หากตอนนี้จะเคลมว่าจีนเป็นผู้นำในด้านรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เพราะในปี 2022 จีนได้ครองสถิติผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ NEV ทั้งรถไฟฟ้า EV, ไฮบริท รวมถึงรถที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน เป็นจำนวนกว่า 64% ของโลก อีกทั้งในจำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั่วโลกทั้งหมด 7.65 ล้าน มียอด 5 ล้านคันในนั้นเป็นยอดที่มาจากจีนล้วน ๆ วันนี้เราจึงนำ 15 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในจีน ปี 2022 – ไตรมาส 1 ปี 2023 มาฝากกัน จะได้รู้กันว่ามีแบรนด์ไหนพอจะน่าจับตามองบ้าง

15 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในจีน ปี 2022 – Q1 2023

ข้อมูลสถิติทั้งหมดอ้างอิงมาจากสมาคมรถยนต์โดยสารจีนที่ได้เก็บตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV จีนตั้งแต่ปี 2022 – ไตรมาส 1 ปี 2023 ซึ่งใน 15 อันดับแรกนั้น มีแบรนด์รถยนต์ต่างชาติเข้ามาร่วมแจมเพียงแบรนด์เดียวนั่นก็คือ Tesla ในอันดับที่ 3 ส่วนอีก 14 แบรนด์ล้วนเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งในประเทศ ร่วมถึงเป็นแบรนด์มีการร่วมทุนระหว่างจีน กับแบรนด์ต่างชาติล้วน ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของรถยนต์สัญชาติจีนได้เป็นอย่างดี

และแน่นอนว่าในมื่อจีนเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้ง 14 แบรนด์สัญชาติจีนก็ได้ขึ้นไปอยู่ใน 25 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในโลกปี 2022 ด้วยเช่นกัน โดยมี BYD นำโด่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน กวาดยอดขายทั่วโลกไปกว่า 1.8 ล้านคัน เติบโตสูงขึ้นถึง 211% เมื่อเทียบกับปี 2021 ทิ้งห่าง Telsa ที่ทำยอดขายได้ที่ 1.31 ล้านคัน

โดย 15 อันดับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ขายดีที่สุดในจีน ปี 2022 – ไตรมาส 1 ปี 2023 มีดังนี้

  1. BYD
  2. SAIC-GM-Wuling
  3. Tesla
  4. Geely
  5. GAC Aion
  6. Chery
  7. Changan
  8. Hozon Auto (Neta)
  9. Li Auto
  10. Great Wall Motors
  11. NIO
  12. XPeng
  13. Leapmotor
  14. FAW VW
  15. SAIC VW

อันดับ 1 – BYD

BYD ถือเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า EV ในบ้านเกิดตัวเอง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดอยู่ที่ 30% และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น BYD ได้กวาดยอดขายทั่วโลกไปกว่า 1.8 ล้านคันในปี 2022 ส่วนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 สามารถเก็บไปได้ที่ราว ๆ 500,000 คัน มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 708.38 พันล้านหยวน (อิงจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2023) โดยรถรุ่นที่ขายดีที่สุดในจีนปี 2022 คือ BYD Song Plus รถประเภท SUV ที่ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 458,047 คัน

อันดับ 2 – SAIC-GM-Wuling

SAIC-GM-Wuling หรือที่รู้จักกันในบ้านเราสั้น ๆ ว่า Wuling เป็นแบรนด์ที่ร่วมทุนกันระหว่าง 3 บริษัทได้แก่ Wuling Motors, SAIC Motor 1 ในแบรนด์รถยนต์จีนระดับ Big 4 และ General Motors และบริษัทรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ โดยในปี 2022 สามารถทำยอดขายในจีนได้สูงกว่า 400,000 คัน

โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดในจีนปี 2022 คือรุ่น Hongguang ที่ขายไปได้ที่ 404,823 คัน และที่ขายดีสุด ๆ เป็นเพราะว่า Hongguang เป็นรถที่มาในประเภท Mini EV ขับง่าย จอดง่ายแถมราคายังถูกสุด ๆ แต่อย่างไรก็ภายในปีหน้าก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะขายได้น้อยลงกว่าเดิม เพราะเทรนด์รถ EV ไซส์เล็กในจีนเริ่มซาลงเพราะรถขนาดปกติมีราคาที่ถูกลงมาพอ ๆ กันแล้ว

ทำให้ยอดขาย Hongguang ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2023 ตกลงกว่า 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน (จาก 105,227 ร่วงเหลือ 77,701 คัน) ซึ่งทาง SAIC-GM-Wuling ก็ได้เริ่มหาทิศทางใหม่ เน้นการส่งออกมากขึ้นเพราะในตลาดยุโรป เอเชีย และประเทศกำลังพัฒนานั้นยังมีความต้องการรถในรูปแบบ Mini EV อยู่ และในไทยก็เพิ่งนำ Wuling Air EV เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้นี่เอง

อันดับ 3 – Tesla

Tesla แบรนด์ต่างชาติแบรนด์เดียวที่ทะลุเข้ามาติด Top 15 ของยอดขายรถยนต์ EV ในประเทศจีน โดยในปี 2022 ได้ทำยอดขายเฉพาะในจีนรวมทั้งหมด 439,770 คัน ส่วนรถที่ขายดีที่สุดในปี 2022 คือ Tesla Model Y 315,607 คัน และในไตรมาส 1 ปีนี้ยังมีแนวโน้มสูงกว่าเดิมถึง 26.9% เมื่อเทียบกับ Q1 2022 ด้วย

อันดับ 4 – Geely

Geely เป็น 1 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของจีน ที่ตอนนี้มีดังในอ้อมอกอย่าง Volvo ซึ่งก็ได้ร่วมทำรถไฟฟ้าด้วยกันภายใต้ชื่อแบรนด์ Polestar และยังมีแบรนด์ที่ในเครืออีกมากมาย โดยในปี 2022 Geely รวมถึงแบรนด์ลูกต่าง ๆ สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ในจีนไปได้มากกว่า 300,000 คัน และรถที่ขายดีที่สุดในปีเดียวกันคือ Geometry A รถเก๋งซีดาน โดยทำยอดขายได้ที่ 53,361 คัน

อันดับ 5 – GAC Aion

GAC Aion แบรนด์รถยนต์ EV ภายใต้บริษัท Guangzhou Automobile ที่ดูแลโดยหน่วยงานรัฐของเมืองกวางโจว โดยถือเป็นแบรนด์ดาวรุ่งพุ่งแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 2023 สามารถทำยอดขายรวมในจีนได้เกือบ 300,000 คัน และในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ก็สามารถทำยอดขายไปได้สูงกว่า 80,000 คันตามหลัง BYD และ Tesla มาแบบติด ๆ ส่วนรถที่ขายดีที่สุดในจีนปี 2022 คือ GAC Aion Model Y โดยทำยอดขายได้ที่ 119,687 คัน

อันดับ 6 – Chery

Chery แบรนด์สัญชาติจีนแท้ ๆ ที่ไม่เคยร่วมทุนกับบริษัทฝั่งตะวันตกเลย และในปี 2022 ทาง Chery ได้ขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนได้ที่ราว ๆ 221,157 คัน โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ QQ Ice Cream รถยนต์ Mini EV ที่สามารถทำยอดขาดไปได้ที่ 96,539 คัน

อันดับ 7 – Changan

Changan ถือเป็น 1 ในแบรนด์ระดับ Big 4 ของประเทศจีน ที่เพิ่งเริ่มประสบความสำเร็จกับรถยนต์ไฟฟ้า EV ในปี 2022 โดยสามารถทำยอดขายรวมในจีนปี 2022 ได้สูงกว่า 2 แสนคัน และรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Lumin Corn รถยนต์ไซส์ Mini EV ทำยอดขายได้ที่ราว ๆ 70,267 คัน

อันดับ 8 – Hozon Auto (Neta)

Hozon Auto แบรนด์แม่ของรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่าง Neta และถึงแม้ว่าจะติดอันดับใน Top 10 แต่ถือว่าค่อนข้างขาดทุนหนักถึง 2.90 พันล้านหยวนในปี 2021 ส่วนด้านยอดขายนั้นในปี 2022 สามารถทำยอดขายได้สูงกว่า 100,000 คัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีกลุ่มลูกค้าเป็นหน่วยงานรัฐ ธุรกิจเช่ารถ และแอปเรียกรถเท่านั้น โดยรถที่ขายดีที่สุดในปี 2022 คือ Neta V ขายได้ที่ 98,847 คัน

อันดับ 9 – Li Auto

Li Auto เป็นแบรนด์รถยนต์ EV Start-up ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแบรนด์หนึ่งรองลงมาจาก BYD และถึงแม้ว่าจะครองกระดานอันดับที่ 9 ด้วยยอดขายในจีนปี 2022 ที่ 100,000 คันต้น ๆ แต่ก็ยังขาดทุนกว่า  2.03 พันล้านหยวนในปีเดียวกัน เพราะมีประเด็นหั่นราคารถยนต์ Li One แบบฟ้าผ่าก่อนเปิดตัวรถรุ่นใหม่จนทำให้ผู้ใช้งานไม่พอใจ ซึ่งรถรุ่นที่ขายดีที่สุดในปีนั้นคือ Li One โดยทำยอดขายไปได้ที่ 78,791 คัน

อันดับ 10 – Great Wall Motors

GWM น่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจะคุ้นหูคนไทยมากที่สุด แต่ในจีนนั้นรู้จักกันในฐานะแบรนด์ที่ดังเรื่องรถยนต์ SUV มากที่สุดในจีน และมีรถยนต์ในแบรนด์ที่เป็นรถไฟฟ้า EV เพียงรุ่นเดียวคือ Ora Good Cat ส่วนที่เหลือยังคงเป็นรถยนต์แบบ Hybrid อยู่ โดยในปี 2022 GWM สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนไปได้ประมาณ 100,000 คันต้นๆ และรุ่นที่ขายดีที่สุดก็หนีไม่พ้น Ora Good Cat ที่ขายได้ราว ๆ 68,285 คัน

อันดับ 11 – NIO

เช่นเดียวกับ Li Auto NIO ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า EV Start Up ที่คนรู้จีนรู้จักมากที่สุดเป็นอันดับ 2 นอกเหนือจาก BYD โดยรถยนต์ของ NIO นั้นมีจุดเด่นที่แบตเตอรี่ของตัวรถยนต์ที่สามารถเปลี่ยน Swap Charge ตามสถานีที่ตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของเมืองได้ แต่เนื่องด้วยต้นทุนการบริการในลักษณะนี้ยังค่อนข้างสูง แถมยังลงทุนไปเยอะมาก ๆ ในตลาดยุโรป ทำให้บริษัทยังขาดทุนอยู่ 2.09 พันล้านหยวน

โดย NIO สามารถขายรถยนต์ในตลาดจีนในปี 2022 ได้ที่ราว ๆ 100,000 คันต้น ๆ โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดในจีนคือ NIO E26 SUV ที่ขายได้ประมาณ 42,012 คัน

อันดับ 12 – XPeng

XPeng เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์รถยนต์ EV Start Up ที่ดีไซน์รถยนต์ออกมาได้ดูโฉบเฉี่ยวในสไตล์แบบรถยนต์คูเป้ โดยมีรถตัวดังขายดีที่สุดของแบรนด์อย่าง XPeng P7 ที่สามารถทำยอดขายในจีนไปได้กว่า 59,066 คันในปี 2022 ส่วนยอดขายรวมอยู่ที่ราว ๆ  100,000 คันต้น แต่ทั้งนี้ตัวแบรนด์ก็ยังอยู่ในภาวะขาดทุนอยู่ ซึ่งในปี 2018 – 2022 มียอดขายทุนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ราว ๆ 4.36 พันล้านหยวน

อันดับ 13 – Leapmotor

Leapmotor ถือเป็นแบรนด์ที่ยังหาจุดยืนการ EV ที่ยังไม่ชัดเจน ทั้งการตั้ง Position รถของตัวเองแบบงง ๆ ไม่เด่นชัดว่าจะจับตลาดไหน แถมยังขาดทุนสะสมนับตั้งแต่ปี 2019 – ปี 2022 ที่ทำตัวเลขขาดทุนสูงถึง 5 พันหยวน แถมรถรุ่นล่าสุดของตัวเองอย่าง C01 ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จึงเกือบรั้งท้ายมาที่อันดับ 13 โดยขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในจีนปี 2022 ไปได้ที่หลักแสนต้น ๆ โดยมีรุ่นที่ขายดีที่สุดคือ T03 Hatchback ขายไปได้ทั้งหมด 61,919 คัน

อันดับ 14 และ 15 – FAW VW, SAIC VW

FAW VW และ SAIC VW เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ Volkswagen เข้ามาร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์ระดับ Big 4 ของจีน แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นการร่วมทุนของแบรนด์รถระดับบิ๊ก แต่ด้วยความที่ Volkswagen ตัดสินใจตบเท้าเข้าร่วมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนช้าเกินทำให้เจอคู่แข่งมากหน้าหลายตาในตลาด

นอกจากนี้รถยนต์ EV ของ Volkswagen ประสบปัญหาด้าน Software รถยนต์ที่ทำออกมาได้ไม่น่าประทับใจ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟในตลาดจีนหล่นลงมาอยู่ท้ายตาราง ยอดขายเมื่อช่วงต้นปียังตกลงถึง 25.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2022 ส่วนรถที่ขายดีที่สุดในจีนปี 2022 ของ FAW VW คือรุ่น ID.4 Crozz ขายได้ 48,748 คัน ส่วนฝั่งของ SAIC VW คือรุ่น ID.4 X ขายได้เพียง 36,637 คันเท่านั้น

มีอีกแบรนด์ที่ล้มหายไปจากตลาดจีน

ในช่วงปี 2022 – 2023 ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่สู้ศึกรถยนต์ไฟฟ้า EV ที่ทนแรงกดดันจากการแข่งขันอย่างดุเดือดไม่ไหว พากันล้มหายตายจากกันไป โดยมีทั้ง Enovate, Byton, WM Motor รวมถึง Evergrande New Energy Auto ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2019 แต่ก็โดนบริษัทแม่อย่าง China Evergrande Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ขายทิ้งไปในราคา 360 ล้านหยวนเพราะประสบปัญหาล้มละลาย

เชื่อว่าในอนาคตอาจมีหลายแบรนด์ที่หายไปจากตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จะมีบริษัทใหม่ ๆ ที่น่าจับตามองเข้ามาลงเล่นในสนามด้วยเช่นกัน อย่าง Xiaomi เองก็ได้เตรียมนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของตัวเองมาเปิดตลาดในเร็ว ๆ นี้แล้ว ส่วนจะทำได้น่าประทับใจแค่ไหนต้องมารอดูกันอีกที

 

ที่มา: The China Project