ในยุคที่อุปกรณ์ไอทีรอบตัวเรารองรับ การชาร์จไร้สาย กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางไปจนถึงเรือธง หูฟังไร้สาย หรือแม้แต่สมาร์ทวอทช์ การมีแท่นชาร์จไร้สายแบบ 3-in-1 ที่สามารถชาร์จทุกอุปกรณ์พร้อมกันได้ในครั้งเดียวย่อมช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมาก ไม่ต้องพกสายหลายเส้น หรือเสียบสลับไปมาให้ยุ่งยาก แต่ในท้องตลาดตอนนี้ก็มีแท่นชาร์จให้เลือกหลากหลายรุ่นมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่รองรับ MagSafe และ Qi2 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้การชาร์จเร็วและปลอดภัยกว่าเดิม วันนี้เราจึงคัด 3 รุ่นเด่นจากแบรนด์ชั้นนำมาเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่ารุ่นไหนเหมาะกับใคร และคุ้มค่าน่าซื้อที่สุดในปี 2025 นี้

สำหรับแท่นชาร์จไร้สายที่เรานำมาทดสอบในวันนี้ ได้แก่ Belkin BOOST CHARGE Qi2 3-in-1 Wireless Charging Pad, AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro LC-MC311 และ AULUMU M01 4-in-1 Folding Wireless Charger ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรุ่นที่ทีมงานใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และอยู่ในช่วงราคาประมาณ 4,000 – 5,000 บาท
โดยถือว่าเป็นกลุ่ม รุ่นท็อปของตลาด ที่รองรับทั้ง MagSafe / Qi2 พร้อมออกแบบมาสำหรับการชาร์จ iPhone, Apple Watch และ AirPods ไปพร้อมกัน เหมาะกับผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple แบบครบเซ็ต หรือคนที่ใช้อุปกรณ์ 3 ชิ้นอยู่เป็นประจำ ที่กำลังมองหาแท่นชาร์จดี ๆ สักตัวไว้ใช้งานยาว ๆ

ตารางเปรียบเทียบแท่นชาร์จไร้สาย 3 in 1
รายการ | Belkin BOOST CHARGE | AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro | AULUMU M01 |
มาตรฐานชาร์จ | Qi2, Made For Watch | Qi2, Made For Watch | Qi2 |
กำลังไฟสูงสุด | 15W (iPhone), 5W (AirPods), 5W (Watch) | 15W (iPhone), 5W (AirPods), 5W (Watch) | 15W (iPhone), 5W (AirPods), 5W (Watch) |
จุดวางอุปกรณ์ | iPhone, Watch, AirPods | iPhone, Watch, AirPods | iPhone, Watch, AirPods + USB-C เพิ่มเติม |
Cooling | No | Active Cooling | No |
ดีไซน์ | เรียบ หรู แบนราบ | ยกสูง มีฐานวางแบบตั้ง | ความโมเดิร์น ล้ำสมัย พับเก็บได้ |
รองรับ Fast Charge | Yes | Yes | Yes |
พอร์ตเสริม | No | No | USB-C 10W |
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง | USB-C to USB-C 1.5 m | USB-C to USB-C 1.5 m, Adapter USB-C 30W | USB-C to USB-C 0.8 m, storage bag |
ขนาด | 8.18 x 16.31 x 1.5 ซม. (ไม่รวมที่ชาร์จ Apple Watch) | 14.4 x 10.2 x 10.2 ซม. | 8.5 x 17.5 x 1.1 ซม. |
น้ำหนัก | 420 ก. | 285.4 ก. | 260 ก. |
ราคา | 4,490 บาท | 4,990 บาท | 3,990 บาท |
ประกัน | 2 ปี | 2 ปี | 6 เดือน |
ดีไซน์
ในเรื่องของดีไซน์จะเห็นว่าแท่นชาร์จทั้ง 3 รุ่นนี้มีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันพอสมควร ทั้งในแง่ของรูปทรง วัสดุ การจัดวางตำแหน่งชาร์จ และแนวคิดในการใช้งาน ซึ่งสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายที่แต่ละแบรนด์ต้องการตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา ความสะดวกในการพกพา หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน เราจะพาไปดูทีละรุ่นว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และรุ่นไหนเหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณมากที่สุด

Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1 รุ่นใหม่มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและใช้งานสะดวกกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยตัวแท่นมีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว พื้นผิวเคลือบยางกันลื่น พร้อมแม่เหล็กภายในรองรับ MagSafe อย่างปลอดภัย สำหรับชาร์จ iPhone รุ่นใหม่ได้แน่นหนา ไม่หลุดง่าย ด้านซ้ายเป็นแท่นชาร์จมือถือ ด้านขวาเป็นจุดวางเคส AirPods ที่มีไฟสถานะ

ส่วนด้านข้างมีพอร์ต USB-C สำหรับเสียบแท่นชาร์จ Apple Watch เพิ่มเติม จุดเด่นคือสามารถแยกส่วนพกพาได้ง่าย ต่างจากรุ่นก่อนที่เทอะทะ และยังเปลี่ยนมาใช้สาย USB-C กับอแดปเตอร์ทั่วไปแทนแบบเฉพาะรุ่นอีกด้วย ด้านหลังมีแถบยางกันลื่นช่วยยึดแท่นกับโต๊ะได้ดี เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานบนโต๊ะทำงานหรือหัวเตียง

อย่างไรก็ตามข้อสังเกตที่ควรพิจารณาคือเรื่องของน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับอีกสองรุ่น ทำให้ไม่เหมาะกับการพกพาไปนอกสถานที่บ่อย ๆ อีกทั้งโมดูลเสริมสำหรับชาร์จ Apple Watch แม้จะสามารถเสียบเพิ่มผ่านพอร์ต USB-C ได้ แต่ก็ไม่ได้รวมเป็นชิ้นเดียวกับแท่นหลัก จึงอาจดูไม่แข็งแรงแน่นหนานัก โดยรวมแล้วดีไซน์ของรุ่นนี้เหมาะกับการวางประจำที่ เช่น บนโต๊ะทำงานหรือหัวเตียง มากกว่าจะเป็นแท่นชาร์จที่หยิบย้ายหรือเปลี่ยนตำแหน่งใช้งานบ่อย ๆ

AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro
AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro เป็นแท่นชาร์จไร้สายดีไซน์ทรงตั้งที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนโต๊ะทำงานโดยเฉพาะ จุดเด่นคือแท่นชาร์จ iPhone แบบยกสูงทำให้มองหน้าจอได้สะดวก รองรับการชาร์จทั้งแนวตั้งและแนวนอนด้วยแม่เหล็ก MagSafe ที่ดูดติดแน่น ตัวแท่นด้านล่างมีจุดวางหูฟัง และด้านหลังมีแท่นชาร์จ Apple Watch ฝังรวมอยู่ในโครงสร้างเดียว ไม่ต้องเสียบเพิ่มเหมือนบางรุ่น

อีกจุดเด่นสำคัญคือการเพิ่มพัดลม Active Cooling สำหรับแท่นชาร์จ Qi2 ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่และชาร์จได้เต็มประสิทธิภาพที่กำลังไฟสูงสุดตลอดเวลา ดีไซน์โดยรวมดูพรีเมียม ขอบโค้งมน วางแล้วเหมือนแท่นโชว์สินค้า

แต่ข้อสังเกตคือด้วยรูปทรงที่สูงและวัสดุผิวแข็งเรียบ ทำให้ต้องวางบนพื้นที่มั่นคงเพื่อป้องกันการล้ม อีกทั้งตัวแท่นไม่สามารถพับเก็บหรือแยกชิ้นได้ จึงไม่เหมาะกับการพกพา ใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อวางไว้ประจำโต๊ะทำงานหรือโต๊ะหัวเตียง

AULUMU M01 4-in-1
AULUMU M01 4-in-1 เป็นแท่นชาร์จไร้สายที่โดดเด่นเรื่องความพกพาสะดวกและดีไซน์เฉพาะตัว โครงสร้างสามารถพับเก็บได้แบนเรียบ เหมาะสำหรับใส่กระเป๋าเดินทางหรือพกติดตัวไปใช้งานนอกสถานที่ เมื่อกางออก ตัวแท่นรองรับการชาร์จ iPhone ผ่านแม่เหล็ก MagSafe ที่ดูดติดแน่น พร้อมยกตัวเครื่องขึ้นในแนวตั้งแบบเดียวกับ AUKEY แต่สามารถปรับองศาได้มากกว่า

จุดชาร์จหูฟังอยู่ด้านล่าง และมีแท่น Apple Watch ฝังอยู่ภายในไม่ต้องเสียบเพิ่ม อีกจุดเด่นคือมีพอร์ต USB-C เสริมด้านข้างสำหรับชาร์จอุปกรณ์อื่นได้อีกหนึ่ง รวมสามารถชาร์จได้ 4 อุปกรณ์พร้อมกัน วัสดุเป็นพลาสติกเนื้อด้าน สีดำล้วน ตัดด้วยสีเล็กน้อย ให้กลิ่นอายแบบเครื่องกลหรือหุ่นยนต์ สัมผัสได้ถึงความโมเดิร์น ล้ำ แต่ยังใช้งานได้จริง พร้อมไฟสถานะขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็น Ambient Light หรือไฟหัวเตียง ที่สามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ เพิ่มบรรยากาศให้ห้องได้อย่างสวยงาม ต่างจากอีกสองรุ่นที่มีเพียงไฟจุดเล็ก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากไม่มีระบบระบายความร้อนแบบ Active Cooling การชาร์จต่อเนื่องอาจเกิดความร้อนสะสม และส่งผลให้ชาร์จช้าลงได้บ้าง นอกจากนี้โครงสร้างแท่นที่ยกขึ้นได้แม้จะปรับองศาได้ แต่แกนรองรับน้ำหนักยังไม่แข็งแรงพอสำหรับการวางในมุมต่ำ ทางแบรนด์จึงแนะนำให้กางแท่นจนสุดเพื่อความมั่นคง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการพับตัวลงมาเองในระหว่างใช้งาน

ฟีเจอร์เด่น
แม้แท่นชาร์จไร้สายทั้ง 3 รุ่นจะสามารถชาร์จ iPhone, Apple Watch และ AirPods ได้เหมือนกัน แต่เมื่อดูลงลึกในแง่ของ “จุดเด่นเฉพาะตัว” จะเห็นว่าแต่ละรุ่นมีแนวทางในการออกแบบที่แตกต่างกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัสดุ ความเร็วในการชาร์จ ดีไซน์ หรือแม้กระทั่งภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้งานของแต่ละคน

Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1 มีจุดเด่นอยู่ที่งานออกแบบที่เรียบหรู พรีเมียม และแข็งแรงแน่นหนา ให้ความรู้สึกมั่นใจทั้งด้านวัสดุและความปลอดภัย โดยเฉพาะกับผู้ใช้ iPhone ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองจาก Apple และดูดีเมื่อตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานหรือหัวเตียง เสริมด้วยภาพลักษณ์แบรนด์ระดับพรีเมียมที่เน้นคุณภาพและความน่าเชื่อถือเป็นหลัก

AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro
AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งาน ด้วยการเพิ่มพัดลม Active Cooling ช่วยให้ควบคุมอุณหภูมิขณะชาร์จได้ดี ทำให้สามารถจ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพต่อเนื่องโดยไม่ลดความเร็วลง แม้ในระหว่างชาร์จยาวนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการชาร์จไร้สาย และใส่ใจเรื่องการถนอมอุปกรณ์จากความร้อนสะสม ภายใต้ดีไซน์ที่ดูสมาร์ท พกความเท่แบบเทคโนโลยีรุ่นใหม่ พร้อมภาพลักษณ์แบรนด์ที่สื่อถึงความล้ำและเป็นมิตรกับผู้ใช้สาย Productivity

AULUMU M01 4-in-1
AULUMU M01 4-in-1 เน้นความแหวกแนวในด้านดีไซน์ ด้วยรูปทรงที่พับเก็บได้สะดวก พกพาง่าย และสามารถชาร์จได้ถึง 4 อุปกรณ์พร้อมกัน รวมถึงมีฟีเจอร์ไฟ Ambient Light ที่สามารถใช้เป็นโคมไฟหัวเตียงได้ในตัว ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากแท่นชาร์จทั่วไป เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ล้ำ ๆ ไม่ซ้ำใคร และต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการตกแต่งในตัวเดียว ภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็ชัดเจนในฐานะแบรนด์สายดีไซน์ ที่กล้าคิดต่างและเน้นสไตล์เป็นเอกลักษณ์

ทดสอบความเร็วในการชาร์จ
อุปกรณ์ | รายการทดสอบ | Belkin BOOST CHARGE | AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro | AULUMU M01 |
Samsung Galaxy S25 Ultra (แบตเริ่ม 20%) | เพิ่มแบตใน 20 นาที | 34% | 35% | 32% |
เพิ่มแบตใน 60 นาที | 51% | 63% | 55% | |
กำลังไฟที่วัดได้ | 12-13 W | 18-20 W | 11-12 W | |
iPhone 16 Pro Max (แบตเริ่ม 20%) | เพิ่มแบตใน 20 นาที | 36% | 42% | 43% |
เพิ่มแบตใน 60 นาที | 63% | 80% | 78% | |
กำลังไฟที่วัดได้ | 12-13 W | 22-23 W | 18-20 W | |
Apple Watch 6 (แบตเริ่ม 60%) | เพิ่มแบตใน 20 นาที | 81% | 82% | 76% |
กำลังไฟที่วัดได้ | 2-3 W | 2-3 W | 1-2 W |
ประสบการณ์ใช้งานจริง
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1 เป็นรุ่นที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมที่สุดในแง่ของวัสดุและงานประกอบ แท่นมีน้ำหนักมากกว่าอีกสองรุ่นอย่างชัดเจน ทำให้วางแล้วแน่นหนึบกับโต๊ะ ไม่ต้องกังวลว่าแท่นจะขยับเวลาหยิบเครื่องออก ตัวแม่เหล็กดูดแน่น ใช้ได้ดีทั้งกับ iPhone 16 Pro Max ที่ใส่เคส HI-SHIELD และ Galaxy S25 Ultra พร้อมเคสจาก Casetify ก็ไม่มีปัญหา ตัวแท่นชาร์จ Apple Watch สามารถถอดออกไปใช้แบบ Stand alone ได้ด้วย ซึ่งถือว่ายืดหยุ่นมาก อีกทั้งยังรองรับการวาง Apple Watch ที่ใช้สายนาฬิกาแบบ Loop ได้โดยไม่ต้องพับสาย วางลงชาร์จได้ทันทีโดยไม่ติดขัด ถือว่าสะดวกมากสำหรับผู้ใช้ที่ชอบสายแนวนี้

จุดที่สังเกตได้คือระหว่างใช้งานแท่นจะมีความร้อนสะสมมากกว่ารุ่นอื่น โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสบริเวณแท่นจะรู้สึกอุ่นกว่า คาดว่าเกิดจากการที่ส่วนประกอบทั้งหมดถูกจัดรวมไว้ในแผ่นเดียวกัน ทำให้เกิดการสะสมความร้อนมากกว่ารุ่นที่ออกแบบให้แยกตำแหน่งกัน นอกจากนี้ ด้วยดีไซน์แบบแบนราบ จึงไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ StandBy Mode ของ iOS ได้เมื่อวาง iPhone ชาร์จในแนวนอน

AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro
AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro เป็นรุ่นที่ให้ประสบการณ์การชาร์จไร้สายดีที่สุดในแง่ของ “ประสิทธิภาพ” ตามที่โฆษณาไว้ โดยเฉพาะการชาร์จ iPhone ที่เร็วกว่าอีกสองรุ่นอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีระบบระบายความร้อน Active Cooling ที่ไม่ได้ใช้แค่พัดลมธรรมดา แต่ยังฝังแผ่น Peltier เหมือนที่พบในพัดลมเกมมิ่งรุ่นท็อป แม้ประสิทธิภาพจะไม่เท่ากัน (หากพัดลมเกมมิ่งระดับ 10 คะแนน รุ่นนี้อยู่ที่ราว 2 คะแนน) แต่ก็เพียงพอสำหรับควบคุมอุณหภูมิให้การชาร์จเสถียรเต็มกำลัง พัดลมทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนหรือแรงสั่นให้รู้สึกขณะวางบนโต๊ะ ขนาดตัวแท่นแม้ดูใหญ่จากภาพ แต่พอใช้งานจริงกลับไม่กินพื้นที่เท่าไร แถมยังสามารถปรับมุมแท่นชาร์จแนวตั้งได้เล็กน้อย ช่วยให้รับกับสายตาขณะดูคอนเทนต์ได้ดี ตัวแม่เหล็กบนแท่น MagSafe ก็ดูดติดแน่นมากไม่ว่าจะใช้กับ iPhone ที่ใส่เคส MagSafe หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่มีแม่เหล็กเสริม

มีข้อสังเกตบางจุด เช่น แท่นชาร์จ Apple Watch ด้านหลัง ซึ่งหากปรับมุมชาร์จให้เอียงสูงเกินไป นาฬิกาอาจลื่นหลุดจากแท่นได้ง่าย สำหรับคนที่ใช้สายแบบ Loop ที่ต้อง “รัด” สายให้แนบกับแท่นคล้ายกับการรัดปากถุงขนม ถึงจะสามารถวางชาร์จได้กรณีถ้าไม่ต้องการพับสายนะ ขณะเดียวกันระบบ Active Cooling ที่เป็นจุดแข็ง ก็ต้องแลกมากด้วยการกินพลังงานเพิ่มขึ้นอยู่เล็กน้อย โดยใช้ไฟเพิ่มจากแท่นปกติราว 5W แนะนำให้ใช้หัวชาร์จอย่างน้อย 30W เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพ

AULUMU M01 4-in-1
AULUMU M01 4-in-1 เป็นแท่นชาร์จไร้สายที่เรียกได้ว่า “เท่ที่สุด” ในกลุ่มนี้ จากดีไซน์ที่แหวกแนว มีความเป็นเอกลักษณ์สูงจนหลายคนในทีมรีวิวถึงกับเปรียบเทียบว่านึกถึงสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Nothing ทันที จุดเด่นอยู่ที่รูปทรงพับได้ ทำให้สะดวกมากเวลาพกพา โดยเมื่อพับเก็บแล้วจะมีขนาดประมาณสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งเท่านั้น น้ำหนักอาจมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่พกพาได้ง่าย และในกล่องยังมีซองสำหรับใส่แท่นชาร์จมาให้เพิ่มความสะดวกอีกด้วย ใช้งานจริงเพียงสายชาร์จเส้นเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้หัวชาร์จแบบหลายพอร์ต ทำให้ประหยัดงบกว่ารุ่นอื่น

ด้านความสามารถในการชาร์จถือว่าน่าประทับใจ แม้จะไม่มีพัดลมระบายความร้อนแบบ AUKEY แต่กลับทำความเร็วได้ใกล้เคียงมาก เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากดีไซน์ที่ยกแท่นชาร์จขึ้นจากพื้น ไม่วางราบติดโต๊ะ จึงมีพื้นที่ให้อากาศไหลเวียนมากขึ้น อีกทั้งลวดลายรอบแท่นที่เป็นลักษณะตะแกรงรังผึ้ง แม้จะไม่แน่ชัดว่ามีผลต่อการระบายความร้อนจริงหรือไม่ แต่ก็ดูมีฟังก์ชันมากกว่าแค่ความสวยงาม ตัวแท่นแม่เหล็กสำหรับ iPhone ให้แรงดูดที่แน่นหนาดี ใช้งานกับ iPhone พร้อมเคส MagSafe ได้สบาย แต่เมื่อลองใช้กับ Galaxy S25 Ultra ที่ใส่เคส Casetify กลับดูดไม่ค่อยแน่นนัก อาจต้องระวังเวลาใช้งานนิดหน่อย

จุดที่เป็นข้อสังเกตของรุ่นนี้อยู่ที่คุณภาพวัสดุและความแข็งแรงของโครงสร้าง ซึ่งดูด้อยกว่าสองรุ่นก่อนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบานพับและจุดหมุนที่แม้จะสามารถปรับองศาได้เยอะที่สุด แต่การหมุนมีความฝืดและไม่ลื่นมือเท่าที่ควร รู้สึกได้ถึงความพรีเมียมน้อยกว่าชัดเจน พื้นที่วางอุปกรณ์ก็มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้เวลาชาร์จพร้อมกันหลายอุปกรณ์จะรู้สึกแน่น หยิบหรือวางอาจติดขัดบ้าง และสำหรับ ผู้ใช้ Apple Watch ที่ใช้สายแบบ Loop ต้องพับสายขึ้นถึงจะวางชาร์จได้ เพราะไม่สามารถวางแนบราบแบบไม่พับเหมือน Belkin ได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกสองจุดที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่เรื่อง ความเร็วในการชาร์จ Apple Watch ซึ่งจากการทดสอบพบว่า AULUMU M01 ทำได้ช้ากว่ารุ่นอื่นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะแท่นชาร์จไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน Made for Apple Watch (MFW) ทำให้จ่ายไฟได้ไม่เต็มกำลังเท่าแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง ส่วนอีกจุดคือเรื่อง ความทนทานของชิ้นส่วนบานพับและข้อต่อต่าง ๆ ที่แม้จะให้ความยืดหยุ่นในการปรับระดับได้หลากหลาย หากต้องพับกางบ่อย ๆ อายุอาจส่งผลต่อการใช้งานในระยะยาว

สุดท้ายคือฟีเจอร์ Ambient Light ที่ดูสวยงาม ใช้ตกแต่งหัวเตียงได้ดี มีอุณหภูมิแสงแบบ Warm ดูละมุน แต่ในทางกลับกัน สำหรับคนที่หยิบจับอุปกรณ์เข้าออกบ่อย อาจรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เนื่องจากเวลาแท่นชาร์จกำลังตรวจจับอุปกรณ์ใหม่ จะมีการกระพริบไฟรัว ๆ เพื่อแสดงสถานะ ซึ่งอาจดูน่ารำคาญในช่วงเวลากลางคืน
สรุปรุ่นไหนเหมาะกับใคร
หลังจากที่ได้ลองใช้งานแท่นชาร์จไร้สาย 3 in 1 ทั้ง 3 รุ่นแบบจัดเต็ม จะเห็นว่าทุกรุ่นมีจุดแข็งเฉพาะตัว และตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ควรดูตามไลฟ์สไตล์และความต้องการเป็นหลัก
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1
Belkin BOOST CHARGE Pro 3-in-1เหมาะกับคนที่เน้นคุณภาพสูงสุดในทุกด้าน ต้องการงานประกอบที่พรีเมียม ใช้กับ iPhone เป็นหลัก และอยากได้แท่นชาร์จที่ดูดี วางไว้บนโต๊ะแล้วเรียบร้อยหรูหรา ภาพลักษณ์ดี และไม่สนใจพกพาไปไหนบ่อย ใช้แท่นแบบตั้งกับที่เท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาย Apple Ecosystem เต็มรูปแบบ

AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro
AUKEY MAGFUSION 3-IN-1 Pro เหมาะกับผู้ที่ต้องการ “ชาร์จเร็ว เสถียร มั่นใจ” ใช้งานหนักทุกวัน และต้องการเทคโนโลยีที่จัดเต็มในราคาที่ไม่เว่อร์ จุดเด่นคือพัดลม Active Cooling และแผ่น Peltier ภายในที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดี ทำให้สามารถชาร์จได้เต็มกำลังตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าการชาร์จจะหยุดชั่วคราวเพราะความร้อนสะสม ตัวแท่นมีดีไซน์เรียบ เท่ ดูสมาร์ท เหมาะกับคนที่เน้นประสิทธิภาพและต้องการอุปกรณ์ที่ “วางแล้วจบ” ไม่ต้องลุ้นว่าแบตจะเต็มไหม

AULUMU M01 4-in-1
AULUMU M01 4-in-1 เหมาะกับผู้ใช้สายเท่ สายเดินทาง และคนที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ไม่ซ้ำใคร ชอบอุปกรณ์ที่ดู “ล้ำแต่ใช้งานได้จริง” พับเก็บได้ง่าย ใส่กระเป๋าเดินทางสะดวก มาพร้อมดีไซน์ Industrial สไตล์หุ่นยนต์ มี Ambient Light ตกแต่งห้อง และยังมีพอร์ตเสริม USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์ที่ 4 ได้อีก เหมาะกับคนที่มองหาอุปกรณ์ที่ใช้งานหลากหลาย มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร

MagSafe และ Qi2 ต่างกันยังไง
MagSafe คือเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายที่พัฒนาโดย Apple ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ iPhone 12 โดยใช้แม่เหล็กวงแหวนช่วยให้ iPhone ยึดติดกับแท่นชาร์จอย่างแม่นยำและปลอดภัย จุดเด่นของ MagSafe ไม่ใช่แค่ความแน่นหนาเวลาวางชาร์จ แต่ยังมีการฝังชิป NFC ในอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Apple เช่น แท่นชาร์จหรือเคส ซึ่งช่วยให้ iPhone สามารถจดจำโปรไฟล์ของอุปกรณ์นั้นได้ เช่น เมื่อวางเครื่องบนแท่นชาร์จ จะปรากฏหน้าจอ StandBy ที่เคยตั้งค่าไว้โดยอัตโนมัติ หรือจำชื่อแท่นชาร์จเฉพาะก็ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ MagSafe จะใช้ได้กับอุปกรณ์อื่นนอกเหนือจาก iPhone เช่น Android หรือหูฟังบางรุ่นที่รองรับชาร์จไร้สาย แต่กำลังไฟที่จ่ายให้จะถูกจำกัดไว้ต่ำกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ Apple เท่านั้น

ในขณะที่ Qi2 เป็นมาตรฐานการชาร์จไร้สายใหม่ล่าสุดที่พัฒนาโดย Wireless Power Consortium (WPC) โดย Apple ก็มีส่วนร่วมในการออกแบบด้วย ซึ่ง Qi2 ได้นำหลักการแม่เหล็กจาก MagSafe มาใช้เช่นกันภายใต้ชื่อ Magnetic Power Profile (MPP) ทำให้แท่นชาร์จ Qi2 สามารถวางชาร์จได้แนบพอดีและส่งไฟได้เสถียรกว่า Qi รุ่นเดิม รองรับการชาร์จสูงสุด 15W ทั้งกับ iPhone และอุปกรณ์ Android ที่รองรับมาตรฐาน Qi2 ข้อแตกต่างสำคัญคือ Qi2 ไม่มีชิป NFC จึงไม่สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์เฉพาะของ Apple อย่าง StandBy หรือการจดจำโปรไฟล์ได้ และแม้หน้าตาและการทำงานจะคล้ายกัน แต่ MagSafe ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านฟีเจอร์ระบบปิด ขณะที่ Qi2 เปิดกว้างและมีแนวโน้มจะกลายเป็นมาตรฐานหลักของตลาดในอนาคต

จริง ๆ แล้วทั้ง MagSafe และ Qi2 มีความแตกต่างกันไม่มากนักในแง่ของประสบการณ์ใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iPhone ซึ่งทั้งสองมาตรฐานสามารถชาร์จได้เร็วสูงสุด 15W เท่ากัน และใช้แม่เหล็กช่วยจัดตำแหน่งเหมือนกัน ความต่างหลัก ๆ คือ MagSafe มีชิป NFC ที่ช่วยให้ระบบ iOS จดจำโปรไฟล์ของอุปกรณ์และแสดงผลฟีเจอร์อย่าง StandBy ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่ง Qi2 ยังไม่รองรับ ส่วนผู้ใช้ Android แม้จะสามารถใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับ MagSafe ได้ แต่ก็มักจะโดน “จำกัดฟีเจอร์” บางอย่าง เช่น ความเร็วในการชาร์จที่อาจไม่ถึง 15W หรือการเชื่อมต่อแม่เหล็กที่ไม่แน่นหนาเท่า เพราะไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะกับอุปกรณ์ Android โดยตรง ทำให้ Qi2 กลายเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับอุปกรณ์ Android ในระยะยาว เพราะเป็นมาตรฐานเปิดที่รองรับได้หลากหลายกว่า
Comment