ASUS เปิดตัว ROG Phone 9 Series อย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยในรุ่นนี้จะเปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่น คือ ROG Phone 9, ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition ซึ่งเป็นเกมมิ่งโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล ROG ที่มาพร้อมสเปคสำหรับเล่นเกมขั้นสุด มาพร้อมชิปเซตเรือธงรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Elite จาก Qualcomm รวมถึงจุดเด่นด้านการออกแบบที่ด้านหลัง ซึ่งมีไฟ RGB ที่สามารถ Custom เองได้ รวมถึงใช้เล่นเกมคลาสสิกมากมายได้จากบริเวณด้านหลังนี้ได้อย่างไม่มีใครเหมือน

เปิดตัว Asus ROG Phone 9 และ 9 Pro เกมมิ่งโฟนตัวท็อปพลัง SD 8 Elite จอ 185Hz แบตเยอะ ระบายอากาศดีขึ้น

ด้านการออกแบบ Phone 9 Series ในทั้งสามรุ่นจะมีจอ RGB ที่ด้านหลัง พร้อมซอฟท์แวร์ให้เลือกสวยๆ มากมาย แต่เฉพาะรุ่น Pro และ Pro Edition เท่านั้นที่จะสามารถ Custom ตกแต่งการแสดงผลด้านหลังได้เอง และตัวเครื่องจะกันน้ำกันฝุ่นที่ IP68

โดยหน้าจอด้านหลังของทั้ง 3 รุ่น จะรองรับ AniMe Vision ที่แสดงผลต่างๆ ได้ตามกิจกรรมที่ทำ โดยเฉพาะการเล่นเกมครับ ซึ่งจากการเปิดตัวจะเน้นไปที่เกมอย่าง Genshin Impact และ RoV ซึ่งไฟด้านหลังจะแสดงตามการเล่นเกม อย่างเช่นในเกม RoV เมื่อผู้ใช้ทำ Penta Kill ได้ ก็จะแสดงผลเพื่อฉลองความสำเร็จ เช่นเดียวกับบนหน้าจอก็จะมีกราฟฟิกพิเศษด้วยเช่นกัน เป็นต้น ซึ่งส่วนของหน้าจอนี้ สำหรับรุ่น Phone 9 จะมีไฟ LED 85 ดวง และรุ่น Phone 9 Pro จะมีเยอะถึง 648 ดวง และจะมี Easter Egg เมื่อนำเครื่องที่รองรับ คือ Phone 9, Phone 9 Pro และ Phone 8 Pro ไปแตะกัน จะแสดงแอนิเมชันพิเศษขึ้นมาอีกด้วย

ในส่วนของ AI Gaming จุดขายของ ROG Phone ก็จะเป็น ‘X Sense’ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้เล่นเกมได้ราบรื่นขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลด Latency และปรับประสิทธิภาพของระบบให้เล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาในส่วนของฮาร์ดแวร์ เช่น ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบใหม่ ช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดีขึ้น รวมถึงมี Vapor Chamber ที่ขนาดใหญ่ขึ้น 50% มาช่วยลดอุณหภูมิด้วย

ชิปประมวลผลของรุ่นนี้แน่นอนว่าจะเป็น Qualcomm Snapdragon 8 Elite ชิป 3nm ที่แรงที่สุดในตอนนี้ (กดคะแนน AnTuTu ไปที่ 3,384,874 คะแนน ขึ้นอันดับ 1 เนียนๆ) โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยความจำที่ในรุ่นพื้นฐานจะให้มาที่ 12/256GB และ 16/512GB ส่วนรุ่น Pro จะมี 2 แบบ คือ 16/512GB และรุ่นพิเศษ Pro Edition ที่จะได้ RAM 24GB และความจำ 1TB และในรุ่นพิเศษนี้จะได้ AeroActive Cooler X Pro อุปกรณ์เสริมสำหรับระบายความร้อน ซึ่งจะมีปุ่มกดพิเศษและเป็นลำโพงเพิ่มเสียงเบสให้จัดจ้านมากขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนของปุ่มกดด้านมุมบนเครื่อง หรือ ROG AirTrigger ก็จะเป็นแบบ touch sensor ระบบสัมผัส ซึ่งจะไม่ใช่แค่เป็นปุ่มกดสำหรับเล่นเกมเท่านั้นครับ แต่ในปีนี้ที่ปุ่มถ่ายภาพกำลังฮิตอีกครั้ง ทาง ASUS ก็จัดให้ ทำให้ปุ่มนี้ใช้สำหรับถ่ายภาพแบบเท่ ๆ ไปด้วยเลย

และเมื่อพูดถึงการถ่ายภาพ ทั้ง 3 รุ่น จะมาพร้อมกล้องหลักเซนเซอร์เดียวกันครับ คือ Sony Lytia 700 ความละเอียด 50MP 1/1.56″ รูรับแสง f/1.9 พร้อมกันสั่นแบบ 6-axis Gimbal OIS ทำงานร่วมกับกล้อง Ultrawide 13 MP มุมมองกว้าง 120 องศา และมีกล้องหน้า 32MP RGBW เหมือนกัน

ในส่วนที่จะต่างกันของกล้องหลังจะเป็นกล้องตัวที่ 3 ครับ ซึ่งในรุ่นพื้นฐานจะได้กล้อง Macro 5MP ในขณะที่กล้องรุ่น Pro, Pro Edition จะได้กล้อง Telephoto 32MP f/2.4 3X Zoom และมีกันสั่น OIS

ส่วนซอฟต์แวร์กล้องที่น่าสนใจจะเป็น AI Panning ที่ช่วยเพิ่มมิติในการถ่ายภาพเคลื่อนไหว โดยระบบจะตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวในภาพเพื่อให้คมชัดที่สุด และจะเบลอพื้นหลังอัตโนมัติด้วย AI หรือจะเป็นโหมดถ่ายภาพกลางคืน AI Night Vision ที่ช่วยลด Noise และปรับความคมชัดและเพิ่มสีสันการถ่ายภาพกลางคืนให้สวยยิ่งขึ้น

ทางด้านระบบเสียงก็น่าสนใจครับ โดยทั้งคู่จะมาพร้อมลำโพงคู่ที่เมื่อใส่เคสอย่างเป็นทางการของรุ่น เคสจะขับเสียงให้ออกมาด้านหน้า หรือที่เรียกว่า Audio Redirection รวมถึงมีช่องหูฟัง 3.5 มม. รองรับระบบเสียง DIRAC Virtuo, Hi-Res, aptX และ Lossless Sound

ส่วนสเปคอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ จะมีหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว FHD+ AMOLED LTPO 1-120Hz และสูงสุด 185Hz สำหรับเกมที่รองรับ ความสว่างสูงสุด 2,500 nits ใช้กระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2 มาพร้อมแบตเตอรี่ 5,800 mAh เยอะขึ้น 300 mAh จากปีที่แล้ว พร้อมการชาร์จเร็ว 65W และไร้สาย 15W ส่วนการอัปเดตซอฟท์แวร์ทาง Asus การันตีการอัปเดตให้ 2 เวอร์ชั่นใหญ่ครับ และจะให้ Security Update เป็นเวลา 4 ปี

สเปค ASUS ROG Phone 9 Pro

  • จอภาพ : 6.78 นิ้ว Samsung Flexible AMOLED
    • ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 2,500 นิต
    • อัตรารีเฟรช 1-120Hz และ 185Hz สำหรับเกมที่รองรับ
    • รองรับ Always-on Display, HDR10, 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16%, Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซต : Snapdragon 8 Elite (3nm)
    • GPU Adreno 830
  • RAM 16/24GB LPDDR5X
  • หน่วยความจำ 512GB / 1TB UFS4.0
    • RAM 24GB และหน่วยความจำ 1TB จะมีเฉพาะรุ่น Pro Edition เท่านั้น
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP Sony Lytia 700 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56″ f/1.9 Gimbal OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 13MP 120 องศา
    • กล้องเทเลโฟโต้ 32MP f/2.4 3X Optical Zoom, OIS
  • กล้องหน้า : 32MP RGBW
  • ระบบเสียง : Stereo
    • รองรับ Hi-Res Audio, Dirac Virtuo, Spatial Sound, Hi-Res Audio
  • แบตเตอรี่ : 5,800 mAh
    • รองรับชาร์จไว 65W
    • รองรับชาร์จไร้สาย 15W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 802.11 be/ax/ac/a/b/g/n
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C
    • หูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : สองซิม Dual-SIM Dual-Standby
  • เซนเซอร์ : สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Accelerometer, E-compass, Gyroscope, Proximity sensor, Ambient-light sensor, AirTrigger
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : ROG UI บนพื้นฐาน Android 15
  • ขนาด : 163.8 x 77 x 8.9 มม.
  • น้ำหนัก: 227 กรัม

สเปค Asus ROG Phone 9

  • จอภาพ : 6.78 นิ้ว Samsung Flexible AMOLED
    • ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล
    • สว่างสูงสุด 2,500 นิต
    • อัตรารีเฟรช 1-120Hz และ 185Hz สำหรับเกมที่รองรับ
    • รองรับ Always-on Display, HDR10, 107.37% DCI-P3, 145.65% sRGB, 103.16%, Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซต : Snapdragon 8 Elite (3nm)
    • GPU Adreno 830
  • RAM 12 / 16GB LPDDR5X
  • ROM 256 / 512GB UFS 4.0
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP Sony Lytia 700 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56″ f/1.9 Gimbal OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 13MP 120 องศา
    • กล้องมาโคร 5MP
  • กล้องหน้า : 32MP RGBW
  • ระบบเสียง : Stereo
    • รองรับ Hi-Res Audio, Dirac Virtuo, Spatial Sound, Hi-Res Audio
  • แบตเตอรี่ : 5,800 mAh
    • รองรับชาร์จไว 65W
    • รองรับชาร์จไร้สาย 15W
  • การเชื่อมต่อ
    • 5G
    • Wi-Fi 802.11 be/ax/ac/a/b/g/n
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
  • พอร์ต
    • USB-C
    • หูฟัง 3.5 มม.
    • ซิม : สองซิม Dual-SIM Dual-Standby
  • เซนเซอร์ : สแกนนิ้วบนหน้าจอ, Accelerometer, E-compass, Gyroscope, Proximity sensor, Ambient-light sensor, AirTrigger
  • ความทนทาน : IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : ROG UI บนพื้นฐาน Android 15
  • ขนาด : 163.8 x 77 x 8.9 มม.
  • น้ำหนัก: 227 กรัม

ราคาวางจำหน่าย

ASUS ROG Phone 9, Phone 9 Pro และ Phone 9 Pro Edition จะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และในไต้หวัน, ฮ่องกง และจีน จะเริ่มส่งมอบเครื่องได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ส่วนในยุโรปจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนธันวาคม ส่วนในสหรัฐฯ จะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคม 2025 และสำหรับแฟน ROG บ้านเราก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะทางเพจประเทศไทยก็มีแชร์งานเปิดตัวมาด้วย เป็นไปได้สูงครับว่าจะมีวางจำหน่ายในบ้านเราด้วย รอติดตามกันได้เลย ส่วนราคาที่เปิดตัวในระดับโลกจะมีดังนี้

ROG Phone 9

  • 12/256GB ราคา 1,100 ยูโร หรือประมาณ 40,200 บาท
  • 12/512GB ราคา 1,150 ยูโร หรือประมาณ 42,000 บาท

Asus ROG Phone 9 Pro

  • 16/512GB ราคา 1,300 ยูโร หรือประมาณ 47,500 บาท

Asus ROG Phone 9 Pro Edition

  • 24GB / 1TB ราคา 1,500 ยูโร หรือประมาณ 54,800 บาท

ที่มา rog.asus , 2