หลังจาก ASUS ได้เผยโฉม ZenBook Pro Duo และ ZenBook Duo โน้ตบุ๊คสุดว้าวในงาน Computex ที่ผ่านมา ทำเอาแฟนๆ หลายคนสนใจรอการมาของมันกันแบบสุดๆ ซึ่งวันนี้ ASUS ประเทศไทยได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สเปค ZenBook Pro Duo
- หน้าจอหลักแบบ OLED ความละเอียด 4K (3840 x 2160) ขนาด 15.6 นิ้ว
- หน้าจอ ScreenPad Plus ความละเอียด 4K ขนาด 14 นิ้ว
- CPU : Intel Core i9-9980HK / Core i7-9750H
- GPU : NVIDIA GeForce RTX 2060 6GB GDDR6
- RAM : DDR4 2666 MHz สูงสุด 32GB
- ความจุ : 1TB PCIe x4 SSD / 512GB / 256GB PCIe x2 SSD
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Gig+ (802.11ax), BT 5.0
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอปรับแต่งโดย Harman Kardon
- พอร์ต : Thunderbolt 3 USB-C 1 ช่อง, USB 3.1 Type A 2 ช่อง, HDMI 1 ช่อง, รูหูฟัง/ไมค์ 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 71Wh 4-cell
- ขนาด : น้ำหนัก : 359 x 246 x 24 มม. / 2.5 กก.
- ราคาเปิดตัว : Core i7 89,990 บาท / Core i9 109,990 บาท
ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมของฝั่งโน้ตบุ๊คกันเลยทีเดียวกับ ASUS ZenBook Pro Duo ที่มาพร้อมกับ 2 หน้าจอสัมสุดอลังความละเอียด 4K ที่ได้ทั้งค่า sRGB 133%, 100% DCI-P3 พร้อมกับ ได้ PANTONE Validated ที่สุดของหน้าจอของโน้ตบุ๊คในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ใครที่เป็นสายแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอต้องชอบแน่นอน หรือจะเอามาเล่นเกมหนักๆ ก็ทำได้สบายๆ
การออกแบบดีไซน์ถือว่าแปลกใหม่กว่าใครเพราะมีจอที่สองจะอยู่เหนือคีย์บอร์ด ซึ่งเป็นจอสัมผัสความละเอียด 4K เช่นเดียวกับหน้าจอหลัก วัสดุบอดี้ทั้งหมดเป็นโลหะ ความทนทานผ่าน US Military Grade พัดลมระบายความร้อนสองตัวเป่าออกด้านข้าง ส่วนทัชแพทอยู้ด้านขวาที่สามารถใช้งานเป็น numpad ได้
ลำโพงจะอยู่ด้านข้างซ้ายและขวา พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ โดยฝั่งซ้ายจะมีรูเสียบสายชาร์จ, HDMI และ USB 3.1 Type A ส่วนทางด้านขวาจะมี USB 3.1 Type A, Headset 3.5 mm และ Thunderbolt 3 ด้วย ถือว่าให้มาพอร์ตค่อนข้างครบแต่น่าเสียดายที่ไม่มีที่ใส่ SD Card มาให้
มาดูทางด้านอะแดปเตอร์กันบ้างสำหรับ ASUS ZenBook Pro Duo ให้มาขนาดค่อนข้างใหญ่และหนัก ซึ่งจ่ายไฟสูงสุดถึง 230W ด้วยกัน เวลาพกพาไปไหนมาไหนอาจจะลำบากสักหน่อย เพราะตัวเครื่องมันค่อนข้างแรงและกินไฟเยอะ
สำหรับใครที่คิดว่ารุ่น 15 นิ้วนั้นทั้งใหญ่หนักจนเทอะทะเกินไป ทาง ASUS ก็ยังมีรุ่น ZenBook Duo ที่หน้าจอ 14 นิ้ว มี ScreenPad Plus เหมือนกัน ลดสเปคการ์จอลงมาเป็น MX250 น้ำหนักลดลงเหลือเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมกับ ASUS เคลมไว้ว่าสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ถึง 22 ชม(เปิดจอเดียวนะ) เห็นแล้วอยากได้เลยไว้ทำงานสักเครื่องเลย
สเปค ZenBook Duo
- หน้าจอหลักความละเอียด FHD (1920 x 1080) ขนาด 14 นิ้ว
- หน้าจอ ScreenPad Plus ความละเอียด FHD ขนาด 12.6 นิ้ว
- CPU : Intel Core i7-10510U / i5-10210U (Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุด)
- GPU : NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5
- RAM : LPDDR3 2133MHz สูงสุด 16GB
- ความจุ : 1TB PCIe x4 SSD / 512GB
- การเชื่อมต่อ : สูงสุด Wi-Fi 6, Gig+ (802.11ax), BT 5.0
- ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอปรับแต่งโดย Harman Kardon
- พอร์ต : USB 3.1 Type-C 1 ช่อง, USB 3.1 Gen 2 Type A 1 ช่อง, USB 3.1 Gen 1 Type A 1 ช่อง, HDMI 1 ช่อง, รูหูฟัง/ไมค์ 3.5 มม., ช่องใส่ MicroSD Card
- แบตเตอรี่ : 70Wh 4-cell
- ขนาด : น้ำหนัก : 323 x 223 x 19 มม. / 1.5 กก.
- ราคาเปิดตัว : Core i5 3,4990 บาท / Core i7 39,990 บาท
สำหรับจุดเด่นของ ZenBook Duo ก็จะคล้ายๆ กับตัวรุ่นพี่ด้านบนที่มี 2 หน้าจอสัมผัส โดยสเปคจะเป็นรองกว่านิดหน่อย แต่ก็จะได้ในเรื่องของน้ำหนักที่เบากว่าและระยะใช้งานแบตเตอรี่ที่นานกว่าด้วย โดยเจ้าตัวนี้จะมาพร้อมกับซีพียู Intel Gen 10 รหัส U เป็นรุ่นแรกของค่ายอีกด้วย แต่แอบมีข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่ยังใช้ Ram เป็น LPDDR3 อยู่ (ในสติ๊กเกอร์เขียนผิดเป็น DDR4)
งานดีไซน์ ZenBook Duo จะเหมือนกับรุ่น Pro เป๊ะๆ อารมณ์เหมือนเอาไฟฉายโดเรม่อนมาย่อส่วน น้ำหนักลดเหลือแค่ 1.5 กิโล โดยจุดหลักๆ ที่แตกต่างกันคือหน้าจอลดความละเอียดเหลือ Full HD ทัชแพทด้านขวาจะมีปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวานูนแยกออกมาชัดเจน และไม่มีฟีเจอร์ใช้งาน numpad
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อด้านขวาจะมี USB 3.1 Type A, Headset 3.5 mm และ Micro SD Card ทางด้านซ้ายจะมีรูเสียบสายชาร์จ, HDMI, USB 3.1 Type A และ USB 3.1 Type C ส่วนอะแดปเตอร์ที่มากับเครื่องจะมีขนาดเล็กพกพาสะดวก แต่แอบน่าเสียดายตรงที่ ZenBook Duo โดนตัดพอร์ต Thunderbolt 3 ออกไป ดูรักพีเสียดายน้องจริงๆ
โดยทั้ง Zenbook Pro Duo และ Zenbook Duo จะมีปากกาสไตลัสแถมมาให้กับเครื่อง เพื่อใช้ขีดๆ เขียนๆ แทน Graphic Tablet หรือจดบันทึกข้อความก็ยังได้ ซึ่งทั้งสองรุ่นพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามตามร้าน IT ชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลยครับ
ราคานี้สำหรับ Rtx 2060 ถือว่าพระเจ้าจอร์จจะแพงไปไหน แต่ก็เข้าใจว่ามันตอบโจทย์กลุ่ม Professional designer ที่เป็น Pro gamer เวลาอยู่บ้านด้วย 555
TB3 นี่ use case นอกจากต่อการ์ดจอเเยกเเล้วมีอะไรมั่งหรอหาไม่เจอจริงๆ
TB3 นี่ use case นอกจากต่อการ์ดจอเเยกเเล้วมีอะไรมั่งหรอหาไม่เจอจริงๆ
สวยดีครับ 🙂 🙂
แรงจริงๆ