งาน Canva Create 2025 ซึ่งจัดขึ้นในธีม “Uncharted Keynote” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการประกาศอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดของ Canva ตั้งแต่มีการปล่อยอัปเดดครั้งไหนๆ โดยที่ไฮไลท์สำคัญของงานคือ Visual Suite 2.0 เครื่องมือการทำงานที่จะทำให้ผู้ใช้ สามารถสร้างพื้นที่การทำงานได้แบบไร้ขีดจำกัด จะมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง วันนี้พวกเรา DroidSans มาสรุปให้!
สำหรับการเปิดตัว Visual Suit 2.0 ทาง Canva ตั้งแนวคิดไว้สองอย่างคือ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และ ประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) จนได้ออกมาเป็นฟีเจอร์ที่พัฒนาจากเสียงตอบรับหรือ Feedback ของผู้ใช้งานมากกว่า 230 ล้านคน โดยจะเน้นไปที่ความสามารถในการปรับแต่งโปรเจกต์หรือไฟล์งานให้อิสระมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังหยิบเอาฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ใช้ประสิทธิภาพการทำงานของ AI เข้ามาเสริม โดยจะประกอบไปด้วยฟีเจอร์น่าสนใจ ดังนี้
Visual Suite in One Design: โปรเจกต์เดียวครอบจักรวาล
ฟีเจอร์หลักที่ทาง Canva ยกให้เป็น “ครั้งแรกของโลก” ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหา และตัวโปรเจกต์หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร (Docs), งานนำเสนอ (Presentations), เว็บไซต์ (Websites), วิดีโอ (Videos), หรือไวท์บอร์ด (Whiteboards) ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ภายใน ไฟล์ดีไซน์เดียว และจะอยู่ในรูปแบบ (Format) แบบเดียวกันทั้งหมด ไม่ต้องเสียเวลาสลับไปมาระหว่างโปรเจกต์แล้ว ช่วยประหยัดเวลาและสามารถนำไปใช้งานหรือส่งต่อไฟล์ได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

Canva Sheets: สเปรดชีตแบบใหม่หมด
Media Planner ต้องติดใจ เพราะเครื่องมือสเปรดชีตแบบใหม่ ได้รับการออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับข้อมูลอย่างตัวหนังสือ และรูปภาพได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ก็ได้รับการปลุกเสกพลังจาก Magic Studio เข้าไปอีก โดยมีฟีเจอร์ย่อยเพิ่มเติม ตามนี้
- Magic Insights : ช่วยสแกน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในตารางตามคำสั่งของผู้ใช้
- Magic Formulas : อยากคำนวณอะไร จำสูตรไม่ได้ แค่พิมพ์คำสั่งลงไป Canva ก็จะคำนวณพร้อมบอกสูตรที่ใช้คิดให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องนั่งจำสูตรด้วยตัวเองอีกแล้ว


- Magic Studio at Scale รวมพลังของ Canva Sheet และ Magic Studio เข้าไว้ด้วยกัน เปลี่ยนจากงานตารางที่ยุ่งยาก ให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยพลังของ Canva AI
- Magic Write : เติมข้อมูล คิดแคปชันใส่ใน Cells โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ในโปรเจกต์ และยังสามารถแปลภาษาที่ต้องการทั้ง Sheet ได้ในไม่กี่คลิก
- Bulk Create : ผลิตงานดีไซน์ตามคอนเทนต์ใน Cells ได้ง่ายๆ จะหลักสิบ หลักร้อย หรือหลักพันก็ทำได้ พร้อมแนบลิงก์ไปยังไฟล์โปรเจกต์ของงานแต่ละชิ้นให้อัตโนมัติ
- Magic Resize : ช่วยปรับขนาดของงานดีไซน์ที่เราแปะไว้ใน Cells ให้เหมาะสมกับการลงบนโซเชียลมีเดียแต่ละ Platform แบบอัตโนมัติในคลิกเดียว หรือจะลบพื้นหลังรูปภาพพร้อมกันหลายๆ รูปก็ยังได้


- Data Connectors : ผู้ใช้สามารถนำเข้าข้อมูลจากแพลตฟอร์มภายนอกมาทำต่อใน Canva Sheet ได้แล้ว เช่น Google Analytics, HubSpot, Statistica และ Snowflake
Magic Charts: เสกข้อมูลที่น่าเบื่อ ให้เป็นกราฟที่น่าดู
ผู้ใช้งานสามารถเสก Data Visualization ด้วยเครื่องมือ AI ที่จะทำให้ข้อมูลดิบหรือตารางที่ซับซ้อน กลายเป็นงานดีไซน์น่าดู และเข้าใจง่าย เพิ่มประสิทธิภาพของงานนำเสนอไปอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็น
- เพิ่มความสามารถในการโต้ตอบ (Interact) กับกราฟแสดงข้อมูล พร้อมกับการนำไปใช้งานบน Scrollable reports ช่วยให้การนำเสนอข้อมูลมีลูกเล่นเพิ่มเติมมากขึ้น
- อินโฟกราฟิกแบบใหม่ที่มีให้เลือกมากกว่า 25 แบบ พร้อมอัลกอริธึมช่วยแนะนำกราฟแสดงข้อมูลที่เหมาะสมกับโปรเจกต์ได้ และยังคงสามารถซิงก์ข้อมูลที่นำมาใช้ทำเป็นกราฟได้แบบเรียลไทม์เหมือนเดิมเพียงแค่กดรีเฟรช กราฟก็จะอัปเดตใหม่ตามข้อมูลที่แก้ไขภายในเสี้ยววิ

Canva AI: ผู้ช่วยออกแบบคู่ใจเพียงปลายนิ้ว
Canva AI จะสามารถใช้งานและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นตั้งแต่หน้า Homepage รองรับการป้อนคำสั่งในหลายรูปแบบ ทั้งการสั่งงานด้วยเสียงหรือข้อความ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างรูปภาพ, แนะนำไอเดียการออกแบบ, สร้างเอกสาร/สไลด์/โปรเจกต์ทุกรูปแบบ, แก้ไขรูปภาพ และปรับขนาดดีไซน์ ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทำได้ด้วยการพิมพ์คำสั่ง (Prompt) หรือการพูด


Canva Code: สร้างสรรค์งานโค้ด แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
เครื่องมือ Canva Code จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชัน วิดเจ็ต หรืองานออกแบบ ได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านการพิมพ์คำสั่งหรือสิ่งที่ต้องการลงไป (Prompt) Canva Code ก็จะทำการสร้างโค้ดและสร้างสรรค์สิ่งที่เราต้องการออกมาให้ นำไปใส่ในงานดีไซน์หรือเผยแพร่เป็นเว็บไซต์ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดมาก่อนก็สามารถใช้งานผ่านคำสั่ง “Code for me” ได้เลย

ซึ่งภายในงานก็ได้ยกตัวอย่างการสร้างโค้ดออกมาเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เว็บชานมไข่มุก สื่อการเรียนการสอน เกมคูณเลข ไปจนถึงเกมสยองขวัญ
Upgraded Photo Editor: เครื่องมือแก้ไขรูปภาพที่เก่งกว่าเดิม
Canva ทำการตีบวกความสามารถ ‘เครื่องมือแก้ไขรูปภาพ’ ให้เก่งขึ้นและใช้งานง่ายมากกว่าเดิม โดยจะประกอบไปด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ ดังนี้
- การแก้ไขแบบ Point-and-Click : เลือกแก้ไขเฉพาะจุดได้ด้วยการชี้ไปยัง Object ที่ต้องการและคลิก ทำได้ตั้งแต่เปลี่ยนขนาด ลบ แทนที่ ย้ายตำแหน่ง หรือเปลี่ยนสี
- สร้างพื้นหลังด้วย AI (AI Background Generation) : สร้างพื้นหลังใหม่ให้กับรูปภาพที่ไม่มีพื้นหลัง พร้อมตัวช่วยปรับแก้เรื่องแสงและเงา ให้ตัววัตถุกลมกลืนไปกับฉากหลังที่สร้างขึ้นมาดูเนียนตามากยิ่งขึ้น

สำหรับการอัปเดต Visual Suite 2.0 ครั้งนี้ บนเว็บไซต์ทาง Canva ยังระบุสถานะ ‘Coming Soon’ อยู่ในทุกๆ ฟีเจอร์ โดยอาจจะมีการปล่อยอัปเดตฟีเจอร์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และผู้ใช้งาน Canva Premium เร็วๆ นี้

ที่มา : Canva
Comment