Galaxy S5 และ iPhone 5s น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนสองรุ่นที่หลายๆคนให้ความสนใจกันมากที่สุดและมักจะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องกล้องเปรียบเทียบระหว่างสองตัวนี้กันมาก ซึ่งมีการถกเถียงจากสาวกทั้งสองฝั่งว่าของที่ตนใช้มันดีอย่างไร จึงเป็นที่มาของการทำรีวิวเปรียบเทียบในครั้งนี้ พิสูจน์กันสักทีว่า Galaxy Ss หรือว่า iPhone 5s กล้องตัวไหน น่าใช้กว่ากัน

เนื่องจากภาพที่ถ่ายออกมาได้ มันไม่ใช่เป็นสิ่งเดียวที่ควรต้องเอามาวัดว่ากล้องของมือถือเครื่องไหนน่าใช้กว่ากัน จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของภาพที่ถ่ายได้ ความเร็วในการเปิดกล้อง ความเร็วในการโฟกัส ความเร็วในการบันทึกภาพ การปรับแต่งตัวเลือกต่างๆ ซึ่งหลังจากเล่นทั้งสองตัวมาก็ได้ข้อสรุปมาดังนี้

  1. ความเร็วโฟกัส Galaxy S5 ที่ว่า 0.3 วินาที ในการใช้จริงไม่ได้รู้สึกว่าเร็วกว่าของ iPhone 5s สักเท่าไหร่นัก
  2. iPhone 5s ยังเข้ากล้องได้เร็วกว่า S5 อยู่เกือบเท่าตัว เสียโอกาสจับภาพเด็ดได้น้อยกว่า
  3. iPhone 5s เข้า Gallery เพื่อดูภาพหลังถ่ายเสร็จได้เร็วกว่า Galaxy S5 จะดูว่าภาพดีภาพไม่ดีได้ทันใจ หรือจะอวดคนอื่นก็ส่งไปให้ดูได้เลย
  4. ระบบการวัดแสงของ iPhone 5s ทำมาได้เข้าใจง่ายกว่า Galaxy S5 แตะตรงไหนตรงนั้นสว่างเลย
  5. ระบบการวัดแสงของ Galaxy S5 ปรับแต่งได้ดังใจนึกมากกว่าด้วยระบบชดเชยแสง + –
  6. คุณภาพภาพในสภาพแสงทั่วไป iPhone 5s และ Galaxy S5 ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่…
  7. ภาพจาก Galaxy S5 มีการ process ดึง Sharpness, Contrast, Saturation มาแล้วเพียบ สวยทันทีพร้อมอวด หรือนำไปใช้งานได้ทันที แต่ไม่เหมาะนำไป process ต่อ
  8. ภาพจาก iPhone 5s ยังค่อนข้างใสๆ ไม่ผ่านการปรับแต่งอะไรมาก ทำให้หลายๆครั้งภาพดูไม่คม สีไม่สดเท่า แต่ว่าเอาไปแต่งในแอพอื่น ใส่ฟิลเตอร์แปะลง Instagram ได้ดีกว่า
  9. การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยเป็นข้อเสียหลักของ Galaxy S5 – ภาพค่อนข้างมืด และรายละเอียดหายไปหมด
  10. กล้องหน้าของ Galaxy S5 เข้าขั้นรับไม่ได้ – ภาพเบลอและมีการบิดเบี้ยวที่ขอบภาพมาก
  11. Galaxy S5 เป็นกล้องที่ W/B (สมดุลแสงขาว) เพี้ยนในระดับนึง ต้องทำการปรับ Manual แล้วจะได้ภาพที่สีสด และถูกต้องตามภาพจริง
  12. iPhone 5s ไม่มีให้ปรับค่า W/B แต่ปรับอัตโนมัติมาได้ค่อนข้างดี จะมีแค่บางสภาพแสงเท่านั้นที่สู้ Galaxy S5 ไม่ได้
  13. กล้องหลัง Galaxy S5 มีการปรับแต่งและลูกเล่นเยอะกว่า ทั้ง shot & more, dual camera, selective focus สร้างสรรค์ภาพสวยๆได้ทันทีโดยไม่ต้องโหลดแอพเพิ่ม
  14. Shot & More เป็นโหมดที่รวมเอาหลายๆฟังก์ชั่นก่อนหน้า (Panning shot, Eraser, Drama shot, Best face, Best photo) มารวมกัน ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ
  15. แต่น่าสังเกตว่าถึงเวลาใช้งานจริง กลับไม่ค่อยมีเวลามาเลือกโหมดและตั้งค่าอะไรบน Galaxy S5 สักเท่าไหร่ เพราะภาพดีๆหลายๆครั้งมันเกิดขึ้นแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ

 

คลิปทดสอบกล้อง Galaxy S5 เทียบกับ iPhone : เสียงง่วงสุดๆเพราะเพิ่งตื่นแล้วมาถ่ายเลย ขออภัย ^^”

Play video

กล้องหน้าขอบภาพบิดเบี้ยวของ Galaxy S5

Play video

หน้าจอการตั้งค่ากล้องของ Galaxy S5 – มีตัวเลือกมากมาย จนดูใช้ยากสำหรับบางคน

หน้าจอการตั้งค่ากล้องของ iPhone 5s – ไม่ค่อยมีอะไรให้ตั้งค่าเท่าไหร่ แต่ก็ใช้เรียบง่ายดีไปอีกแบบ

เปรียบเทียบภาพถ่ายแสง low light ที่เนื้อภาพของ Galaxy S5 นั้นรายละเอียดแทบไม่เหลือ เพราะภาพถูกเอาไป process ปรับแสงทุกอย่างมาให้เรียบร้อย

ดูเปรียบเทียบภาพถ่ายเพิ่มเติม และดาวน์โหลดไฟล์ภาพเต็มๆที่ เปรียบเทียบภาพถ่าย Galaxy S5 vs iPhone 5s

สิ่งนึงเวลาเห็นสาวๆหรือผู้ใหญ่บางคนบอกว่ากล้อง Samsung ชัดกว่ากล้อง iPhone แต่พอถามไปถามมาจริงๆ คำว่าชัดในที่นี้ไม่ใช่ภาพ แต่เป็นหน้าจอที่ใหญ่กว่า มองเห็นรายละเอียดเวลาถ่ายได้ง่ายขึ้น เลยทำให้ได้คำตอบแบบนั้นมา 

จากเหตุผลข้างต้นทั้งหมดผมขอสรุปเรื่องกล้องระหว่าง Galaxy S5 vs iPhone 5s ไว้ดังนี้แล้วกันครับ

  • ต้องการการปรับแต่งที่หลากหลายและฟีเจอร์พิเศษเจ๋งๆแล้วก็ไป Galaxy S5
  • แต่ถ้าเอาสะดวกสบายไม่คิดอะไรมาก iPhone 5s ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่านะ

ถ้าใครเห็นต่างยังไงมาออกความคิดเห็นกันได้เลยที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้นะครับ

 

blogs น่าอ่าน

ปรียบเทียบสุดยอด Smartphone ต้นปี 2014 Galaxy S5, Xperia Z2, One M8 และ Find 7a (ความเร็ว-หน้าจอ-ลำโพง-กล้อง)

 

 

 

 

 

 

[ภาคต่อ] เปรียบเทียบกล้องหน้า-แฟลช-วีดีโอ iPhone 5s, Galaxy S5, Find 7a, One M8, และ Xperia Z2