อย่าเผลอไปกดส่งไลท์มั่วซั่ว ระวังเป็นเรื่อง! หลังศาลแคนาดาตัดสินให้อิโมจิรูปยกนิ้วโป้ง👍 “กดไลก์” เป็นการแสดงถึงข้อตกลงทำสัญญาถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกษตรกรคนหนึ่งถึงกับเดือดร้อนเพราะเขาเผลอตอบกลับผู้ซื้อไปด้วยการกดไลก์ แต่ไม่ได้ทำตามข้อตกลงมิหนำซ้ำต้องจ่ายเงิน 62,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 2,167,237 บาทเลยทีเดียว
ใครจะไปคิดว่าอีโมจิยอดนิยมอย่างการกดไลท์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันจะทำให้เกิดเรื่องได้ ตามรายงานจาก New York Times ผู้พิพากษา TJ Keene กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวสะท้อนถึง “ความเป็นจริงใหม่ในสังคมแคนาดา” เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากใช้อีโมจิเพื่อแสดงตัวตนในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
ซึ่งคดีนี้พยายามที่จะตัดสินว่าเกษตรกรรายนี้ตกลงที่จะขายต้นแฟลกซ์จำนวนมากให้กับผู้ซื้อธัญพืชในปี 2021 หรือไม่ ตามรายงานโดยผู้ซื้อได้ส่งสัญญาการซื้อให้กับเกษตรกรและเขียนว่า “โปรดยืนยันสัญญาการขายต้นแฟลกซ์” ในขณะเดียวกันคริส อาคเทอร์ หรือเกษตรกรคนนี้ได้ตอบกลับผู้ซื้อด้วยอิโมจิยกนิ้วโป้งหรือรูป “กดไลก์” ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าคริสตกลงทำสัญญา แต่เมื่อถึงกำหนดส่งมอบต้นแฟล็กซ์เขากลับไม่ทำตาม คริสยังแย้งอีกว่าการส่งอิโมจิเป็นเพียงการยืนยันว่าเขาได้รับสัญญาแฟลกซ์แล้วเท่านั้นเอง
ผู้พิพากษจึงตั้งข้อสังเกตว่า เกษตรกรและผู้ซื้อมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ยาวนาน แถมเกษตรกรก็ได้ตอบข้อตกลงการขายก่อนหน้านี้ด้วยข้อความเช่น ดูดี, โอเค หรือ ใช่ ในการตัดสินใจ ทางผู้พิพากษาอ้างถึงคำจำกัดความของอิโมจิยกนิ้วบน dictionary.com ว่า “ใช้เพื่อแสดงความยินยอม อนุมัติ หรือให้กำลังใจในการสื่อสารแบบดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมตะวันตก”
แต่ทางฝั่งของ Eric Goldman ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแห่งคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยซานตาคลารา ได้บอกกับ New York Times เรื่องนี้ว่าถึงจะมีการติดสินใจแล้ว แต่ก็ต้องดูว่าเป็นคำถามปลายเปิด หรือขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี เพราะบางครั้งหนุ่มสาวมักใช้อีโมจิชูนิ้วโป้งในลักษณะประชดประชันหรือหลอกลวง บ้างก็ยืนยันว่าได้รับข้อความแล้วเท่านั้น ซึ่งท่าทางดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจในบางประเทศในตะวันออกกลางด้วย
นี่ก็เป็นเรื่องแปลก ๆ บนโลกโซเชียลออนไลน์ที่กำลังได้รับการพูดถึงอยู่ไม่น้อย เพราะมีคนบางกลุ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยที่ตัดสินให้อีโมจิยกนิ้วโป้งแสดงถึงการยอมรับ แล้วเพื่อน ๆ คิดเห็นกันอย่างไรบ้าง คิดว่าเกษตรกรผิดจริงหรือไม่ ?
ที่มา : cointelegraph
อิหยังเนี่ยย