่ง innovation, ผมแนะนำให้ดู TED Talk อันนี้ ซึ่งนำเสนอเรื่องคำว่า "Innovation" มาจากการต่อยอดมาเรื่อยๆได้ชัดเจนมาก
http://www.youtube.com/watch?v=L1s_PybOuY0
ช่วงท้ายๆเรื่องของ Apple แซ่บมาก แต่ดูตอนต้นด้วยนะครับจะได้เข้าใจ
Steve Jobs quotes:
1996: "We have always been shameless about stealing new ideas."
2007: "We have invented a new technology called multi-touch [false] … and boy have we patented it."
2010: "I'm going to destroy android because it's a stolen product. I'm willing to go thermonuclear war on this."
จุดประสงค์ของ สิทธิบัตรคือ An act to promote the progress of useful arts…
ต้องตั้งคำถามให้ดีว่าการใช้ patent ของ Apple เป็นการรักษาสิทธิ "จริง" แต่มัน promote the progress of useful arts หรือไม่……
Great artists steal….(but not from me)
อย่างงี้ พี่ยักษ์ใหญ่ Google + Moto ออกมา "ปกป้องสิทธิ" บ้างเลยครับ สิทธิบัตร เทคโนโลยีเยอะเลย เด็ดกว่าสิทธิบัตร design แน่นอน
http://www.xda-developers.com/android/the-sleeping-giant-may-have-awoken/
The ‘Sleeping Giant’ May Have Awoken
+1 ครับ
ต้อง ยอมรับ ว่า ผิดจิงตามที่ เค้าฟ้อง
ไม่ได้เป็นสาวกเจ้าใหน
แต่ส่วนตัวมองว่า สำหรับผู้บริโภค ทางเลือกก็น้อยลงไป
เรื่องเงินไม่ไช่ประเด็น ประเด็นคือ ถ้าพรุ่งนี้ Apple ทำสินค้าที่ผมพอใจที่จะซื้อผมก็ซื้อ (จะดีแค่ไหนก็ชั่ง)
เช่นกันถ้า SS ทำสินค้าออกมาน่าพอใจตอบโจทย์ได้ แพงกว่า Apple ผมก็ซื้อ
เห็นใจผู้บริโภค กลุ่มล่างและกลางจิงๆ
ทำไม Apple ไม่ทำตัวเล็กขายบ้างเน้อ^^ จะได้มีทางเลือกบ้าง
android มันเกิดก่อน apple ไม่ใชหรอ tap zoom , pinch zoom , multitouch ก่อนหน้านี้ก็มีกันนานแล้วใช้กันหลายค่ายเขาไม่เห็นต้องฟ้องกันเลย apple กลัว samsung จะเด่นกว่ามั้งเลยฟ้อง ถ้าฟ้องไมไม่ฟ้องมันทุกค่ายเลยละ อยากเห็นสภาพ apple โดน ตื๊บ – – แต่บางอย่าง samsung ก็ copy จริง ก็ต้องโดนปรับไป แต่ไอ่… 3 อย่างที่ยกตัวอย่างมา ผมคิดว่าฟ้องแบบตัดคู่แข่ง -*- ผมจะใช้ samsung แพงยังไง แพงกว่า apple ก็จะใช้ถ้าทำออกมาได้ดี ตอบโจทย์ได้ทุกปัญหา ดัน samsung ^^
ศาลนะครับ ถ้าไม่ผิดจริงเค้าไม่ตัดสินมาแบบนี้หรอก
apple iOS เกิดก่อน android คับ
android เกิดก่อนครับ(แต่ไม่ได้วางขาย)แต่ถ้าจะบอกให้ชัดก็ต้องบอกว่า android ที่ทำมาเป็น touchscreen เกิดมาทีหลัง….
+1
ถ้านับ Android ตัวแรกที่เหมือน bb ตัวนั้น ผมว่าไม่นับดีกว่าครับ
ใครจดสิทธิบัตรก่อนก็ชนะ ถึงแม้ว่าจะเอาของคนอื่นมาต่อยอดอีกทีก็ตามแล้วรีบจด
จดแล้วถ้าใครจะนำไปใช้ก็ต้องแจ้งและเจรจาตกลงเขื่อนไขกันก่อน
ถ้าเป็น open source แล้วใครจะเอาไปต่อยอดก็ได้ แบบนี้น่านับถือดีมาก
ไ ม่ใช่ไม่ชอบรับผิด แต่แอปเปิ้ลรู้อยู่แก่ใจ จิตใจตัวเองเป็นไง หัวหมอขี้โกงเกินไปไหม appleทำร้าย
ลองศึกษาดูก่อนครับ บางอย่าง Samsung ลอกจริง ก็น่าจะผิด แต่ส่วนที่เป็น software patent นี่ผมไม่เห็นด้วยนะ แน่นอนผมไปแสดงความเห็นในบอร์ด apple โดนถล่มมาเยอะ ในส่วนของ software patent นี่ตัวกีดกันการค้าเลยและมีแต่ประเทศอเมริกาที่มีสิทธิบัตรตัวนี้ หรือที่เรียกว่า สิทธิบัตร software นั่นแหละ ดีนะ menu bar ไม่โดนจนสิทธิบัตร ไม่งั้น software อะไรก็ตามที่มี menu bar โดนฟ้องหมด
Software Patent หลายๆส่วนไม่แฟร์จริงๆ เรื่อง Bounce Back อะไรเนี่ยไม่ควรจะให้จด Patent ได้เลย แต่ทั้งหมดก็เพราะเทคโนโลยีมันไปเร็วกว่ากฎหมาย จบเรื่องนี้กฎหมายสหรัฐฯมีการแก้ไขเรื่องการจด Patent แน่ๆ
Bounce Back นี่เป็นอย่างแรกที่ผมรู้สึกรำคาญมากตอนเปลี่ยนมาใช้ Android จากเดิมที่ใช้ iPhone เพราะเวลาเลื่อนแล้วไม่รู้ว่ามันสุดหรือยัง เลื่อนไม่ไป ลองเลื่อนอีกทียังไม่ไป ลองเลื่อนกลับดูไม่ว่าไม่ได้ค้างนะ โอเคไม่ค้าง ถึงรู้ได้ว่ามันสุดแล้ว มันก็ดูเล็กน้อยนะ แต่มันก็ต้องคิดเหมือนกันแหละครับ
เอาไว้วันนึงคุณลองจดสิทธิบัตรดูครับ
ผมใช้ SII แต่ผมก็ไม่โทษใคร เพราะมันไม่เกี่ยวกับเรา
หุหุ จะบอกว่า ทะเลาะกันครั้งนี้ มานั่งคิดดีกว่า เราได้อะไรจากการที่เค้าทะเลาะกัน
มันเป็นเรื่องของการ Discredit กันด้วย
ถ้ามองให้ลึกจริง ๆ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าสองค่ายนี้ว่า เค้าทำอะไรกัน ทะเลาะกัน
สมมติวันหนึ่้ง apple ต้องไปจ้าง Samsung ทำจอ เค้าก็คุยกันใหม่อยู่ดี
มันไม่เกี่ยวครับ มันเป็นเริ่องของ ธุรกิจ และ ผู้ถือครองสิทธิ์ ที่เค้าต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง
เอาอย่างนี้ครับ ถ้าคุณจดสิทธิบัตรลอดช่องผลไม้รวมได้่ และเสริมอย่างที่คุณเนยบอกอีก (เนื่องจากพอรู้เรื่องสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า สิทธิทางปัญญา) กว่าจะได้เป็นผู้ถือครองสิทธิบัตรนั้น ๆ มันยากมาก คุณต้ัองพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นความคิดคุณจริง ๆ ต้องส่งแบบเอกสารการผลิต ขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ รวมถึงหลักฐานว่า คุณคิดมันขึ้นมาจริง ๆ เช่นแบบเขียนดินสอ (หรือเอกสารที่สามารถยืนยันว่ามีการคิดค้นขึ้นจริง ๆ ) ต้องลงประกาศ โฆษณาแล้ว โฆษณาอีก ต้องไม่มีการโต้แย้ง(เหมือนที่คุณเนยว่า)
แล้ววันหนึ่งมีคนเอาลอดช่องผลไม้ของคุณไปขายโดยใช้ชื่อของเขา
รายได้ของคุณลดลง กลุ่มลูกค้าของคุณบางคน ย้ายฟากไปซื้อกับฝั่งตรงข้าม เพราะเขาลดราคาสู้ หรือการตลาดของเขามากพอที่จะทำให้คุณสะเทือนได้ (ถึงจะไม่เจ๊งก็เถอะ)
คุณจะทำอย่างไรครับ ให้เค้าไปฟรี ๆ เพราะมันเป็นเรื่องธุรกิจ เราสู้ไม่ได้เองต้องยอมรับ หรือว่า
อีกกรณีหนึ่ง คุณต้องไม่ลืมว่า คุณถือสิทธิบัตรนั้น ๆ อยู่ ถ้าคุณบอกให้เค้าหยุดขายไม่ได้ ก็จ่ายค่าสิทธิบัตรนั้น ๆ มา
หรือถ้าไม่ยอม จะขั้นเด็ดขาด
กรณีเดียวกัน แต่ค่าฟ้องก็ไม่คุ้ม แต่ที่ Apple ทำเพราะ ค่าฟ้องมันคุ้มครับ ได้หลายอย่าง ทั้ง Discredit ทั้งได้ค่าปรับ ได้ห้ามขายด้่วย
สุดท้าย อย่ามาทะเลาะกันเลยครับ เพราะเราไม่ใช่ผู้ผลิต เป็นผู้บริโภคก็แค่รอดูต่อไปหลังจากนี้ว่าทิศทางมันจะเป็นอย่างไร
ถ้ามันโหดมากนัก จะโบราณกลับมาใช้ 3310 ก็ยังไม่เสียหาย
"เพราะใช่ว่าไม่มีมัน เราจะอยู่ไม่ได้" เพราะมาคิดดูแล้ว โทรศัพท์มือถือมีไว้ติดต่อสื่อสารครับ
มันก็จริงแต่ว่า ลองคิดดีดีนะ ถ้าลองเอานิสัยคนที่ตรงกันข้ามกับappleมาบริหารapple มันจะเกิดไรขึ้น
1 samsung ได้ใจเหิมเกริม หน้าด้านอย่างเห้นได้ชัดกว่าเดิม
2 ถึงนิสัยรักสงบและไม่หัวหมอแค่ใหนก็ต้องกลายเป้ฯคนแบบappleถ้าได้มายืนในจุดapple ดังนั้นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้วเเท่าเดิม
3 samsung จะนิสัยดีกว่านี้ ถ้าไม่โดนแหย่จากค่ายapple
สรุปหน้าด้าน ปะทะ หัวหมอไม่ยอมคน เห้นแก่ตัว
ถ้าคนหน้าด้านน้อยลง มาปะทะ คน หัวหมอ เอาเปรียบคนน้อยลง ทุกอย่างจะดีขึ้น
พูดไปพุดมา ไม่พ้นคำว่าทางสายกลาง
ตราบใดที่เขาไม่ได้ห้ามขาย ห้ามผลิต มันไม่ผลอะไรกับผมเลยครับที่จริง
ถ้าปรับแล้วจบๆไป ผมก็แฮปปี้นะสำหรับตัวผู้ใช้
เพราะว่าค่ายอื่นๆยังคงผลิตนวัตกรรมใหม่ๆให้เราใช้ได้เรื่อยๆ
สงสัยนิดนึงว่า ถ้ามือถือรุ่นใหม่ๆออกมาก apple ก็จะฟ้องอีกหรือเปล่า ? เหนื่อยแทนแซมซังเลยนะเนี่ย
ศาลอเมริกา ลองมาศาลเกาหลีใต้ อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ถูกไหมครับ
แล้วก็อย่างที่บอก มันเป็นเรื่องธุรกิจครับ
ใครผิดใครถูกเค้ารู้แก่ใจ เราจะวิเคราะห์ให้ได้ความรู้ นี่ก็เป็นเรื่องดีครับ แต่อย่ามาทะเลาะกัีนเลย
ศึกษาไว้เยอะ ๆ ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก
สิทธิบัตรของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันนะครับ อยู่ที่ว่าการจดครอบคลุมแค่ไหน
ยกตัวอย่าง iPad ถ้ามีคนตั้งชื่อนี้ใน อเมริกาหรือยุโรปจะเป็นยังไง
แต่ที่จีนแอปเปิลต้องจ่ายเงินค่าชื่อนี้ 60ล้าน$เลยนะถึงจะใช้ชื่อนี้ได้
เพราะมีคนจดชื่อนี้ในจีนไว้ก่อนแล้ว
จะ Drama กัน นานไหม ผมใช้มาหมด เเล้ว Samsung HTC SONY Apple เเต่ยังไง Samsung ก็คือ ขยะ ดีๆ เนี้ยเอง
ผมใช้มือถือ samsung มา5เครื่อง
พ่อ/ปู่/อา ปมใช้ samsung
แอรบ้านผม samsung 4ตัว
ทั้งหมดไม่เคยมีปัญหา พวกที่เจอปัญหาถ้าไม่โชคร้ายก็พวกตอแหลแอนตี้กระแดะกากเกรียนๆลๆ
เก่งจริงๆเอาขยะมาขายจนเป็นอันดับหนึ่งของโลกเนี่ยะ หึ
โหพี่ parunyumws แรงไปไหมครับ
ไม่เเรงหรอก ครับ ผมช้ำกับ Samsung มาเยอะ เเล้ว เมื่อก่อน ชอบมาก ไอ้ Samsung เนี้ย พอ ไปนาน ผมเลยไม่ชอบ
ขณะนี้ผม จาก Galaxy Gio Galaxy Tab 10.1 เปลี่ยน เป็น Apple หมดเลย เพราะ งานซ่อมกับสินค้าที่ ขยะ
ลืมไปหรือเปล่าว่าชิ้นส่วนหลาย ๆ อย่างในนั้นมันก็ขยะดี ๆ นี่เอง???
สงสัยลืม
จริงสงสัยลืม 555555555555
ท่าจะลืมจริง ๆ 555
qc มันต่างกันครับ
ยอมรับเถอะว่า Apple ทำฮาร์ดแวร์ได้ดี
คอมเมนต์นี้พิมพ์จากแอนดรอยด์
???
http://www.blognone.com/news/16974/รวมปัญหาของ-iphone-4
[url]http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T9824801/T9824801.html[/url]
(ตัวอย่าง Search จาก Google)
อันนี้ยอมรับว่าเรื่องจริงครับ ไม่เถียง
ถ้างั้นคงเป็นเรื่องความชอบมั้ง ผมเลยตอบไปแบบนั้น
ผมไม่ใช้ iPhone แต่ผมชอบตัวเครื่อง iPhone 4 มาก
ถ้าตัวเครื่อง ไม่ลองพวก HTC หรือ Sony ดูล่ะครับ 🙂
เอ่ออ น่าจะลืมๆจริงๆ
พูดดีๆเป็นไหม มันกากก็ไม่ต้องซื้อ
มียี่ห้อคนงานสายผลิตแอบตดป่าววะ
คนไทยด้วย กันอย่า Drama เลยครับ
สรุป เป็นเรื่องการ ตัดเคดิตของคู่แข่ง มากกว่า
น่าแปลกที่คนไทยบางส่วน มองว่าเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว หรือดิสเครดิต หรือเป็นเพราะว่าเราได้อันดับต้นๆของประเทศที่ละเมิดลิขสิทธิ์ มาโดยตลอด อย่างไรก็แล้วแต่ บทความนี้ทิ้งท้ายไว้ให้คิดแล้ว ลองย้อนขึ้นไปอ่านดูนะครับ
สรุปมันคือการเหยียดชาติพันธุ์ครับ
พวก ผิวขาวไม่ยอมให้เอเชีย เหนือกว่า 555
ปล .. ผมกลัว ดราม่า
เท่าที่อ่านมาก็ค่อนข้างแปลกใจมากครับ บาง คห. ใช้อคติมากเกินไป ทั้งๆที่สิ่งที่แอปเปิ้ลทำก็ถือว่าเป็นการรักษาสิทธิ์
ซึ่งการจดสิทธิบัตรเนี่ย ไม่ใช่ใครจะมาจดกันได้ง่ายๆนะครับ ต้องมีการตรวจสอบมากอยู่กว่าจะจดกันได้แต่ละอย่างไม่ใช่ง่ายๆเลย
หรือว่าประเทศเรายังไม่ชินกับเรื่องสิทธิบัตร และการรักษาสิทธิ์
แต่สิ่งที่เขาจดแล้วมาฟ้องเป็นสิ่งที่มีมาตั้งนานแล้วและ หลายๆยี่ห้อก็ใช้กัน
เหมือนเอาปากกาสาธารณะที่เขาวางไว้ตามห้างเพื่อเซ็นบัตรเครดิต มาเขียนชื่อตัวเองลงไป พอคนอื่นเอามาใช้ก็บอกว่าขโมยของตัวเอง
การกระทำแบบนี้เป็นอะไรที่น่าเกลียด แล้วก็ทำตัวไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าของโทรศัพท์ที่คนทั่วโลกเลือกใช้
ยิ่งกว่านั้นคือไม่เข้าใจว่าจะฟ้องเพื่ออะไรเงินก็มี อิทธิพลอำนาจต่อโลกก็มี จะบอกว่าแค่ฟ้องเพื่อให้บริษัทอื่นเสื่อมเสียหรอ?
อะไรบ้างหละครับ ผมจำได้ว่าก่อนที่ไอโฟนจะเปิดตัวออกมาเราแทบจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะ
สมัยนั้น มือถือสัมผัสส่วนใหญ่ยังใช้ปากกาจิ้มๆกันอยู่เลย
ที่อเมริกาหมามาขี้ใส่หน้าบ้านเขายังฟ้องกันเลยครับ
ผมว่าที่ซัมซุงแพ้ดีซะอีก จะได้มีลูกฮึดทำนวัฒกรรมใหม่ของตัวเองออกมาซะที
ปล.เงินก็ไม่ใช่ของเราไปเสียดายแทนเขาทำไม
มีชีวิตอยู่ให้นานนะ แล้วคอยดูว่า APPLE กากๆ กับ SAMSUNG ใครจะอยู่บนโลกนี้นานที่สุด ผมไม่สนใจยี่ห้อไรหรอก สนใจแต่ว่าใครไม่กั๊กจัดเต็มผมใช้ยี่ห้อนั้น รู้แต่ว่า jop เขี้ยวหลอกชาวโลกได้ แต่หลอกผมไม่ได้ 555 ที่สำคัญผมยอมใช้ Android ที่ไม่ลื่นไม่สเถียร แต่ครอบคลุมโคตรๆ Apple มันกำลังปิดฝาโลงตาม JOP มัน ศาสดาลวงโลก copy คนอื่นมาที่เขาคิดมาก่อน แล้วก็จดกับศาลเตี้ย น่าสงสารชาวโลก รุ่นน้องผมคนนึงใช้แต่ของ apple มาถึงวันนึงปรึกษาว่าจะลองใช้ android เพียงแค่คืนเดียว ถึงกับโทรมาผมบอกว่า ทำไมตัวเขาถึงได้เป็นอุปกรณ์การเกษตรมานาน ทำไมพี่ไม่บอกผม ผมก็บอกปากหูจะฉีกถึงหู ก็ไม่เชื่อ ซะงั้น! ผมก็เคยใช้ apple มาแต่รู้สึกว่าเหมือนนกน้อยในกรงทอง ก็เลยเลิกคบ apple มาจนทุกวันนี้ ถ้าเอามาให้ผมฟรีมีด่า ดีไม่ดีโยนทิ้งลงขยะเปียกไปเลย สะจาย….
เพิ่มเติม…
เรื่องของผลไม้ กับคำว่า copy มันมีมาตั้งนานแล้ว และก็อีกคำ เกรียน ตอนตัวมันทำมัน copy คนอื่น มันบอกกับคนอื่นที่ทำตัวหมือนมันว่า "ไม่แฟร์" คำนี้มันเกิดตอน ที่ เกต กับ จอบ คุยกัน
"ไม่แฟร์" ไม่รู้จะมีอยู่ในหนังสือประวัติ จอบ หรือเปล่า ผมไม่ได้อ่าน เพราะผมไม่ศรัทธาในตัวคน คนนี้
+1+1+1
ถ้ามีกฏ "สิ่งพื้นฐาน ไม่สามารถจดได้"
ผมว่า สิ่งที่ Apple จด มันเป็นสิ่งพื้นฐานเลยนะ
สิทธิบัตรหมายเลข 915 เกี่ยวกับการ Scroll โดยใช้นิ้วเดียว รวมถึงการ Pinch-Zoom
สิทธิบัตรหมายเลข 163 การ "Tap to Zoom"
ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีมาก่อนแต่เค้าไม่ได้จดกัน
จะเรียกว่า Apple ออกมาปกป้องตัวเองไม่ได้หรอกครับ
ถ้ามองตั้งแต่รากฐานความคิดของการจดสิทธิบัตร และ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ผมว่างานนี้ ศาลเอียงให้ Apple มากไปครับ
+1 ครับ
ผมว่าน่าจะโดนเรื่องดีไซน์ ก็พอแล้ว
จริงเหรอครับ แอปเปิ้ลใจร้ายมากนะ
ออกตัวก่อนเลย ว่าผมไม่ชอบ Apple Device เท่าไรนัก เพราะใช้แล้วค่อนข้างอึดอัดกับความเป็นระบบปิด
เรื่องความเปิดกว้างกับระบบทำให้มีหลายอย่างให้เลือกใช้นั้น Android ได้ใจผมไปเต็มๆ
ทว่า… เรื่องบนกระทู้นี้ไม่เกี่ยวกับระบบปิด แต่เป็น "การรักษาสิทธิ" มันจึงกลับกัน
ถึงผมจะเหม็นขี้หน้า Apple ยังไง แต่ความจริงทีต้องยอมรับก็คือ Apple ทำตรงนั้นมาก่อนจริงๆ
ทีแรกตอนผมอ่านข้อมูลการฟ้องผมก็คิดนะ "เรื่องดีไซน์ที่ Apple ฟ้อง Samsung มันก็สมควรโดนหรอก เพราะดันเป็นเหตุให้ลูกค้าเข้าใจผิดได้ แต่ไอ้เรื่อง Scroll กับ Zoom เนี่ย ถ้าไม่ให้ใช้มันจะใจจืดใจดำกันเกินไปมั้ย"
แต่มาอ่านความเห็นลงมาเรื่อยๆ ผมก็เพิ่งคิดได้ เรื่อง "สิทธิ" ส่วนที่เราควรเคารพเมื่อเรานำความคิดของผู้อื่นมา
ซึ่งผู้อื่นที่ว่า ก็พยายามแทบตายกว่าจะได้มันมาเช่นกัน
จะว่าไป ถ้าพูดเรื่องสิทธิบัตรของโทรศัพท์มือถือแล้ว ต้องยกให้ Motorola กับ Nokia ครับ
คือ ถ้าจะสร้างโทรศัพท์มือถือซักเครื่อง ก็ละเมิดสิทธิบัตรของเจ้าข้างบนแล้ว
แต่ก็ยังไม่มีใครมีปัญหาตรงนี้ เพราะผู้ผลิตเองก็ได้มีการตกลงกันแล้วว่าจะขอใช้สิทธิบัตร หรืออะไรก็ว่าไป
ปัญหาก็เลยไม่เกิด ง่ายมั้ยล่ะครับ?
นิสัย USA ชอบหาผลประโยชน์จากชาติอื่นๆ เข้าประเทศ ผมละแค้นที่มันเอา ข้าวหอมมะลิเรา ไปจดสิทธิบัตร เป็นของมันเฉยเลย มันน่าตื๊บมากๆ ส่วนเรื่องนี้ ผิดจริงครับ แต่มองอีกแง่ Apple ต้องการตัดกำลังคู่แข่งทางธุรกิจและให้ค่ายอื่นเห็นว่าอย่าละเมิดของ เขาอีก Samsung เป็น Brand ที่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง Apple ฟ้องทำให้เกิดความสนใจมากกว่าการฟ้องร้องแบรนด์อื่นๆ เป็นธรรมดา …
apple มีสิทธิบัตรมีไว้เพื่อ "ผูกขาด" เพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ทำกำไรเข้าตัวเอง only!!
ดังนั้น ถ้ามันจะไม่เผื่อแผ่ กับคนอื่น ยิ่งเห็นคนอื่นแซงหน้ามัน มันจะยิ่ง พยายามตัดหนทางทำมาหากินคนอื่นครับ
ดังนั้นผมมองว่า apple เอง พยายามที่จะ จำกัด นวัตกรรมในอนาคต ให้มีความสร้างสรรค์น้อยลง เหมือนกับระบบปฏิบัติการของมันนั่นล่ะ
ตอนนี้ผมใช้ s3 ได้เห็น ได้ลอง S3 copy, note copy , iphone 4s copy โดยใช้ android 4.x.x ไม่เห็น samsung มันจะ ออกมาฟ้อง ของจีนเลย มันมีแต่พยายามทำของตัวเองให้ดีขึ้น (แน่นอนว่าของจีนก็ดีขึ้นเหมือนกัน)
สงสัยไม่เข้าใจเขาฟ้องกันที่อเมริกาครับ ส่วน S3 copy, note copy , iphone 4s copy มันขายในไทย
กฏหมายเรื่องลิขสิทธิในไทยมันเป็นอะไรที่ใกลมาก เห็นก็อปกันเพียบ
ส่วนนวัตกรรม ไม่เห็นจะเกียวครับ เพราะเขาจดที่เขาคิดเท่านั้น
ถ้ามีการคิดขึ้นใหม่อันนี้เขาจะเอาอะไรมาฟ้อง
อีกอย่างถ้าอยากใช้จริงๆก็ไปเจรจาขอใช้สิทธิบัตรนั้นก็แล้ว ไม่ใช้แอบใช้
อาจจะเป็น ยาดีที่ขมสำหรับ Samsung มั้ง
แต่ผมเชื่อว่า Samsung ตอนนี้ มี Innovation ที่มากพอที่จะไม่ต้องตามผลไม้อีกแล้ว
ส่วนในอนาคต คดีนี้จะเป็นตัวอย่างหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ
โครตเกียจเลยผลไม้เน่า แม่…ง..เล่นล่อคู่แข่งแบบไม่ยุติธรรม เรื่องสกัดนั้นเจ๋งกว่าผลิตภัณฑ์ของมันอีก ..ถ้าแข่งกันแฟร์ๆ เรื่องเทคโนโลยี เน่าแน่…มันเองก็ copy บันลัย…เมือก่อนรู้สึกเฉยๆ แถมยังใช้ผลิตภัณฑ์ของมันอีก ..ตอนนี้..no!…
พอคู่แข่งออกอะไรมาสักอย่าง จ้องจะฟ้องอย่างเดียว ทำตัวเหมือนเด็กขี้แย…แย่ชะมัด..ต่อไปคงไล่ฟ้องแบนอื่นๆ..
ตกลงเรื่องรักษาสิทธิ์ โดยการจำกัดสิทธิมันต่างกันอย่างไร…..
"เท่าที่อ่านมาก็ค่อนข้างแปลกใจมากครับ บาง คห. ใช้อคติมากเกินไป ทั้งๆที่สิ่งที่แอปเปิ้ลทำก็ถือว่าเป็นการรักษาสิทธิ์
ซึ่งการจดสิทธิบัตรเนี่ย ไม่ใช่ใครจะมาจดกันได้ง่ายๆนะครับ ต้องมีการตรวจสอบมากอยู่กว่าจะจดกันได้แต่ละอย่างไม่ใช่ง่ายๆเลย
หรือว่าประเทศเรายังไม่ชินกับเรื่องสิทธิบัตร และการรักษาสิทธิ์"
ใครว่าสิทธิบัตรจดไม่ง่ายละครับ …สันดานอเมริกันชนละครับมักอ้างสิทธิบัตร เพื่อประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก..ดูอย่างข้าวหอมมะลิไทยซิครับ.. ไม่เข้าใจเหมือนกันคนกินขนมปัง จดสิทธิบัตรข้าวได้อย่างไร…!
แนะนำลองหาข่าวเก่าๆ อ่านดูก่อนนะครับ
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=2035
http://www.biothai.net/node/239
เข้าใจว่าพื้นฐาน เข้าใจว่าเบสิค
แต่อ่านคห. มา เห็นมีคนถามสองสามรอบแล้วว่า ไอ้เด้งกลับ หรือ ซูมโดยการถ่างนิ้วเนี่ย ก่อน iphone มีใครทำบ้าง ยังไม่เห็นคนตอบได้เลย
จำได้ว่าตอนเปิดตัว iphone โดยจ็อบส์ถ่างนิ้วซูมรูปให้ดู คนฮือฮามาก ถือเป็นคีย์ฟีเจอร์เลย
ถ้ามีคนทำ หรือเห็นมาก่อนคงไม่ฮือฮาขนาดนั้นมั้ง
หรือว่าที่บอกว่ามีมานานคือการใช้
"สไตลัสลากสกรอบาร์ด้านข้าง พอสุดแล้วเด้งกลับ" (ถ้าจำได้แต่ก่อนไม่มีเด้งนะ)
"หรือใช้สไตลัสซูม ถ่างรูป" (ถ้าจำได้ แต่ก่อนใช้กด + – หรือเข้าเมนู แล้วกด เมนู zoom in, out นะ)
"หรือใช้สไตลัสดับเบิ้ลแท็ปเพื่อซูม"
อันนี้สำหรับสมาร์ทโฟนแต่ก่อน
หรือถ้าเป็นพวกฟีเจอร์โฟนทั่วๆไป ยังใช้กดปุ่ม แก๊กๆๆ อยู่เลย จอยังเล็กๆ แตะยังไม่ได้เลย
หรือที่ใช้มือ ใช้นิ้วที่บอกว่ามีมาก่อน ทำกันมานานแล้ว ไปเห็นใน minority report กันมาครับ
อย่ามองแต่ โทรศัพท์มือถือสิครับ
ยุคนั้นงานวิจัยพวก Multitouch ออกมาบนจอใหญ่ๆ
ก็มีการใช้แนวคิดนี้กันแล้วครับ
เพียงแต่มันยังไม่ออกมาเป็น mass ให้เรารู้จักเท่านั้นเอง
เรียกว่าถ้า Hardware มี Multitouch
Software ก็จะออกมาแนวๆนี้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว
การที่ Apple เอาตรงนี้มาใส่ในมือถือ
แล้วจดเป็นของตัวเอง ผมว่าไม่ถูกต้อง
Apple ไม่ควรได้สิทธิตรงนี้
อ้าววววววววว ไม่ให้พูดเรื่องมือถือซะงั้น ไปไม่เป็นเลย – -'
บอร์ดก็บอร์ดมือถือ ฟ้องร้องก็เกี่ยวกะมือถือ
แล้วอีกอย่าง ยกเลิกการจดสิทธิบัตรเถอะครับ เพราะทุกอย่างมันไม่ได้เกิดขึ้นเองหรอก ต้องผ่านการคิดค้น การวิจัยทุกอย่างแหละแล้วมันก็มีมาแล้วทั้งนั้นแหละครับ
โอเคอาจจะมีการคิดค้น วิจัย แต่การที่ apple เอามาใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่ในห้องแล็บ จนแพร่หลายไปทั่วขนาดนี้ กลับกลายเป็นซาตานซะงั้น
ข้าวหอมะลิก็จดไม่ได้งั้นสิ เพราะปลูก เพาะพันธ์มาตั้งเป็นร้อยเป็นพันปีแล้วเนาะ
พันธ์ุผลไม้ต่างๆเช่นแอปเปิ้ลแคลิฟอร์เนีย ส้มฟลอริด้า(ยกตัวอย่างนะ จะมีจดจริงๆป่าวไม่รู้)ก็ไม่ควรมีพันธ์ เนอะ เพราะปลูกกันมานานแล้ว ที่สำคัญ ตั้งแต่แรกๆเกิดตามธรรมชาติด้วยซ้ำ
หรือสิทธิบัตร 3G ที่ samsung ฟ้อง Apple ก็ไม่ควรมีเนาะ เพราะระบบ 3G น่าจะมีการวิจัยมานานแล้วเหมืนกัน
พูดถึงเรื่องฟีเจอร์ที่เป็นเรื่องเป็นราวกันเผลอๆ ผมว่าเผลอๆ Apple อาจจะเป็นเจ้าของด้วยการไปซื้อจากพวกบริษัทวิจัยที่คุณว่าก็ได้นะ
อยากรู้จัง ถ้าผมถ่ายรูปสักรูป สมมุติรูปสะพานพระราม 8 แล้วโพสโชว์ แต่มีคนมาก็อปรูปผมไปใช้เพื่อการค้า
ผมจะเรียกค่าลิขสิทธิ์ หรือฟ้องได้ใหม หรือว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะสะพานก็ไม่ใช่สะพานของผม แถมรูปสะพานก็มีคนถ่ายเยอะแยะ มุมก็ซ้ำๆ กัน – -'
เออ เราพูดเรื่องสิทธิบัตร นะครับ
ไม่ใช่พูดเรื่อง สิทธิบัตร"เฉพาะมือถือ"
แล้วที่คุณร่ายมา
ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหอมมะลิ (ซึ่งมันเป็นเรื่อง "เครื่องหมายการค้า")
เรื่อง 3G ที่เป็นการวิจัยเทคโนโลยี ที่สามารถจดได้ชัดเจน
หรือ การถ่ายรูปสะพาน ร.8 ที่เป็นเรื่อง "ลิขสิทธิ์"
มันแสดงให้เห็นแล้วว่า
คุณไม่รู้เรื่องการจดสิทธิบัตรเลยซะกะติ๊ด
กระทืบไลค์
นับว่าเป็นอุทาหร ย้อนมาดูตัวเรา เหมือนกันนะครับ
สิทธิบัตรเจ้าปัญหา จำได้ว่า เคยฮือฮา ช่วงที่ ฝรั่งเรา พันธ์ไม้และยาที่เราใช้กันมานมนานเป็นสิทธิบัตรของตัวเอง
เซ็งชะมัดเลยนะครับเนี้ย ลำบากเหมือนกันนะเนี้ย ทำให้สินค้าประเภทเดียวกัน ใช้งานต่างกันให้งงเล่นได้อีก (ผมว่ามันออกจะเกินไปนะ เรื่อง อินเตอเฟสพื้นฐานเนี้ย (mac มันจดลิขสิทธิ การควบคุมเคาเซอร์ด้วยเม้าส์ไว้ป่าววะเนี้ย))
ไงต่อดีอะ SS งานนี้ ดู Apple กลายเป็นผู้ร้าย ที่มีทนายเก่งเลยแฮะ ^_^
ผมอ่านมาจนคอมเม้นสุดท้าย
แต่ก้ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ สรุปว่าเถียงกันเท่านั้น
ผมว่า ใครอยากใช้อะไรก้ใช้เถอะครับ หลายๆท่านในที่นี้ก็ใช้ ทีั้ง android และ apple
เรื่องคดีความปล่อยให้คู่กรณีเค้า clear กันเองดีกว่าครับ
user อย่างเราๆ อ่านข่าวเพื่อไม่ให้ตกเทรานก็พอครับ
^_________________^ !!!!!
เฮ้อ SS ก็ผิดที่ไปลอกเขาในบางอย่าง Apple ก็ผิดที่จดสิทธิบัตรบางอันที่บริษัทอื่นทำแล้ว
งานนี้ผิดทั้งคู่ครับ จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่ได้ ถ้ายังทะเลาะกันต่อไป ระวังนะครับ…
HTC จะดังแทน 555 (ขำๆนะครับ)
ท้ายที่สุด ถ้าเรามองในมุมของผู้บริโภค
ตราบใดที่ apple ไม่มีคู่แข่งขันยักษ์ใหญ่อย่าง samsung มาคอยคานอำนาจ ลองคิดกันเล่นๆดู ราคา Smart Phone ตอนนี้มันจะเท่าไหร่กัน (ยังจำไม่เคยลืมเลยตอนที่ iphone รุ่นแรกออกมา พอรู้ราคาก็ได้แค่มองตาแป๋วๆ)
แล้วกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเงินทองมากเช่นตัวผม จะมีโอกาสได้ใช้หรือเรียนรู้พวกเทคโนโลยีเหล่านี้กันมั้ย
คนจนหมดโอกาสใช้ เพราะของพวกนี้มันเป็นของเล่นของคนรวย คิดแล้วมันน่าเศร้าเนอะ
หวังว่าทาง Google(Motorola) โต้กลับบ้างนะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้ผู้บริโภคอย่างเราๆบ้าง
แต่ก่อน จำได้ว่า nokia จอดำๆ หรือจอสีๆ บางรุ่น พวกสไลด์ๆ ซีรีย์ 8 แพงไม่แพ้กันนะครับ ไม่เห็นมีอะไรเลย 2 – 3 หมื่น
หรือกระทั่ง windows phone บางตัวราคาก็ไม่หนีกันเท่าไหร่เลย
ที่ว่า iphone ราคาแพงๆเนี่ย ไปดูที่มาบุญครองตอนออกใหม่ๆแล้วหิ้วเข้ามาหรือเปล่า – -'
ผมคิดตรงข้ามนะว่า เพราะ iphone นี่แหละที่ออกมาแล้วมีอะไรใหม่ๆ ออกมา (ระบบ store, หรือฟีเจอร์ทั้งหลายแหล่ที่ฟ้องๆกันเนี่ย) ขายดีถล่มทะลาย เป็นตัวฉุดให้ทำให้เจ้าอื่นต้องปรับตัวตามกันเป็นแถบๆ ปรับตัวไม่ทันก็เกือบเจ๊งไปตามๆกั
ถ้า iphoneไม่ออก nokia ยังครองโลกอยู่ คุณอาจจะยังเลือกว่าจะเอา Nokia N รุ่นไหนดี ทั้งๆที่มันก็หน้าตาเหมือนๆกันหมด ระบบ symbian หน้าตาเดิมๆ วัสดุดีหน่อยก็หลัก 2-3 หมื่น อยู่ก็ได้นะ
หรืออยากเล่นเกมต้อง n-gage เลย แต่ว่าไปหาซื้อตลับเกมมาเล่นเองนะ ไม่แพงหรอก เกมละหลายร้อยหรือหลักพัน เท่านั้นเอง หรือว่าจะหาโหลดตามเนทแล้วมาใส่เมม ก็ออกแรงนิดนึงนะ
^ ^'
ที่ว่านั่นมันเรื่องที่เค้าฟ้องกันเหรอครับ? ผมไม่เห็นใครบอกว่า มี iPhone ออกมามันไม่ดีนะ?
ซ้ำ
ได้อ่านคห. ข้างบนผมใหมครับเนี่ย – * – เกี่ยวกับเรื่องที่เค้าฟ้องกัน ?
ปุ่ม reply เค้าเอาไว้ตอบหัวข้อข่าวเหรอครับ เพิ่งรู้ นึกว่าเอาไว้ถกกะคห.นั้นๆ
ปล.ไม่มีใครบอกไม่ดีสักคน
เค้าบอก ถ้าไม่มีใครก็อป หรือทำคล้ายๆกันออกมาคานอำนาจให้ apple ผูกขาดราคา จะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้ ทำให้มีแต่คนรวยๆใช้
ผมก็ตอบว่า เพราะ apple รึปล่าว ถึงมีระบบอื่นเช่น android หลากหลายราคาให้เลือกใช้
ไม่งั้นป่านนี้ nokia อาจครองโลก symbian ยังครองโลก โทรศัพท์แบบปุ่มยังครองโลกอยู่
คือแพงใหม แพงจริง แต่แพงแล้วให้มันสมราคาหน่อย ไม่ใช่ว่าแพงเพราะความหรูข้างนอก แต่ข้างในไม่มีอะไรเลย
คือผมไม่ได้บอกว่าคุณตอบคนข้างบน (ที่อาจไม่เกี่ยวกับข่าว) ไม่ได้
เพราะผมอ่านนั่นแหล่ะผมถึงบอกว่า แต่ละคนเค้าพูดถึงเรื่องคดีนี้ แต่ไม่มีใครบอกว่ามี iPhone แล้วไม่ดีสักหน่อย?
อย่างคนข้างบนคุณนั่นเค้าบอกว่า ผลจากคดีนี้พอเหลือเจ้าเดียว -> ส่งผลเสียยังไง (ของแพงเค้าซื้อไม่ได้ เพราะไม่มีคู่แข่ง)
ส่วนคุณมากบอกว่า แพงที่ไหนเมื่อก่อน Nokia ก็แพง แถมไม่มีอะไรเลย iPhone กลับทำให้ได้ของแพงและดี (คุ้มค่าในความรู้สึกคุณ)
ผมก็เลยบอกว่าที่คุณเขียนมามันไม่ได้เกี่ยวว่าตอนนี้มันเหลือ Apple เจ้าเดียวแล้วของมันจะแพงนี่ไง ที่เค้าบ่นไม่ใช่เรื่องมี Apple แล้วไม่ดี แต่เค้าว่าตอนนี้ไม่มีคู่แข่ง (ราคาแพง กับ คุ้ม มันคนละเรื่องกันนะ แพงก็คือแพง แต่แพงแล้วคุ้มไหม? ก็อีกเรื่อง) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มันแพง
อีกอย่างคือเหตุผลคุณนั้น มันไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลกัน
เพราะ Apple แพง->จึงมี Android หลายราคาให้เลือก? (เกี่ยวกันยังไง?)
ย่อหน้าสุดท้ายนี่ถ้าพูดถึงปัจจุบัน ผมกลับนึกถึง iPhone ซะงั้น
พิมพ์ในมือถือ ลำบาก เดี๋ยวกลับบ้านก่อนผมจะอธิบายยาวๆอีกทีนะครับ ^ ^
ปล.แค่ห้ามใช้บางฟีเจอร์ที่เป็นปัญหา แอนดรอยด์คงไม่เจ้งมั้งครับ ถ้าขนาดนี้แล้วเจ๊งเหลือเจ้าเดียวก็กระจอกไปหน่อยแล้วผมว่า
ถ้าจะพิมพ์ยาว ๆ เพราะจะต่อที่ผมอธิบาย ก็ไม่ต้องต่อหรอกนะครับ เพราะประเด็นผมสั้น ๆ ว่า "คุณคุยกะเค้าคนละประเด็น" เท่านั้นเอง
คนนึงบ่นว่าแพง อีกคนบอกว่า Apple ทำให้มือถือมีตัวเลือกมากขึ้น คุ้มค่าขึ้น ต่อให้ประโยคหลังจริงหรือไม่จริง ก็ไม่ได้ทำให้ประโยคหน้ามันเปลี่ยนนี่ครับ
และที่เค้าพูดถึงหมายถึง "Samsung" ไม่ใช่ "Android" เอ๊ะ หรือผมอ่านไม่ดีจริง ๆ???
ไม่ยาวมากหรอกครับ ทนอ่านหน่อยละกันนะครับ ผมกะลังพิมพ์อยู่ พิมพ์เสร็จจะโพสคุณมาโพสเสียก่อน ไหนๆก็พิมพ์แล้ว : )
อันนี้ประเด็นเรื่องของแพง
1.อย่างคนข้างบนคุณนั่นเค้าบอกว่า ผลจากคดีนี้พอเหลือเจ้าเดียว -> ส่งผลเสียยังไง (ของแพงเค้าซื้อไม่ได้ เพราะไม่มีคู่แข่ง)
อันนี้ผมเข้าใจครับ เรื่องการผูกขาด การตั้งราคา ฯลฯ แต่ผมไม่ได้มองอย่างนั้นไงครับ
– ถ้าหมายถึง "ณ ปัจจุบัน" การที่ samsung แพ้คดีไม่ได้หมายความว่า มันจะเจ๊งจนเหลือ apple เจ้าเดียวซะเมื่อไหร่ กะอีแค่ลูกเล่นไม่กี่อย่าง คิดใหม่ ทำใหม่ซิครับ เพราะฉะนั้นมันคงไม่แพงไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง หรือถ้าไม่มี samsung ก็มี ยี่ห้ออื่นอีกเยอะแยะ Android ก็พัฒนาขึ้นทุกวันๆ หรือ
– ถ้าหากคุณ sabugang หมายความถึงแต่ก่อน "เมื่อนานมาแล้ว" ว่าถ้าไม่มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง samsung (ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม)ในวันนั้น ณ วันนี้ apple ก็คงจะเป็นเจ้าตลาดแต่เพียงผู้เดียว คิดจะตั้งราคายังไงก็ได้ ไม่สนใจใคร / ผมเลยคิดไปถึงเมื่อก่อนว่ามันก็มีนี่นา เครื่องละหลายหมื่น, 3 – 4 หมื่นยังมีเลย แล้วไง ต่างกันตรงไหน ผมก็เห็นคนซื้อกันโครมๆๆ มันอยู่ที่คนมากกว่า ถ้าอยากได้ อยากมีแล้ว เครื่องละเท่าไหร่ก็ซื้อ
ด้วยสองข้อด้านบน ผมก็เลยตอบต่อไปถึงเรื่อง ราคา เรื่อง nokia เรื่องระบบต่างๆที่มีใน iPhone ไงครับว่า มันไม่ได้แพงไปกว่าเครื่องหรูๆสมัยก่อนอีก แถมมีระบบอะไรให้เล่นอีกตั้งเยอะ ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆที่แพง แต่แพงที่วัสดุ ระบบด้านในก็ symbian เหมือนๆกันหมด
————————————-
ส่วน อันนี้ลูกต่อเนื่องที่คุณถาม
2.เพราะ Apple แพง->จึงมี Android หลายราคาให้เลือก? (เกี่ยวกันยังไง?)
ถามกลับครับ คุณ btxxxx คิดว่าทำไมAndroid ยี่ห้อต่างๆ ในท้องตลาดจึงต้องทำให้มันมีหลายรุ่น หลายราคาด้วยครับ ทำไมไม่ทำรุ่นเดียวให้เจ๋งๆ ไปเลยแบบ Apple ครับ รุ่นไม่เยอะหมดปัญหา fragmentation, App ต่างๆรันได้ชัวร์ อย่าง samsung ก็จัดไปเลย Series Galaxy S รุ่นเดียว เจ๋งๆ เต็มแม็กซ์ ออกปีล่ะรุ่น ราคาก็เท่ากันไปเลย
1.ที่เขียนมาทั้งหมดก็ตามที่ผมบอกไปด้านบนว่า ที่เค้าบอกว่าแพง สมมติในมุมมองเค้าคือ 20000+ เรียกว่าแพง ดังนั้น มือถือที่ราคา 20000+ ก็คือแพงอยู่ดี และ "เค้า" คิดว่า "เค้า" ซื้อไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้ใช้
ไม่ว่ามันจะดียังไง คนอื่นจะซื้อใช้กันโครม ๆ ขนาดไหน มันไปเปลี่ยนจุดนั้นไม่ได้ไงครับ และก็ได้อธิบายไปแล้วว่า "แพง" กับ "คุ้ม" มันคนละเรื่องกัน
2.ผมไม่รู้ครับ แล้วคุณรู้เหรอ?
แล้วสรุปว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันยังไง? แสดงว่าถ้าไม่มี iPhone จะไม่มีมือถือหลายราคาให้เลือก???
Apple ทำถูกแล้วครับ ทุกอย่างมันก็เป็นเรื่องการตลาดของสองบริษัทใหญ่
จริงๆแล้วที่หลายๆคนไม่ชอบ Apple ไม่ใช่เพราะตัวบริษัท แต่เป็นเพราะตัว"ผู้ใช้"ต่างหากละครับ
อาจจะเป็นแค่ประเทศเราด้วยรึเปล่า ที่การถือของพวกนั้นแล้วรู้สึกอยู่เหนือกว่าผู้อื่น ได้กดขี่ ได้โอ้อวด?
ในขณะที่หลายๆประเทศอื่น เค้าคงไม่เป็นกันถึงขนาดนี้
เหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆทีเกิดจากมันสมองของคนอเชียขึ้นก็ได้ ผมว่าผลการตัดสินที่มาสรุปในเวลาี้นี้ก็เพื่อผลในการโปรโมต iphone ใหม่ของ apple เท่านั้นเอง
งานนี้เห็นด้วยว่า samsung สมควรโดน สมควรโดนหนักกว่านี้ด้วย
แล้วงานนี้ผมอยากให้ค่าย ญี่ปุ่นทั่งหลายเอาเป็นตัวอย่างว่าถึงเวลาเอาคืนแล้ว
เอาคืนจากเกาหลีให้หมด ทุกอย่าง
อ่านๆดู เอะ เค้าพูดถึงเรื่อง desige ไม่ใช่รึ
มั่วมาจากไหนเนี้ยย ก็เห็นๆ ว่าก็อบ desige เค้า
แล้ว htc lg oppo moto sony หล่ะ ทำไมไม่โดน -*-
หูย อย่าฟ้องเลย นะ oppo ของดีราคาถูก เดี๋ยวมันจะแพง T_T
ฟ้องๆไปเถอะยังไงผมก็ใช้มันทั้ง apple ทั้ง android นั่นแหละ วู้วววว
แอปเปิ้ล ตุ๊ด เอาของคนอื่นมาปรับ+เปลี่ยนชื่อ จด จบ
Social app ประเภท Instragram มีใครจดสิทธิบัตรไหม เห็น Molome ทำเหมือนกันเด๊ะ
ผมฮาตอนเห็นโฆษณา 4S ที่ถ่ายรูปแล้วอัพขึ้น social network ได้ทันที อันนี้ไฮเทคมาก ใหม่จริง ๆ :S
ต้องการสื่อว่าเจ้าของเว็บนี้ก็ลอกเหมือนกันละสิ
ถ้าคิดแบบนั้นก็หาเว็บอื่นเล่นเถอะครับ
ถ้าขำขำก็ขอโทษด้วย
คห เยอะมาก อ่านไม่ไหว
เผา apple store, istudio เลย
เรปล่างว่าไง
คิดว่าความยุติธรรมจริง ๆ มันไม่มีอยู่แล้ว อยู่ทีกำลังภายในซึ่งเรามองไม่เห็น
ไม่ได้เป็นสาวกใคร และไม่ได้เข้าข้างใคร ต่างคนก็ต่างทำเพื่อปากท้องของตัวเอง
โอยเหนื่อยอ่านมาไม่มีอะไรเลยมี่แต่คนทะเลาะกันเพื่ออะไรครับ?
ถ้าเป็นแฟนค่ายต่าง ๆ ก็ทะเลาะเพื่อความถูกต้องในมุมมองของตัวเอง
ถ้าเป็นพวกสนใจผลกระทบของผู้บริโภค ก็ต้องการหาความจริงจากการกระทำของ Apple และ Samsung ว่าจะนำไปสู่อนาคตแบบไหน และทำให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบหรือเปล่า
ผมว่าซักวันคงจะมีบริษัทที่ไม่ต้องทำอะไรกินคอยแต่จดสิทธิบัตรฉกฉวยเอาสิ่งที่คนไม่ได้จดเอาไปจดเป็นของตัวเองเสียให้หมดแล้วก็มาคอยฟ้องเอาเงินชาวบ้าน ท่าจะรวยแหะ
ถ้ามีหลักฐานว่าสิ่งนั้นมีก่อนการจด ก็สามารถยื่นเพื่อยกเลิกสิทธิบัตรนั้นได้ครับ
ตอนนี้ไทยก็ได้เร่งทำแล้วเหมือนกัน พวกสมุไพรไทยโดนญี่ปุ่นเอาไปจดเพียบ
ในที่สุดแล้ว มันก็เป็นเรื่องของธุรกิจ และแทกติคในการหาช่องว่างเพื่อแสวงหาเงินกำไรกัน
และผมก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว UI ทั้งหลายที่ทุกวันนี้หน้าตาเหมือนๆกัน (คล้ายๆกัน) คงมีใครสักคนทำออกมาแบบใหม่โดยที่จะไม่ซ้ำใครเลย ก็เป็นไปได้
สำหรับผม ไม่ชอบ ตระกูลผลไม้แหว่งเพราะ มัน sync ข้อมูลบางอย่างยากเหมือนกัน และคนก็ใช้กันเยอะซะจนเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง (โดยส่วนตัวไม่ได้คิดว่ามัน เท่ห์เลย มันให้ความรู้สึกติดแบรนด์มากกว่า) ทุกวันนี้ผมใช้ SS galaxy s3 อยู่ เหตุผลเพราะ มันลงตัวกะความต้องการผมเท่านั้นเอง อีกหน่อย หากแบรนด์อื่นตอบสนองการทำงานผมได้ง่ายกว่าที่ใช้อยู่ก็อาจจะเปลี่ยนได้ ไม่ตายตัว
ฉะนั้น… จบเหอะครับ ทะเลาะกันไปก็แค่นั้น
ปล. เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ^^
การถ่างนิ้วแล้วซูม ผมก็ไม่เห็นเจ้าไหนทำขึ้นมาเลยน่ะครับ มาเริ่มเห็นตอนเปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกอ่ะครับ ผมยังมองว่า เออมันเจ๋งวุ้ยย ซึ่งตอนนั้นผมใช้ วินโดว์โมบายอยู่ หลังจากได้มีโอกาสได้ใช้ไอโฟน ก็ไม่เคยคิดจะอยากใช้อีกเลยครับ 1.เพราะมันยุ่งยากเกิ๊นน จะถ่ายโอนไฟล์จะติดตั้งโปรแกรมทีหลยขันตอนเหลือเกิน(วินโดว์หรือซิมเบี้ยนแค่โยนไฟล์ลงเครื่องก็ติดตั้งได้แล้ว
2.ราคาเปิดตัวโคตรจะสุดแพง
สรุปคือ
Apple Here
Samsung ก็ Here พอๆกัน
+ 1
เห็นด้วย
S3 หายไป 1,561,485 เครื่องเลยนะนั่น *0*
ประเด็นเรื่องรูปทรง โค้งมน แบบแอปเปิ้ล ถ้าเรายอมรับคดีนี้จะหมายความว่า รูปลักษณ์ใดๆที่บริษัทใหญ่ๆออกแบบขึ้นมาก่อน และได้นำมาใช้ จะกลายเป็นเอกสิทธิ์ของบริษัทนั้นทันที ลองพิจารณาดูว่ามันสมควรมั้ย เคยเรียนเคสเรื่องการจดลิดลิขสิทธิ์รหัสดีเอ็นเอมั้ยครับเขาโต้แย้งกันมากว่า ไม่สมควร เพราะมันเป็นของที่ได้มาจากธรรมชาติแล้วใครกันที่มันพยายามจะจด ก็พวกเมกันและครับประเทศเขาเจริญก่อนคนอื่น ตอนนี้ยังนำหน้าอยู่ ถ้าพวกเขาสามารถจดทุกอย่างได้ อนาคตก็จะเป็นหลักประกันว่าไม่มีใครสามารถมาแข่งขันกับเขาได้เคยได้ยินกรณีเขาจดพันธ์ข้าวไทยมั้ยครับคุณคงยอมรับกรณีนี้ด้วยสินะ เพราะเขาจดไว้แล้วทีหลังเวลาชาวนาไทยปลูกข้าวก็จ่ายตังค์ให้พวกเมกันด้วยละกันทีนี้เรื่องของเรื่องคือ รูปทรงที่แอปเปิ้ลจดลิขสิทธิ์ไปมันเป็นสิ่งที่มีอยู่จากธรรมชาติเหมือนกับเคสที่ผมยกไปข้างต้นนี้แหละ แอปเปิ้ลไมม่ได้เป็นผู้คิดค้นรูปทรงดังกล่าว ไม่รู้ว่าถ้าจะจดกันจริงๆ อาจจะต้องให้พวกปีทากอรัสหรือใครพวกนั้นในสมัยกรีกโบราณเขาได้ไปแทนมากกว่า ไม่ใช่แอปเปิ้ลครับ
ปล.ผมนำมาจากพันทิปครับ
นี่แหละครับคือ ความฉลาดของ Apple ไงหรือความฉลาดของ ประเทศผู้พัฒนา
ที่เอาเรื่องที่มีอยู่แล้ว*บางเรื่อง*มาเป็นของตัวเอง ฉลาดดี
ใช้กดหมายเป็น คิดได้เน้อ ^^
ส่วนตัวผมว่ามันเป็นคำกล่าวอ้างของ ซัมซุงนะครับ หากมองผ่าน ๆ ตา ผมว่าโทรศัพท์บางรุ่นของ Samsung พยายามทำให้เหมือน Apple จริง ๆ หากลองเทียบกับ Android ค่ายอื่น ๆ เช่น Sony, HTC
มันก็น่าคิดนะครับ ว่าทำไมค่ายอื่นไม่โดนฟ้องด้วยสิทธิบัตรเดียวกันนี้ ทั้ง ๆ ที่ Apple สามารถทำได้เช่นกัน
สิทธิบัตรข้าวหอมมะลิที่ฝรั่งเอาไปจด คือวิธีในการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้สามารถปลูกในประเทศของเค้าได้ครับ
เพราะถ้าไม่มีการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิก่อน เอาไปปลูกบ้านเค้ามันปลูกไม่ขึ้น
ไม่ใช่ฝรั่งไปขโมยข้าวหอมมะลิบ้านเรา
บางทีคนไทยเราน่าจะหาข้อมูลอะไรก่อนไปด่าชาวบ้านชาวช่องเค้าบ้างนะ
ผมว่าประเด็นเรื่องข้าวหนะถ้าเอาเข้าจริง ก็คงผิดที่การใช้ชื่อให้สับสนครับของบ.เอกชนใน usa นะแหละครับ
แล้วพอดีมันก็มีการจดสิทธิบัตรที่คุณว่านั้นโดยอีกหน่วยใน usa แล้วคนก็มองไปได้หมดว่า นั่นคือ usa ทำ
ข้าว jazz man หนะ เวลาฝรั่งออกเสียง เสียงมันคล้ายกับ jasmine นะครับ
ซัมซุงผิดครับ ที่ไม่เอาคลิปนี้มาเป็นหลักฐาน ว่าทิม คุก ใช้นโยบายผิดจาก สตีฟ จ้อปส
https://www.youtube.com/watch?v=CW0DUg63lqU&feature=youtube_gdata_player
สรุปง่ายๆ แอปเปิ้ลเอาของคนนู้นคนนี้มาปรุงใหม่เป็น best แล้วหลัังๆก้อจด สิทธิบัตรซะเอง เฮ้อ
ความเห็นผม ถ้าคณะลูกขุนเป็นกลุ่มเทคโนโลยี นักพัฒนาต่างๆ ผลไม่ออกมาแบบนี้แน่ครับ แต่โดยหลักก้อคือ ปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของอเมริกานั่นแหละ มูลค่าแอปเปิ้ลยังค้ำพื้นฐานเศรษฐกิจอเมริกา กีดกันทางการค้าชัดๆ ทำตัวเป็นจ้าวโลภ เอ้ยโลก ไม่ชอบ!!
บางเรื่อง Apple ถูกต้องตามหลักกฏหมาย แต่ไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม
เอ๊ะ!! คุ้นๆ
"ด่า Apple" … เขาทำถูกของเขา ไปด่าเขาทำไม?
ที่ผิดคือซัมซวยสิ ไปละเมิดสิทธิบัตรเขาทำไม?
มีมือ มีแขน มีขา มีสมอง มีความคิด ทำไมไม่สร้างสิทธิบัตรของตนเองขึ้นมาล่ะ??
ประเด็นในหัวข้อนี้คือ "ละเมิดสิทธิบัตร" อย่าเถลไถลออกนอกทางสิพวกท่าน ~
"ในขณะที่ซัมซวยกับแอปเปิ้ลต่อสู้กัน หารู้รึไม่ว่า…
โซนี่กำลังซุ่มผลิตอารยธรรมใหม่ๆอยู่ ฮา~"
เรื่อง Multi-Touch นี่เป็นของบริษัท Finger Work ไม่ใช่หรือครับ แล้ว Apple ก็ซื้อบริษัทมาทั้งดุ้นเพื่อมาใช้ใน iPhone แล้วจดสิทธิบัตร ผมมองว่าเขาก็ทำถูกต้องแล้วนี่ครับ ในเมื่อเขาซื้อมา
เรียกร้องเรื่องมวยโอลิมปิกจ่าแก้วดีกว่ามั้ยคนไทย
ติดตามอ่านทุกคอมเม้น ได้ความรู้ดีครับ ขอบคุณครับ
ใช้ I-mobile เลยครับ อิอิ ไม่มีใครเขามาฟ้องด้วย
น่าสงสาร samsung
ต่อไปจะมีคนจด รูปทรง การ design แล้วเรียกว่ามันคือนวัตกรรม อีกมากมายแน่นอน
คงต้องรอให้ Google via Motorola จัดหนัก
ได้อ่าน สิทธิบัตรที่ฟ้องร้องกันหรือป่าว
ว่ามีอะไรบ้างที่โดน น่ะ ไม่ใช้เรื่องดีไซด์อย่างเดียว
เรื่องดีไซต์นี่ส่วนน้อยด้วยซ้ำ Tab ยังรอดเลย…..
โอ้ว ว ว โดนเรื่องดีไซด์ ด้วย สงสัยผมคงตาไม่ดี ไม่หยักรู้ว่ามันเหมือนกัน หรือ 5% 10%ก็ไม่ได้หรือกฎหมายแห่งพวกคนเจริญ
อ่านหมดแล้วปวดตับ apple อย่าฟ้อง ยี่ห้ออื่นเป็นพอครับผมจะได้มีตัวเลือกยี่ห้ออื่นไว้ใช้บ้าง
-โดนฟ้องพันล้าน ยี่ห้อที่ผมใช้เจ๊งแน่ๆ ส่วนซัมซุงช่างเข้าครับ รวยแล้ว แค่พันล้านขนหน้าแข้งคงไม่ร่วง
-ได้กำไรจากการละเมิดมากมายก็แค่คืนกำไรให้เข้าบ้างครับ apple เดียวเข้าก็ต้องคืนกำไรให้ moto กะ google บ้างละถ้าไปละเมิดข้องเข้านะครับ
-มันเป็น ธุรกิจและกฏเกณฑ์ของอเมริกาเข้าจะขายของในบ้านเข้าก็ต้องเล่นตามกติกาของเข้าแม้ว้าคุณจะเสียเปรียบแค่ไหนก็ตาม ไม่ก็ไม่ต้องขายของในอเมริกาเลยครับซัมซุง แต่ถ้ามาฟ้องเจ้าอื่นๆ จนต้องเลิกกิจจการนี้สิแย่สุดๆ
(ไม่มีเหตุผลความเห็นส่วนตัวล้วนๆ)
ดู design กับ user interface อย่างเดียวคงไม่แพ้เค้าหรอกครับ เพราะพวกสินค้า fashion ก็เหมือนกันเกือบหมด
แต่เค้าดูที่ เจตนา กับ จุดประสงค์ ไปประกอบกับ timeline ของมือถือด้วยครับ
ลองหาอ่านข่าวเก่าๆดูนะ ผมคุ้นๆว่ามี samsung คงหาข้อแก้ต่างจุดนี้ไม่ได้
ไอ้ที่ว่าจะทำกลไกราคาสินค้าพังอ่ะ เค้าคงไม่ทำหรอก เพราะเคยเห็น sony ทำพังมาแล้ว ผลมันไม่ได้ออกมาดีเหมือนราคาที่ตั้งไว้ ทำให้เสียลูกค้าไปเยอะเลย
มันถึงเวลาของ ซัมซุงแล้วครับ เพราะ สตีฟจ๊อบ ไปเกิด "ภุมมะเทวาสายวิทยาธรกึ่งยักษ์"
อ้าวจะมีใครฮ่ากับผมมั้ยเนี้ย 55+
ผมฮานะจ๊ะ
เถียงไรกันมากมาย ผมว่าเหตุผลหลักคือแค่อเมริกาไม่อยากเสียผลประโยชน์ให้กับเกาหลี แค่นั้นเองครับ +กับหลายอย่างของซัมซุงผมว่ามันเหมือนไอโฟนเกินไปจริงจริงแหละ คือ คหสต ผมว่าก๊อปจริงจริงอะแหละ
จากเท่าที่อ่านมา ผมมองว่า เราต้องแยกประเด็น ระหว่าง กฏหมาย กับ คุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณ ออกจากกัน
1000ล้านเหรียญ คุ้มแล้วครับ สำหรับการเปลี่ยนค่ายโทรศัพท์มือถือกากๆค่าย 1 ของโลกให้มาเป็น Number 1ได้
เห็นด้วยครับผมว่าเค้าคุ้มค้าแล้วครับ
ผมยังเคยคิดดูเล่นๆ เลยว่าถ้ามือถือของไทยเองไปยืนอยู่บนจุดนั้นได้ ถึงจะแพ้ ผมก็ภูมิใจอยู่ดีแหละ
แต่จริงๆมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทำเลียนแบบเค้าอย่างเดียวหรอกครับ ผมว่าอยู่ที่คนในประเทศเค้าใช้แต่ของๆ ตัวเองมากกว่า
สมัยก่อนใครๆก็รู้ว่า samsung ห่วยแค่ไหนแต่คนในประเทศเค้าก็ยังทนใช้กันจนปัจจุบันเป็นเบอร์ 1 ของโลกไปแล้ว
ดู รถยนต์ Hyundai ดิ เมื่อก่อนคุณภาพไม่ดีเลย คนประเทศเค้าก็ยังทนใช้กันไม่บ่นซักคำ เมื่อก่อนผมเห็นแล้วยังยิ้มเลยผู้นำประเทศเค้าใช้รถยี่ห้อตัวเองที่ทั้งเก่าทั้งคันเล็กๆดูตลกๆดี จนปัจจุบัน เป็นยี่ห้อขายดีเป็นอันดับ 4 ของโลกไปแล้ว ยอดขายต่อปีมากกว่า Honda เท่าตัวได้ แล้วยังเป็นยี่ห้อที่สร้างนวัตกรรมใหม่ๆมาให้โลกเห็นด้วย
ปธนคนปัจจุบันของเกาหลีใต้
เป็นคนจน เป็นเด็กเก็บขยะ เค้ารู้ครับว่ากว่าเค้าจะมาได้ต้องทำยังไง
เค้าก็พัฒนาประเทศไปทางนั้น ทั้งเน้นการศึกษา การเน้นสร้างมูลค่าของตัวเองด้วยการสร้างเทคโนโลยี
มันไม่เหมือนคนรวยบริหารประเทศนะครับ ที่เน้นซื้อมาขายไป ขนาดตัดงบเพื่อให้หน่วยงานรัฐไปซื้อแทนที่จะพัฒนา
ก็ดีต่อไปนี้นี้ทำให้เรา สงสารและเห็นใจsamsung มากขึ้น เราอยากใช้ samsung ต่อไปละสนับสนุนอุดหนุนกว่าเดิม
ผมว่าสื่อพยายามเขียนข่าวให้ดูเหมือนว่าเป็นสงครามระหว่าง iOS และ Android เพื่อความสนุกในการเขียนข่าว
ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว Apple ฟ้องแค่ Samsung ในข้อหา Look & Feel คือพยายามสร้างโทรศัพท์ที่ "ตั้งใจ" ให้เหมือนกับ iPhone มากจนเกินไป และจำนนด้วยหลักฐานในชั้นศาล ลองดูนะครับว่าสิทธิบัตรที่ใช้ฟ้อง Samsung นั้น Apple สามารถฟ้องผู้ผลิต Android หลายรายได้ แต่ทำไม Samsung โดนอยู่เจ้าเดียว เพราะเจ้าอื่นเช่น Sony, HTC, Moto ถึงจะมีส่วนแบ่งการตลาดสู้ Samsung ไม่ได้แต่เค้ามีเอกลักษณ์ในการออกแบบ
ที่ Samsung กล่าวอ้างว่าไม่เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ผมก็มองไม่ออกว่า "การลอก" จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไรเป็นการเล่นบาลีไปงั้น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องด้านราคา ผมเห็นด้วยว่าจริงครับ
อย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องของ Apple กับ Samsung แม้แต่ Android เจ้าอื่น ๆ เค้ายังไม่มาเดือดร้อนแทน Samsung เลย
อย่าทะเลาะกันด้วยปลายปากกาของสื่อเลยครับ
มันก็สรุปอย่างนั้นไม่ได้ทีเดียวหรอกครับ
ถ้าวันนึง HTC / Sony / Moto เกิดเป็น อันดับ 1 ดังเปรี้ยงป้าง ก็ "อาจจะ" โดนฟ้องได้เช่นเดียวกันครับ
เพราะก่อนหน้านี้ Android รุ่นอื่นๆของยี่ห้ออื่นๆ ก็โดนฟ้อง ban ด้วยข้อหาที่แตกต่างกันไปมาตลอดนะครับ
ไม่ใช่หรอกครับ ฟ้องบริษัทอื่นมันยอดขายไม่เท่า Samsung นี่ครับ ยิ่งประเด็นสิทธิบัตรเค้าจะคิดมูลค่าความเสียหายกันตามจำนวนชิ้น ฟ้องเจ้าอื่นมันไม่คุ้มเท่าฟ้อง Samsung ครับ
ผมชอบทั้ง 2 ค่ายทั้งหุ่นเขียวและผลไม้น่ะฮะ
มองไปเห็นแอเปิ้ลจดทะเบียนบลาๆ 1 อย่าง
ซัมซุงไปทำเลียบแบบเขา (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกแบบหรือ UI ก็ตาม)
แอปเปิ้ลฟ้อง ศาลเห็นด้วย ตัดสิน จบ !!?
ประเด็นมีแค่นี่เองน่ะครับ มันพื้นฐานหรือไม่ แอปเปิ้ลเห็นแก่ตัวหรือไม่ บลาๆ หรือไม่ ผมว่าเป็นคนละประเด็นแล้วครับ
เถียงกันไปก็ยาวเปล่าๆ ครับ เสียเวลา เสียอารมณ์กันป่าวๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลดีกับ OS อื่นอย่าง Microsoft แน่นอนตามที่ข่าวเขาลงไป เพราะ …
ผู้ผลิตมือถือเจ้าอื่นทำตาปริบๆ แล้วรู้สึกเหมือนถ้าวันนึงตนโดนฟ้องบ้างจะทำอย่างไร
ถ้าออก OS Windows 8 บ้างน่าจะปัญหาน้อยกว่าเพราะ Microsoft เองก็สิทธิบัตรเยอะอยู๋แล้ว
งานนี่ถ้า หุ่นเขียวอยากเรียกศรัทธากลับมา อาจต้องใช้การฟ้องแอปเปิ้ลกลับบ้าง เช่นเรื่องเสาอากาศ 5555+
อย่างนี้ Google น่าจะฟ้อง Apple กลับบ้าง ที่ลอกเลียน Map ของ Google Map และลอก Youtube ด้วย
ลอก ยังไง อธิบายหน่อยครับ??
ดูจากการตลาดของ SS ก็รู้ว่า ทำทุกอย่างเพื่อจะขายสินค้าของตัวให้ได้เยอะ ๆ เพื่อผลกำไรเท่านั้น
ผมว่าของบางอย่าง ใครๆก็คิดได้ แต่คนบางคนไม่มีสามัญสำนึกเอาเรื่อง ทั่วไปมาจดเป็นของตัวเอง เช่น เอานิ้วเดียวเลื่อนหน้าจอ ถ้าเขาจด 2 นิ้ว 3 นิ้ว 4 นิ้ว ด้วย เราไม่ต้องเอาลิ้นเลื่อนหน้าจอหรอ 555
ไอ้ที่ลอกหน้าตาเขามาโดนฟ้องไปก็ยังโอเค แต่บางข้อนี่รับไม่ได้ จริงๆ
ก่อนอื่นต้องขอโทษเพื่อนๆก่อนน่ะครับ เพราะจากเรปแรกที่โพสไป จึงทำให้เกิดดราม่าขึ้น แหะๆ
por311 VS btxxx
เลยต้องมาอธิบายซะหน่อยว่าใจจริงๆผมต้องการสื่ออะไรกันแน่ (ซึ่งแน่นอนมันไม่เกี่ยวกับเรื่องการตัดสินคดีความเลย)
คือ…ผมแค่มองสะท้อนภาพของกลุ่มคนส่วนใหญ่ ที่อาจจะไม่มีฐานะทางการเงินมากมายอะไรนัก แต่ก็อยากใช้ เรียนรู้ ศึกษา เกี่ยวกับเทคโนโลยี โทรศัพท์มือถือสมัยใหม่ ซึ่งมันมีนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากและแน่นอน ราคามันก็สูงตามไปด้วย แต่พอมานึกถึงเม็ดเงินที่ต้องเสียไปในราคาที่สูงมันคงไม่มีปัญญาเป็นแน่ๆ
เลยคิดว่า…ถ้าตราบใดที่ไอโฟนไม่มีคู่แข่งขันที่เทียบเคียงกันได้ ดังนั้นไอโฟนมันคงจะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้ เพราะว่ายังไงคนก็ต้องซื้ออยู่ดี(คนที่โดนเอาเปรียบเรื่องราคามันก็คือผู้บริโภคใช่หรือไม่) แต่ถ้ามีบริษัทอื่นๆไม่จำเป็นต้องซัมซุงหรอกนะ แต่สามารถผลิดโทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกัน แต่ในราคาที่ถูกกว่ามาก ดังนั้นคนทั่วไปก็สามารถซื้อมันมาใช้หรือศึกษามันได้ ไม่ได้ว่ายี่ห้อไหนมันก็มีดีในตัวของมัน และมันก็ทำให้เกิดการพัฒนาที่ต่อยอดล้วนแล้วทั้งสิ้น
สรุปสั้นๆเลยละกัน แค่อยากให้่พวกเราเราทั้งหลาย ได้ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและทันในยุคนี้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีราคาสูงมากนักแต่ก็มีปัญญาซื้อหากันได้ ไม่ต้องการให้เกิดกฎของการแบ่งชนกันโดยราคาเป็นตัวกำหนดเกิดขึ้น
สุดท้ายนี้หวังว่าอย่าให้มีเหตุการที่จะยกตัวอย่างเช่นนี้เกิดขึ้นในอนาคตเลย
**คนรวยรอไอโฟนห้า คนจนรอซื้อไอโฟนสามจีเอส**
ปล.1 ถึงคุณ btxxx ท่านได้เข้าใจในเจตนาของผมอย่างแจ่มแจ้งและคอยแก้ต่างให้ ขอขอบคุณมากๆครับ
ปล.2 ถึงคุณ por311 คนเราตรรกะไม่เหมือนกัน อย่าไปคิดแทนคนอื่นนะครับ แต่อยากให้มองถึงเจตนาที่แท้จริงของคนคนนั้น
งั้นจะอธิบายให้เข้าใจละกัน เอาตรงๆนะผมว่า คุณนะเป็นพวกบ้าวัตถุ แต่ไม่ได้บ้าเทคโนโลยี และคุณอย่าคิดนะว่าทั้งซัมซุงหรือไอโฟนผมไม่เคยใช้ เอาง่ายๆผมขายมือถืออยู่เล่นมือถือมาเยอะ ไม่ว่าจะแฟลตรอม รูทเครื่อง หรือ เจลเบรค ทำมาหมดแล้ว ซึ่งแน่นอนทุกรุ่นเทคโนโลยีของมันมีดีอยู่ในตัว แต่แค่บอกว่ามันแพงไปและแค่เสียดายสำหรับคนที่มีเงินทองไม่มาก ถ้ามือถือมันแพงขึ้นไปอีกหลายๆคนคงหมดปัญญาได้เรียนรู้และได้ศึกษาในเทคโนโลยีเหล่านั้น
และผมขอแก้ต่างข้อ1กะขอ2ที่คุณพิมพ์มาละกัน
1.ถ้ามันมีไอโฟนอยู่เจ้าเดียว คนส่วนรวมที่ไม่มีเงินมากมันจะมีปัญหาได้ซื้อกันมั้ย ผมไม่ได้บอกนะว่ามันมีแค่เจ้าเดียว อาเมนนน
2.ที่คุณบอกมานั่นมันพวกวัตถุนิยมครับ มองคนส่วนใหญ่สิ แน่ใจแล้วหรือว่าคนส่วนใหญ่เค้าใช้กัน ในตอนนั้นผมยังซื้อโทรศัพท์มือสองมาใช้เลยเพราะคิดว่ามันสิ้นเปลืองไป 555+
ต่อมาคุณเอาไอโฟนมาเปรียบเทียบกับโนเกียอีก มันคนละเรื่องกันชัดๆ ฟิตเจอร์โฟนไปยุ่งอะไรกับสมาร์ทโฟน มวยคนละชั้นกันด้วยซ้ำ เป็นผมถ้าเปรียบแบบนีั้ผมก็ยอมเสียเงินซื้อไอโฟนอยู่แล้ว
"ผมมันไม่ใช่พวกเสพวัตถุหรือพวกติดยี่ห้อ แต่ผมมันเป็นพวกบ้าเทคโนโลยี เพราะว่าการได้สัมผัสอะไรใหม่ๆมันเป็นอะไรที่สุดยอดและน่าค้นหา ^^"
*****ขอโทษเพื่อนๆทุกคนด้วยนะครับที่ทำให้รกกระทู้ แต่ขอออกมาแก้ต่างซะหน่อย*****
ขอบคุณครับ
🙂
การฟ้องร้องครั้งนี้
ผมสนับสนุนการใช้กฏหมายที่ชัดเจน ไม่เอาสิทธิบัตรที่คลุมเครือ
แต่การที่ซัมซุงมาร้องแล้วบอกตามข่าวหนะ
ผมว่าน่าเกลียด
เพราะถ้าคดีพลิก คำพูดของซัมซุงจะไม่ได้บอกว่าเป็นชัยชนะของคนอเมริกัน
แต่บอกว่าเป็นชัยชนะของผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ์
ทั้งที่ตอนนี้ต่างละเมิดสิทธิ์กันและกัน แม้ว่าบางตัวอาจจะกำกวมด้วยซ้ำ
ผมว่าตอนนี้ควรมีใครออกมาจดสิทธิบัตร tablet ที่เป็นวงกลมได้แล้ว
ผมว่าในอนาคตอาจจะมีก็ได้ แต่เป็น tablet ที่ฉาย hologram ลองกลางอากาศ ซึ่งถึงตอนนั้น คงไม่มีใครอยากจะให้มันต้อง4เหลี่ยม คอยจับด้านให้ถูก แต่จะมองhologram เป็นทรงกระบอกเลย จากการวาง tablet วงกลม(เพ้อแล้ว)
เถียง กันไป คนไทยได้อะไรไหม
ได้ใช้เหตุผลความคิดครับ อย่างน้อยที่สุดก็ได้แสดงออก ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆแน่นอนครับ
เถียงกันเราได้ความรู้ครับ รู้ว่าคิดอะไรได้รีบไปจดสิทธิบัตรก่อนไอ้หัวทองมันจะจดครับ
ต่อไปไอ้หัวทองมันอาจมาจด สิทธิบัตรการทำมือถือแบบมีหน้าจอ
ใครทำมือถือมีหน้าจอ ต้องโดนฟ้อง5555555555
ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ของบางอย่างมันก็พื้นฐานเกินไปที่จะใช้อ้างสิทธิ์อะครับ เช่นประตูสี่เหลี่ยม , นมรสจืด, โทรทัศน์จอสี, รถยนต์สี่ล้อ และอื่นๆประมาณนี้อะครับ รวมถึงการวิธีการซูม หรือลักษณะขอบมนของไอค่อน ฯลฯ ที่มันพื้นฐานมากๆเมื่อคำนึงถึงลักษณะการใช้งานกับอุปกรณ์ ถ้ามันมากไป ก็จะกลายเป็นการผูกขาดทางการค้าได้ ผมว่าจุดนี้ต่างหากที่คนฟหมันไส้แอ๊ปเปิ้ลกัน เหมือนกับตอนที่ Oracle ฟ้อง Google ที่คัดลอกโค๊ดจาว่าไปใช้งาน อันนั้นผมเห็นด้วย แต่ประเด็นฟ้องของแอ๊ปเปิ้ลในสายตาผมมันงี่เง่าสิ้นดี และศาลอเมริกันไม่ใช่อะไรที่จะแสดงให้เห็นความชอบธรรมของโลก ในอีกหลายๆที่ในโลก แอ๊พเปิ้ลถูกศาลตัดสินให้แพ้ซัมซุงก็มี เช่นในอังกฤษเป็นต้น
สิทธิบัตรเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับโลกเราในอนาคต ต่อไปเอเชียจะต้องซื้อสิทธิบัตรจากอเมริกามาทำของทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ปลูกทุเรียนหรือข้าวหอมมะลิ ถอยมามองภาพกว้างๆจะเห็นว่าใครได้ประโยชน์สูงสุด มันไม่ใช่เรื่องว่าใครใช้อะไรดีกว่ากัน
คือ เห็นเถียงกันมาตั้งนานล่ะ เท่าที่อ่านบทความมา จับใจความสรุปแล้ว ซัมซุงโดนฟ้องเรียกค่าเสียหาย แต่ขนหน้าแข้งไม่ร่วง เพราะสินค้าที่ขายไป ได้กำไรมากกว่าสิทธิบัตรที่โดนฟ้องมากอยู่ สรุป คือที่เสียจริงๆ น่ะ คือ " เสียหน้า " ง่ายๆ ก็โดนดิสเครดิต แค่นั้นแหละ… จร้าาาาา
" ทั้งนี้ Q2 2012 ที่ผ่านมา Samsung (ทุกแผนกรวมกัน) ฟันกำไรไป 5.9 พันล้านเหรียญ เฉพาะส่วนของมือถือก็ฟันไปเหนาะๆ 3.64 พันล้านเหรียญ ดังนั้นถึง 1.05 พันล้านเหรียญจะเป็นเงินที่มากโขอยู่ แต่ขนหน้าแข้งของซัมซุงก็ยังไม่ได้ร่วงลงไปเยอะมาก "
ศาลอเมริกันตัดสินเพื่อบริษัทอเมริกัน จบป่ะ
กด LIKE
การจดสิทธิบัตรเป็นการรักษาสิทธิก็ถูกต้องอยู่ เเต่ถ้าจดมั่วซั่ว ทั้งผู้จด เเละผู้รับจด นั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ความถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นไปเเล้ว ก็อาจทำให้เป็นการขัดขวาง หรือ ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการสกัดกั้นตามมาในหลาย
หลายๆ เรื่อง เช่น เรื่องข้าวหอมมะลิไทยที่อเมริกาเอาไปจด เเละ เรื่องนี้เป็นต้น
ทางที่ดีสำหรับการจดสิทธิบัตรนั้นก็ควรที่จะสามารถเปลี่ยนเเปลงได้ตามความเหมาะสมกับปัจจุบันด้วย
เช่น เรื่องที่เป็นประเด็นกับล้อรถ หรือ พวงมาลัยเเบบวงกลม (โชคดีที่ไม่เป็นเหลี่ยมๆ) ซึ่งก็ควรจะนำมาพิจารณาด้วย
ว่าเหมาะสมหรือไม่ เเละที่สำคัญก็ควรมีการตั้งคณะกรรมการหรือองค์กรขึ้นมาเพื่อทำการตรวจสอบด้วย
เชื่อไหม มันจะกลายเป็นค่านิยมของหัวเกรียน เห้ยๆๆ เอ็งใช้ของปลอมนี่หว่า ทำไมไม่ใช้ Apple วะ รู้เปล่า SS ลอก Apple อะ
แต่สำหรับผม ผมพึ่งพอใจกับการใช้งานอะ มีคนถามทำไมไม่ใช่ i4s หรือรอ i5 ทำไมใช้ S3
ผมตอบว่า นิ้วผมใหญ่ผมเลยเลือกมือถือจอใหญ่ แค่นั้นเอง จะลอกหรือไม่ลอก ที่เหลือมันแล้วแต่ผู้บริโภคว่าจะเลือกอันไหน
แต่ถ้ามาปิดกั้นทุกเทคโนโลยีแล้วฟ้องหมด ผมว่าอันนี้ก็ไม่ไหวนะ การเป็นเจ้าของตลาดอยู่เจ้าเดียวอะ
เรื่องของสิทธิแน่นอนว่ามันต้องมีการรักษาสิทธิประโยชน์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่ผมว่าบางอย่างที่คนอื่นมาสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้
มันก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ จริยธรรมทางธุรกิจอะ
แอปเปิ้ลแน่ใจหรอว่าไม่ได้ละเมิดใครเขามาน่ะ
หรือละเมิดแต่ สาระแนไปจดสิทธิบัตรก่อน
ยกตัวอย่างบ้านเรานะ ที่เคยมีข่าวเรื่องเกี่ยวกับเพลง
อีกคนแต่งแต่ไม่จดลิขสิทธิ์ อีกคนแอบมาเห็นเนื้อเพลง เพราะดีรีบไปจดลิขสิทธิ์
จบเลยครับ แอปเปิ้ลมันทำแบบนี้รู้ไว้ด้วย
ซ้ำ