Apple ได้ปล่อยโฆษณาวิดีโอตอนใหม่ในซีรีส์ The Underdogs ที่คราวนี้หยิบเหตุการณ์ “Blue Screen of Death” หรือจอฟ้าสุดคลาสสิกของ Windows มาล้อเลียน โดยอ้างอิงจากเหตุซอฟต์แวร์ CrowdStrike Falcon ล่มทั่วโลกเมื่อปี 2024 พร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคจำง่ายว่า “There’s no security like Mac security.”

ในโฆษณา เราจะได้เห็นทีม “The Underdogs” กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงานอีเวนต์ Container Con แต่จู่ ๆ เครื่อง Windows ที่ใช้งานอยู่กลับจอฟ้าพร้อมกันหมดทั้งแผง ทำให้งานเกิดความโกลาหลอย่างมาก ก่อนที่พนักงาน Apple จะเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ด้วยการนำ Mac mini ชิป M4 มาให้ใช้งานแทน และสามารถทำให้งานเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น จบลงด้วยประโยคปิดท้ายที่สะท้อนแนวคิดด้านความปลอดภัยของ Apple ว่า “ไม่มีระบบไหนปลอดภัยเท่า Mac”

โฆษณาชุดนี้ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2024 เมื่อซอฟต์แวร์ CrowdStrike ปล่อยอัปเดตของระบบรักษาความปลอดภัย Falcon ที่มีบั๊กในระดับ Kernel จนทำให้เครื่อง Windows ทั่วโลกกว่าราว 8.5 ล้านเครื่อง ขึ้นจอฟ้าและไม่สามารถกู้กลับมาได้ทันที เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ตั้งแต่สายการบิน โรงพยาบาล ไปจนถึงหน่วยงานรัฐในหลายประเทศ ส่วนฝั่ง Mac กลับไม่สะเทือนเลย เนื่องจากระบบ macOS ของ Apple ออกแบบให้ไม่เปิดสิทธิ์ให้ซอฟต์แวร์ภายนอกเข้าถึงในระดับลึกของระบบ

CrowdStrike ใช้เวลาประมาณ 78 นาที ในการออกแพตช์แก้ไขปัญหา แต่หลายองค์กรยังคงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะกู้ระบบกลับมาได้ตามปกติ เหตุการณ์นี้ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “วิกฤตด้านระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” และแน่นอนว่า Apple ไม่พลาดจะหยิบมาเล่าในมุมขำ ๆ ผ่านโฆษณาที่สื่อถึงความมั่นคงของระบบ macOS ได้อย่างแนบเนียน

ในตอนท้ายของวิดีโอ Apple ยังแนบลิงก์ไปยังหน้าข้อมูลด้านความปลอดภัยของ macOS ที่อธิบายว่า ระบบปฏิบัติการของบริษัทถูกออกแบบให้มี Kernel-level protection เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ลดโอกาสการเกิดช่องโหว่หรือเหตุขัดข้องแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นบน Windows อีกด้วย

นอกจากจะพูดถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว โฆษณายังถือเป็นการโปรโมต Mac mini รุ่นใหม่ชิป M4 ไปในตัว โดย Apple ชูภาพลักษณ์ของเครื่องนี้ว่า “เล็กแต่แรง ปลอดภัย และพร้อมใช้งานทันที” รุ่นเริ่มต้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20,900 บาท ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าที่สุดในตระกูล Mac ในตอนนี้

ฝั่ง Microsoft เอง แม้จะไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา CrowdStrike แต่ก็ได้รับผลกระทบด้านความเชื่อมั่นไปไม่น้อย เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้บริษัทพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อย่าง Quick Machine Recovery (QMR) ใน Windows 11 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถกู้ระบบกลับมาได้ด้วยตัวเองเมื่อเกิดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือจอฟ้า โดย QMR จะทำงานผ่าน Windows Recovery Environment (WinRE) เพื่อวิเคราะห์และแก้ไขไดรเวอร์หรืออัปเดตที่เป็นต้นเหตุของปัญหาโดยอัตโนมัติ

แม้จะดูเหมือนการหยอกคู่แข่ง แต่โฆษณาชุดนี้ของ Apple ก็สะท้อนแนวคิดด้าน “ความปลอดภัยที่มาพร้อมความเรียบง่าย” ได้อย่างชัดเจน และตอกย้ำจุดยืนของบริษัทที่ต้องการให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจว่าระบบของ Mac พร้อมใช้งานอยู่เสมอโดยไม่ต้องพึ่งซอฟต์แวร์เสริมจากภายนอก

ท้ายที่สุดแล้ว ทั้ง macOS และ Windows ต่างก็มีจุดแข็งในแบบของตัวเอง macOS โดดเด่นในด้านเสถียรภาพ ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับงานสายครีเอทีฟ ส่วน Windows ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับสายเกม นักพัฒนา และผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ สรุปได้ว่า “ต่างฝ่ายต่างมีจุดเด่น” และการแข่งขันระหว่างสองค่ายนี้ก็ยังคงเป็นสีสันที่ทำให้วงการเทคโนโลยีไม่น่าเบื่อเลยครับ

ที่มา : macrumors