Cherry แบรนด์สวิตช์ Mechanical Keyboard จากเยอรมนีที่หลายคนคุ้นเคย กำลังเผชิญวิกฤตหนักที่สุดในประวัติบริษัท หลังสิทธิบัตร Cherry MX หมดอายุในปี 2014 เปิดทางให้ผู้ผลิตจากจีนเข้ามาตีตลาดแบบไม่ยั้ง ทั้งราคาถูกกว่า ฟีเจอร์มากกว่า และพัฒนารวดเร็วกว่าเดิมมาก ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Cherry ลดลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปัญหาสะสมยาวนานหลายปี

รายงานล่าสุดระบุว่าเฉพาะช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายนปี 2025 บริษัทขาดทุนกว่า 20.4 ล้านยูโร จนต้องประกาศปิดสายการผลิตทั้งหมดในเยอรมนี แล้วย้ายการผลิตสวิตช์ MX ไปจีนเพื่อประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ยังเตรียมขายธุรกิจบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ลูกอย่าง Xtrfy แผนกคีย์บอร์ด เมาส์สำนักงาน เกมมิ่ง และหน่วยงานด้าน Digital Health เพื่อรักษา “ธุรกิจแกนกลาง” อย่างการพัฒนาสวิตช์เชิงกลซึ่งเป็นจุดแข็งสุดท้ายของบริษัท

สถานการณ์ด้านการเงินก็ย่ำแย่อย่างน่าเป็นห่วง ราคาหุ้นจากที่เคยสูงถึงราว 38 ยูโร ปัจจุบันลดลงเหลือไม่ถึง 1 ยูโร หายไปกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มูลค่าบริษัทเหลือเพียงประมาณ 14 ล้านยูโรเท่านั้น ถือเป็นการร่วงลงของแบรนด์ระดับตำนานที่เคยเป็นมาตรฐาน Mechanical Keyboard มานานกว่า 40 ปี

ด้านตลาดเอง Cherry ก็กำลังตามหลังคู่แข่งอย่างชัดเจน ผู้ผลิตสวิตช์จากจีนต่างเปิดตัวรุ่นใหม่ที่หล่อลื่นจากโรงงาน ความลื่นสูง เสียงนุ่ม หรือใช้เทคโนโลยี Hall-effect ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในคีย์บอร์ดเกมมิ่งยุคใหม่ แม้ MX Red, Blue และ Brown จะยังเป็นชื่อที่คนรู้จักมากที่สุด แต่ผู้ใช้รุ่นใหม่จำนวนมากก็หันไปเลือกสวิตช์ที่ให้ฟีลลิ่งลื่นกว่า เงียบกว่า หรือปรับแต่งได้หลากหลายมากกว่า

แม้สถานการณ์โดยรวมจะไม่สู้ดี แต่ธุรกิจสวิตช์ MX ยังอยู่กับ Cherry ไม่ได้ถูกขายออกไป ทว่าคำถามสำคัญคือบริษัทจะรักษาตำแหน่งในตลาดได้อีกนานแค่ไหน เมื่อผู้ผลิตคีย์บอร์ดรายใหญ่จำนวนมากเริ่มเปลี่ยนไปใช้สวิตช์จากจีนหรือสวิตช์แบบ Hall-effect ที่กำลังมาแรงแทน

อนาคตของ Cherry จึงยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้ชื่อเสียงและฐานแฟนที่สะสมมายาวนานอาจช่วยให้บริษัทกลับมาได้ หากสามารถเปิดตัวสวิตช์เจเนอเรชันใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุค 2025+ แต่สำหรับตอนนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ Cherry กำลังอยู่ในขั้นดิ้นรนเอาตัวรอด เพื่อรักษามรดกของตนเองให้คงอยู่ในวงการ Mechanical Keyboard ให้ได้นานที่สุด

ที่มา : techspot