Xiaomi และ Asus สองแบรนด์ดังที่มีสาวกในเมืองไทยอยู่มากมายไม่แพ้กัน และวันนี้หลังจาก Xiaomi มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยจะนำเอารุ่น Mi 4 เข้ามาขายก่อนในราคา 10,900 บาท ทำให้หลายๆคนเกิดความสงสัยขึ้นมาในทันทีว่า Zenfone 2 ตัวท็อปที่ราคา 11,900 บาท และ Xiaomi Mi4 อันไหนจะน่าซื้อกว่ากัน วันนี้ผมที่ได้จับทั้งสองรุ่นนี้มาแล้ว และใช้งานอยู่หลายอาทิตย์ จึงถือโอกาสที่จะนำเอาทั้งสองรุ่นนี้มาเปรียบเทียบ และรีวิวเบาๆให้ได้ทราบกันครับ

*อัพเดท* Xiaomi Mi4 รุ่นที่ขายในไทย ไม่รองรับ 4G นะครับ

ก่อนอื่นขอนำตารางเปรียบเทียบสเปคและราคาของ Xiaomi Mi4 และ Asus Zenfone 2 มาให้ได้ดูกันก่อน

 Asus Zenfone 2Xiaomi Mi 4
ราคา11,900 บาท10,900 บาท
OSAndroid 5.0 (Lollipop) with Zen UIAndroid 4.4.3 (MIUI)
CPUIntel Atom Z3580
Quad Core 2.3GHz 64-bit
MSM8974AC Snapdragon 801 Quad-core 2.5GHz
GPUPowerVR Rogue G6430Adreno 330
หน่วยความจำLPDDR3 4GB RAM + ROM 64 GB (microSD)RAM 3GB + ROM 16GB (เติมเมมไม่ได้)
หน้าจอIPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว Full HD (1080×1920) (~403ppi)IPS LCD ขนาด 5.0 นิ้ว Full HD (1080×1920) (~441ppi)
SIM2 SIM (1x2G + 1x2G/3G/4G)micro SIM
เครือข่ายที่รองรับรองรับ 2G/3G/4G ทุกเครือข่ายรองรับ 2G/3G/4G ทุกเครือข่าย รุ่นขายในไทยไม่รองรับ 4G LTE
WiFi802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, Wi-Fi Hotspot
การเชื่อมต่อBluetooth 4.0, NFC, USB 2.0, USB OTGBluetooth v4.0 (A2DP) // microUSB v2.0 (OTG)
กล้องหลัง13 ล้านพิกเซล + f/2.0 + autofocus + dual truetone flash13 ล้านพิกเซล + f/1.8 + autofocus + LED flash
 บันทึกวิดีโอ 1080p@30fpsบันทึกวิดีโอ UHD
กล้องหน้า5MP8MP
เสียงลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม., ฟังวิทยุได้
SensorsAccelerometer, Gyro, Proximity, Compass, LightAccelerometer, gyro, proximity, compass, barometer, light
GPSA-GPS + GLONASSA-GPS + GLONASS + Beidou
แบตเตอรีLi-Po 3000 mAh + Fast Charge (60% ใน 39 นาที) เปลี่ยนแบตไม่ได้Li-Ion 3080 mAh เปลี่ยนแบตไม่ได้ + Quick Charge 2.0
ขนาดและน้ำหนัก152.5 x 77.2 x 10.9, 170 กรัม139.2 x 68.5 x 8.9 มม., 149 กรัม

 

ถ้าดูตามสเปค ก็จะเห็นได้ว่าสเปคของ Zenfone 2 จะขี่ทาง Xiaomi Mi 4 อยู่ โดยหลักๆคือจะได้แรมและหน่วยความจำที่มากกว่า เติมเมม microSD เข้าไปอีกก็ยังได้ จะยิ่งชัดเจนถ้าเอารุ่นแรม 4GB เมม 32GB ที่ 9900 บาทมาเทียบ แต่ทาง Xiaomi Mi 4 จะเด่นกว่าเรื่องกล้อง มีเซนเซอร์ Barometer และสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ UHD ได้ (ได้ใช้มั้ยก็อีกเรื่องนะ)

จากที่ได้ลองจับมาทั้งสองเครื่อง Xiaomi Mi4 ได้ลองตั้งแต่เมื่อตุลาคม 2014 ส่วน Zenfone 2 จนถึงปัจจุบันก็ยังถืออยู่ จึงจะขอนำเอาประสบการณ์ที่ได้รับมาจากทั้งคู่ มารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน แต่ออกตัวไว้ก่อนว่า Xiaomi Mi 4 ไม่ได้จับมานานแล้ว เหลือแต่เพียงที่จดบันทึกเอาไว้ หากมีความคลาดเคลื่อนหรือมีการอัพเดทจนมันดีขึ้นแล้ว ฝากเพื่อนๆมาเขียนแนะนำเพิ่มเติมได้นะครับ

และเพื่อเป็นการไม่ให้กระทู้นี้ยาวจนเกินไป จะขอสรุปข้อดีข้อเสียของ Xiaomi Mi4 และ Asus Zenfone 2 แบบคร่าวๆมาให้ได้อ่านกันก่อน ส่วนรีวิวละเอียดไว้เดี๋ยวเขียนแยกให้อีกทีนะครับ

 Asus Zenfone 2Xiaomi Mi 4
ประสิทธิภาพเร็วแรงดี แรมเยอะ สลับเปลี่ยนแอพได้แบบไม่ต้องโหลดใหม่ได้หลายแอพ แต่ความลื่นไหลยังด้อยกว่า Mi4 นิดนึงเป็น Android ที่เร็ว เนียน ไหลลื่นที่สุดตัวนึง เทียบชั้นกับ Nexus 5, Moto X, และ OnePlus ได้เลย
 แรม 4GB เหลือเผื่อกินเผื่อใช้สบายๆ ลงแอพอะไรไปมากมายแล้วยังมีเหลืออยู่เกิน 1.5GB สลับแอพไปมาได้ไม่ต้องห่วงโดนปิดเลยแรม 3GB ถือว่าเพียงพอหรือเกินพอ เพราะทำรอมมาได้ประหยัดแรมมากๆ สลับแอพไปมาลื่นไหลสุดๆ
หน่วยความจำให้เยอะอลังการ 64GB แถมเติมเมมได้อีก ใจป้ำสุดๆ แม้เครื่องจะมีแอพขยะเยอะไปหน่อยแต่ก็หยวนๆนะเติมเมมไม่ได้ 16GB ใช้ไม่พอแน่นอน
หน้าจอภาพสีสวยสดใส ละเอียดคมกริบ สู้แสงดี ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย
ดีไซน์และวัสดุขนาดเครื่องใหญ่ล้นมือไปหน่อย ทำให้จับถือลำบากไปนิด แต่ได้การวางปุ่มไว้ข้างหลังกับฟีเจอร์แตะจอเพื่อปลุกมาเลยพออภัยได้ขนาดเครื่องกำลังเหมาะมือมาก ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป
 วัสดุเป็นพลาสติกล้วน แต่งานประกอบถือว่าโอเค จับถือแล้วแน่นมือในระดับนึงงานประกอบของเครื่องทำมาได้แน่นหนา บางส่วนทำมาจากโลหะ จับแล้วเข้ามือ รู้สึกดีมาก
การโทรศัพท์สองซิม แต่ซิมนึงใช้งานได้แค่ 2G เท่านั้น มีเหมือนไม่มีซิมเดียว ใช้แล้วไม่ได้เจอปัญหาอะไร คนใช้อยู่บอกว่าใช้ 4G ในเมืองไทยได้ อัพเดทจากในงาน TME เครื่องที่ขายในไทยเป็น 3G เท่านั้น ไม่รองรับ 4G ครับ
 กรองเสียงรบกวนรอบข้างออกได้ดี อยู่กลางถนนเสียงเรายังได้ยินชัดเจนอยู่จำไม่ได้ ^^”
กล้องตั้งค่า manual ปรับได้โคตรละเอียด ลงลึกได้ยันอุณหภูมิสี ซึ่งหากได้ยากมากในสมาร์ทโฟนปรับแต่งไม่ได้มาก ตั้งค่าออโต้มาได้ดีอยู่แล้ว และมีดีที่ UI ปรับชดเชยแสงทำมาใช้ง่ายสุดๆ
 ไม่ถึงกับช้าแต่ว่าก็ยังสู้ Mi4 ไม่ได้เปิดกล้องและ โฟกัสภาพไวมาก
 คุณภาพภาพมีการ Process เยอะไปหน่อย ทำให้ไม่ค่อยคมชัด โดยเฉพาะเมื่อแสงน้อยเนื้อภาพจัดอยู่ในกลุ่มระดับมือถือเรือธง แม้จะไม่ถึงกับสวยเทพแต่รวมๆงามดี
 ดูภาพเปรียบเทียบได้ที่ http://goo.gl/Z1Tl2Wดูภาพเปรียบเทียบได้ที่ http://goo.gl/ZV5Cn5
ซอฟท์แวร์Zen UI ทำมาพร้อม Android 5.0 เรียบร้อย มี Google Apps ลงมาให้เสร็จสรรพMIUI6 ยังวิ่งอยู่แค่ Android 4.4.3 (รอดูว่าต้องมาลง Gapps เองหรือเปล่า)
 bloatware มาเพียบ แอนตี้ไวรัสมาเต็ม (เครื่องไต้หวัน รอดูเครื่องไทยอีกที) แต่ดันไม่เปิดให้ผู้ใช้จำกัดสิทธิ์แอพได้bloatware จิ๋วเดียว มีระบบ security ป้องกันแอพดูดข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย
  Mi Market น่ากลัวมาก…มีแอพเหมือนบน Play Store แต่ดันมีเวอร์ชั่นใหม่กว่าให้อัพเดท ซึ่งไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นแอพจริงจาก Developer นั้นๆรึเปล่า
ความสามารถพิเศษวาดหน้าจอเพื่อเปิดแอพใช้สะดวกดีไม่มี
 ตั้งค่าปุ่มหลังเพื่อเปิดกล้องทำให้เข้ากล้องได้สะดวกขึ้นมากไม่มี
 Theme มีให้เลือกโหลดจำกัดมี Theme ให้เลือกโหลดเพียบ
 ไม่มีแสดงความเร็วรับ-ส่งข้อมูลบนแถบ noti
 ไม่ได้ตั้งค่าปุ่ม navigation เลือกให้กดค้างแล้วเปิดแอพ หรือสลับแอพได้
 ปรับแต่งอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ปรับแต่งอุณหภูมิสีของหน้าจอได้
 ต้องลงแอพเพิ่มปรับแต่งสีไฟ LED เวลามีแจ้งเตือนได้
 ผมนึกถึงฟีเจอร์ที่ใช้บ่อยๆและเจ๋งๆ เพิ่มเติมของทั้งสองตัวไม่ค่อยออก ฝากใครได้ลองแล้วมาเสนอเพิ่มหน่อยนะครับ ไปดูฟีเจอร์ของ Zenfone 2 เพิ่มเติมได้ที่ http://goo.gl/08HsNc ส่วนของ Xiaomi Mi4 ไปดูที่ http://goo.gl/Q4cyfw
GPSใช้งานดี จับสัญญานไวและนิ่ง พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้ามาไกล ใช้นำทางได้จริงมีปัญหาจับสัญญานไม่ค่อยได้ หรือจับแล้วติดๆดับๆ เครื่องร้อนจี๋ สูบแบตสุด จัดว่าสอบตกเลยก็ว่าได้ เพื่อนๆที่ใช้อยู่บอกว่าถ้าเป็น stable firmware ไม่มีปัญหาแล้ว
NFCยังไม่ได้ทดสอบว่าใช้งานร่วมกับบัตร Rabbit ได้รึเปล่าไม่มีมาให้เลย ไม้รู้จะเขียมไปทำไม
แบตเตอรี่ และความยาวนานใช้งานหนักๆแล้วมีเครื่องร้อนบ้าง และใช้งานหนึ่งวันได้ปริ่มๆ แบตใหญ่แต่ก็กินไฟมาก ยังดีมีชาร์จไวราวๆเสียบไม่นานก็เต็มแบตอึดดีใช้งานทั่วไปได้เนียนและยาวนาน (แต่อย่าเปิดใช้ GPS เป็นพอ) ส่วนเวลาในการชาร์จแม้จะไม่มี Fast Charge แต่ก็ไม่ได้ช้าจนต้องรอเงิบ มีเพื่อนๆแจ้งมาว่า Mi4 ก็มี Quick Charge 2.0 Adapter แถมมาในกล่องมาให้เช่นกัน
ศูนย์บริการอยู่ในระหว่างการปรับปรุง แต่ปัจจุบันโดนด่ากันยับว่ามีเหมือนไม่มีเพิ่งมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีศูนย์รับซ่อมแค่สองที่ ยังไม่ยืนยันว่าทำงานดีแค่ไหน
ราคาราคาดีไม่มีตก เพิ่งมีลดลงบ้างเมื่อมีรุ่นใหม่ขายก่อนที่จะมีตัวแทน ราคาผันผวนพอควร
 มีหลากรุ่นหลายราคาให้เลือกไม่มีรุ่นความจุสูงกว่าให้เลือก

 


Antutu Benchmark เปรียบเทียบ Chipset ของ Asus Zenfone 2 vs Xiaomi Mi 4

 

สรุป…แล้วจะซื้ออะไรดี Asus Zenfone 2 หรือ Xiaomi Mi 4

ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบประสบการณ์ใช้งานบน Mi 4 ไม่ว่าจะเรื่องของความลื่นไหล ความสามารถในการปรับแต่ง ไอคอน หน้าตา UI ขนาดของเครื่อง กล้อง ฯลฯ เรียกว่าเป็นตัวที่ใช้แล้วฟินที่สุดตัวนึงเลยก็ว่าได้ แต่ตกม้าตายเรื่อง GPS และหน้าจอแตะเพื่อเปิดไม่ได้เนี่ยแหละ (ถ้าเรื่อง GPS มีอัพเดทแก้ไขแล้ววานคนใช้อยู่มาบอกนะ) GPS มีคนแจ้งมาว่าใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาหลังใช้ Stable Firmware ชาร์จไฟได้รวดเร็วเพราะมี Quick Charge แถมมาให้ในกล่อง เหลือเรื่องน่าเสียดายนิดหน่อยก็คือไม่สามารถเติมเมมได้ และในเครื่องก็ให้มาน้อยไปหน่อยนะ อาจต้องเติมเงินอีกหน่อยไปคว้ารุ่น 64GB มาใช้แทน **อัพเดท** เครื่องที่นำมาขายในไทยไม่รองรับ 4G

ส่วน Asus Zenfone 2 จับแล้วไม่ได้รู้สึกดี หรือว้าวอะไรกับมันมากมายนัก แต่ก็หาจุดติลำบากเหมือนกัน สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจกว่ารุ่นอื่นๆในราคาเดียวกันก็ตรงที่เสปคยัดมาเต็มจนหาตัวเทียบยาก และฟีเจอร์ที่ไปรวมเอาข้อเด่นๆของทุกแบรนด์มารวมกันซะจนเรียกได้ว่า ไม่คิดจะเหลืออะไรให้คนอื่นขายกันเลย แถมการอัพเดทเฟิร์มแวร์ยี่ห้อนี้ก็น่าชื่นชมเพราะราคามิตรภาพแต่ก็อัพเดทกันยาวๆ ปล่อยมาให้เรื่อยๆเลยทีเดียว

ขอไม่ฟันธงว่าเลือกตัวไหนละกัน ฝากให้เพื่อนๆมากดโหวตและคอมเม้นท์บอกกันหน่อยละกันว่าจะจัดตัวไหนดี Zenfone 2 หรือ Mi 4 ครับ 😀 55555 #โยน

ผลการโหวตจากคำตอบทั้งหมด 2750 คำตอบ Zenfone 2 ได้รับความนิยมมากกว่า Xiaomi Mi4 ชนะคำแนนโหวตไปที่ 63.2 ต่อ 36.8 เปอร์เซนต์

แต่สุดท้ายแล้วใครจะชนะ หรือคุณจะเลือกอะไร สุดท้ายแล้วแค่ใช้มันให้เต็มที่ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วละ เพราะความชอบและความต้องการของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ไม่ต้องทะเลาะกันนะ ^^