แคนนอน (CANON) ประกาศเปิดตัวเลนส์ ถ่ายภาพยนตร์ซีรีส์ใหม่ “RF CINEMA LENS SERIES” ที่ใช้เมาท์เลนส์ RF รวม 7 รุ่นสำหรับกล้องในระบบ Cinema EOS โดยทุกรุ่นเป็นเลนส์ไพร์มที่มีความยาวโฟกัสคงที่ พร้อมรองรับการทำงานแบบแมนนวลเต็มรูปแบบ พร้อมวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป
RF CINEMA LENS SERIES เป็นเลนส์สำหรับถ่ายภาพยนตร์ที่มาพร้อมเมาท์ RF ที่รวมประสิทธิภาพระดับสูงสำหรับการถ่ายภาพระดับ 4K และ 8K รวมถึงงานโปรดักชั่นภาพยนตร์ และฟังก์ชันการส่งสัญญาณผ่านเมาต์ RF ซึ่งการเปิดตัวเลนส์ซีรี่ส์นี้ทำให้แคนนอนสามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์การถ่ายทำภาพยนตร์ที่ใช้กับเมาต์ RF เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการถ่ายงานวิดีโอระดับมืออาชีพทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ โทรทัศน์ และงานโฆษณาต่างๆ
เลนส์ CINEMA RF แบ่ง 7 รุ่น ตามระยะโฟกัส ดังนี้
- CN-R14mm T3.1 L F
- CN-R20mm T1.5 L F
- CN-R24mm T1.5 L F
- CN-R35mm T1.5 L F
- CN-R50mm T1.5 L F
- CN-R85mm T1.5 L F
- CN-R135mm T2.2 L F
เลนส์ CINEMA RF ทั้ง 7 รุ่น (ระยะโฟกัส 14/20/24/35/50/85/135mm ตามลำดับ) รองรับการใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายภาพยนตร์ ทั้งรุ่น EOS C70 (วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2563) และรุ่น EOS R5 C (วางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2565) รองรับการทำงานโปรโตคอลการส่งสัญญาณผ่านเมาต์ RF โดยสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนกับเลนส์ไพร์มซีรีส์ เมาท์ EF
ฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่
Chromatic aberration correction
ควบคุมทั้งฟังก์ชันการขยายภาพ การแก้ความคลาดเคลื่อนของสี
Peripheral light correction
การแก้ไขขอบภาพมืด
Dual Pixel Focus Guide
ช่วยให้การโฟกัสแบบแมนนวลสามารถทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ก็สามารถทำได้ผ่านตัวกล้องได้โดยตรง
Distortion aberration correction
การแก้ไขภาพบิดเบี้ยว ก็มีให้ในเลนส์ซีรีส์ใหม่นี้ เพื่อช่วยให้การโปรดักชั่นงานวิดีโอมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งไม่เพียงในขั้นตอนการถ่ายทำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงขั้นตอนการตัดต่ออีกด้วย
เลนส์ซีรี่ส์ใหม่นี้มีประสิทธิภาพด้านออปติกขั้นสูงจึงเหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับกล้องระดับ 4K และ 8K เนื่องจากมีการออกแบบให้มีการวางตำแหน่งชิ้นเลนส์แอสเฟอริคัลที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ร่วมกับชิ้นเลนส์ anomalous dispersion glass ซึ่งเป็นชิ้นเลนส์พิเศษ ให้ทำงานร่วมกันได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด จึงทำให้เลนส์ซีรีส์นี้รองรับการใช้งานร่วมกับกล้องที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ อย่างเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม นอกจากนี้ยังมีค่า T (T Values) ที่สว่าง และมีม่านรูรับแสงแบบ 11 กลีบ จึงช่วยให้วัตถุมีระยะชัดตื้น ให้ภาพฉากหลังเบลอเป็นวงกลมอย่างเป็นธรรมชาติ และให้ภาพที่สวยงามนุ่มนวล นอกจากนี้ เนื่องจากเลนส์ทุกรุ่นได้รับการปรับจูนสีให้เท่ากันทั้งซีรีส์ เพื่อให้การทำงานในขั้นตอนการปรับสีนั้นราบรื่น สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อต้องเปลี่ยนเลนส์ในขณะถ่ายทำฉากเดียวกัน
การออกแบบ
การออกแบบวงแหวนของเลนส์ซีรีส์ใหม่นี้ มีการออกแบบให้หมุนอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีความแม่นยำและราบรื่น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการถ่ายทำภาพยนตร์ นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบเลนส์ให้เหมือนกันทั้งซีรีส์ รวมถึงตำแหน่งเกียร์ของวงแหวนควบคุมการทำงาน เส้นผ่านศูนย์กลางของเลนส์ และมุมการหมุนของเลนส์ (มุมในการทำงาน) ทำให้ไม่จำเป็นต้องปรับตำแหน่งเมาท์ของแมตบ็อกซ์หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นที่ช่วยในการโฟกัส เมื่อต้องเปลี่ยนเลนส์ อีกทั้งลายของพื้นผิวใกล้กับเมาท์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ยังช่วยให้กระชับมือมากขึ้น จึงถือเลนส์ได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องจับวงแหวนควบคุมในระว่างการใส่และถอดเปลี่ยนเลนส์
การวางจำหน่าย
รุ่นสินค้า | วันวางจำหน่าย |
CN-R14mm T3.1 L F | ปลายกุมภาพันธ์ 2567 |
CN-R20mm T1.5 L F | ปลายมีนาคม 2567 |
CN-R24mm T1.5 L F | ปลายมกราคม 2567 |
CN-R35mm T1.5 L F | ปลายมกราคม 2567 |
CN-R50mm T1.5 L F | ปลายมกราคม 2567 |
CN-R85mm T1.5 L F | ปลายมกราคม 2567 |
CN-R135mm T2.2 L F | ปลายเมษายน 2567 |
"Voila Cinema" ใครบางคนที่นั่งเกรดสีฟุตเทจที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือได้กล่าวไว้