ใครที่กำลังจะติดเน็ตบ้าน หรือ กำลังจะเปลี่ยนโปรเน็ตบ้านในปี 2023 นี้ ต้องดูในนี้เลยเรารวบรวมมาให้จากทุกค่ายแล้ว บอกเลยว่าปัจจุบันนี้อินเทอร์เน็ตมีราคาที่ถูกลงมากกว่าเดิมแล้ว เพราะจ่ายในราคาประมาณ 500 บาท ต่อเดือน ก็ได้ความเร็วระดับ 1000 Mbps เลยทีเดียว หรือใครที่ไม่อยากจ่ายแพงเราก็มีแพ็กเริ่มต้นที่ราคาไม่กี่ร้อยบาทมาฝากกันด้วย *อัปเดตวันที่ 9 ก.ค. 2023

แพ็กเกจเน็ต Fiber ประกอบไปด้วย 4 ค่ายหลัก คือ

1. 3BB
2. AIS Fibre
3. true Online
4. NT

คำอธิบายสัญลักษณ์

• 🌐 มีซิมอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานจำนวนตามเลขหน่วย GB (ตัวอย่าง 10🌐 คือได้ เน็ต 10GB)
• 📶 มีซิมอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานไม่อั้นไม่ลดสปีด (ตัวอย่าง 4📶 คือได้ เน็ต 4Mbps)
• 📞 มีนาทีโทรให้ตามจำนวนตัวเลข (ตัวอย่าง 60📞 คือได้ โทรฟรี 60 นาที)
• 🎮 e-Sport Package ให้เน็ตมาสองเส้น แยกสายกับเน็ตใช้งานทั่วไป ลด Ping
• 🎬 มีช่องหนังพิเศษ ดูหนัง ซีรีส์ ผ่านกล่องให้ (ฟรี)
• ⚽️ ดูบอล Premiere League 2 คู่ต่อสัปดาห์
• ⚽️+ ดูบอล Premiere League ทุกนัด
• 🏵 แถม Mesh Wi-Fi Router ให้ยืมใช้งาน 1 ตัว
• 📷 แถมกล้องวงจรปิด ให้ใช้งาน 1 ตัว
• 🆂 แพ็กเกจสำหรับลูกค้า Serenade เท่านั้น
• ❌ไม่มี Router แถมมาให้ ต้องใช้ของตัวเอง
• 🚀ใช้สาย Fiber แบบพิเศษเดินในบ้าน แทนสาย LAN
• (เลขราคา) ราคาพิเศษสำหรับลูกค้ารายเดือน AIS, TrueMove H
• ช่องพื้นหลังราคาที่ไฮไลท์ สีเหลือง คือแพ็กเกจที่น่าสนใจ

ตารางเปรียบเทียบค่าบริการเน็ตบ้าน Fiber ปี 2023 (2566)

หมายเหตุ

• ตารางข้างบนจะเป็นการเปรียบเทียบเฉพาะแพ็กเกจหลักที่มีบนหน้าเว็บเท่านั้น ยังไม่รวมโปรลับที่ต้องสมัครผ่านเซลล์หรือตัวแทนเอง
• ของ AIS และ True สามารถปรับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ตามความต้องการ เช่น ปกติ 500/500 สามารถปรับเป็น 700/300 หรือ 300/700 ได้

จากตารางจะพบว่าตอนนี้แพ็กเกจส่วนใหญ่มาพร้อมกับความเร็วระดับ 1 Gbps กันหมดแล้ว เหมือนกลายเป็นมาตรฐานของอินเทอร์เน็ตยุคสมัยนี้ไปแล้ว ในด้านราคาดูเหมือนว่า NT จะได้ความเร็วสูงที่สุดในงบประมาณที่เท่ากันกับเจ้าอื่น หรือจะเป็นสายสิทธิประโยชน์ก็ต้องยกให้ Ture Online เลย เพราะพ่วงโปรโมชั่นอื่น ๆ มาด้วยเพียบเอาไปแบบจุก ๆ อีกข้อสังเกตหนึ่งคือหลายค่ายเริ่มนำ Mesh Wi-Fi เข้ามารวมกับโปรโมชั่นมากขึ้น ส่วนตัวคิดว่าคงนำมาช่วยเรื่องของการกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม

ความเร็วแต่ละช่วงค่ายไหนคุ้มสุด

200-600 Mbps : กลุ่มเริ่มต้นที่น่าสนใจที่สุดคงต้องยกให้แพ็กใหม่ของทาง NT Super Plus Fiber ที่ให้สปีดความเร็วสูงถึง 400/400 Mbps ในราคาเพียงเดือนละ 390 บาทเท่านั้น ซึ่งมีราคาที่ถูกที่สุด และความเร็วระดับนี้เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไป ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เล่นเน็ต ดู YouTube Netflix ความละเอียด 4K ได้สบาย ๆ แต่จะติดแค่ว่าจะหาศูนย์บริการที่รับติดตั้งบริเวณบ้านได้ไหมมากกว่าครับ

1000 Mbps  : โปรที่น่าสนใจคือ BYOD ของ AIS ที่ได้ความเร็ว 1000/500 Mbps ในราคาเพียงเดือนละ 599 บาท และไม่ต้องเป็นลูกค้าที่มีซิมรายเดือนของ AIS ก็ได้ แต่แพ็กนี้เราต้องมีตัว Router เองด้วยถึงจะใช้งานได้ เพราะในแพ็กจะมีอุปกรณ์มาให้เราแค่ตัวแปลงจาก  Fiber Optic เป็นสาย LAN เท่านั้น

1000 Mbps ทั้ง Upload และ Download  : ในกลุ่มนี้บอกเลยว่ามีหลายแพ็กน่าสนใจ เพราะเป็นกลุ่มแพ็กเกจหลักของหลายค่ายเลย ซึ่งแพ็กเกจที่โดดเด่นที่สุดตกเป็นของ True Giatex Pro Special ความเร็ว 1000/1000 Mbps ในราคาเพียงเดือนละ 799 บาทเท่านั้น ที่ได้ความเร็วสูงมากทั้ง Upload และ Download รองรับกับทุกการใช้งานได้สบาย ได้กล่อง TV พร้อมแพ็ก True unlock,  ดูบอลพรีเมียร์ลีคได้ทุกคู่ กล้อง CCTV และได้ Mesh Wi-Fi ขยายสัญญาณเพิ่มได้ 1 จุด แต่แพ็กนี้ต้องเป็นลูกค้าที่มีซิม Ture รายเดือนเท่านั้น

แพ็กถัดไปจะเป็นของลูกค้า AIS Serenade บ้าง โดยได้ความเร็ว 1000/1000 Mbps ในราคาเพียงเดือนละ 899 บาท แถมในแพ็กเกจยังได้กล่อง AIS Playbox แบบ Play Premium Plus ที่ดูฟรีคอนเทนต์ออนไลน์พรีเมี่ยมแบบเสียเงินเพิ่มอีกด้วย 

หรือใครไม่ได้เป็นลูกค้า AIS Serenade แต่เป็นลูกค้า AIS รายเดือนก็ขอแนะนำแพ็กนี้เลย POWER 4 ADVANCE คุ้มเหมือนกัน โดยได้ความเร็ว 1000/1000 Mbps ในราคาเพียงเดือนละ 999 บาท แถมในแพ็กยังได้ Router ถึงสองตัว สำหรับทำ Mesh การกระจายสัญญาณเพิ่มอีก 1 จุด เน็ตมือถือปริมาณ 20 GB/เดือน และกล่อง AIS Playbox แบบ Play S ด้วย

2000 Mbps : กลุ่มนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความจัดเต็ม หรือในบ้านมีคนใช้งานพร้อมกันเยอะ ๆ แล้วต้องการให้ลื่นไหลที่สุด ซึ่งในตอนนี้มีสองค่ายในไทยคือ AIS กับ true โดยแพ็กแรกเราขอเสนอแพ็ก CYOD ของ True Online ความเร็ว 2000/500 Mbps ในราคาเดือนละ 999 บาท

และอีกค่ายอย่าง AIS ก็มีแพ็กใกล้ ๆ กัน อย่าง BYOD ความเร็วระดับ 2000/1000 Mbps ในราคาเดือนละ 1299 บาท แรงเต็มคาราเบลสุด ๆ

แต่ข้อสังเกตของทั้งสองแพ็กนี้คือไม่มีอะไรมาให้เราเลยมีเพียงอุปกรณ์แปลงสัญญาณ Fiber Optic เป็นสาย LAN แค่นั้น เราต้องหา Router กระจายสัญญาณ Wi-Fi มาติดตั้งเอง ส่วนตัวคิดว่าถ้ามีงบติดเน็ตความเร็วระดับนี้ งบเรื่องอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi ระดับเทพคงไม่ใช่ปัญหา และอีกข้อสังเกตคือพื้นที่การให้บริการมีเพียงแค่บางพื้นที่เท่านั้น

จากที่เลือกมานั้นจะเน้นไปที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดในราคาที่ต่ำที่สุดเป็นหลักมากกว่า หากใครต้องการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่พ่วงมาด้วยในแพ็กอาจจะต้องลองเลือกกันเอง เพราะมียิบย่อยมาก ๆ เช่น บางคนอยากได้ Mesh Wi-Fi หรือบางคนอยากได้ดูคอนเทนต์เยอะ ๆ แทน ซึ่งถ้าพ่วงของเปล่านี้มาแล้วได้ใช้บอกเลยว่าคุ้มมากกว่าจ่ายแยกจริง ๆ นะ

สรุป

ถ้าเปรียบเทียบโปรเน็ตบ้านจากทั้ง 4 ค่ายนี้ กรณีถ้าใช้เน็ตอย่างเดียว ไม่ได้สนใจสิทธิพิเศษ ดูหนัง หรือได้ค่าโทรเพิ่ม ส่วนตัวมองว่าโปร BYOD ของ AIS ที่มีราคาเดือนละ 599 บาท ดูจะคุ้มค่าที่สุดเพราะได้ความเร็วอินเทอร์เน็ตระดับ 1000 Mbps ในราคาที่ไม่สูงมาก บอกเลยว่าความเร็วระดับนี้ใช้งานได้เกินพอแล้วในบ้าน แต่อย่าลืมว่าถ้าใช้แพ็กนี้เราต้องมี Router ของตัวเองด้วย

หรือถ้าใครเน้นคุ้ม ชอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ก็ลองไปเลือกกันดู เพราะแต่ละค่ายก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน แนะนำถ้าใครใช้รายเดือนค่ายไหนอยู่ก็ให้ติดเน็ตบ้านจากค่ายนั้นจะคุ้มที่สุด เพราะจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมในเน็ตบ้านด้วย จากที่ไปลองส่องแพ็กที่ได้ดูคอนเท้นต์ออนไลน์เพิ่มในบางแพ็กพบว่าให้มาจัดเต็มมาก ช่วยประหยัดให้บางคนที่จ่ายรายเดือนเพื่อดูคอนเท้นต์เหล่านี้อยู่แล้วได้เยอะ สิ่งที่เห็นชัดเจนในโปรเน็ตบ้านประจำปี 2023 นี้คือ มีการเพิ่มอุปกรณ์เสริม IoT เข้ามา เช่น กล้องวงจรปิด หรือการเพิ่มจุดกระขายสัญญาณด้วย Mesh Wi-Fi

ทางด้านค่าย 3BB ในปีนี้ไม่ได้ออกโปรโมชั่นอะไรที่เร้าใจมากนัก มีแค่ปรับตามค่ายอื่นนิดหน่อย ส่วนราคาก็ถือว่าเกาะกลุ่ม ไม่ได้ถูกหรือว่าแพงต่างกันมากนัก และอีกค่ายอย่าง NT ที่หลายคนมองว่าเป็นค่ายนอกกระแส แต่เมื่อไปดูโปรโมชั่นจริง ๆ จะพบว่าราคาดีใช้ได้เลย โดยจะมีราคาที่ถูกกว่าค่ายอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย แต่ตัวเลขความเร็วที่ได้ก็จะต่างกับค่ายอื่นด้วยเช่นกัน

ส่วนด้านข้อสังเกตคือเมื่อเทียบกับปีที่แล้วจะพบว่าไม่มีแล้วนะแพ็กที่จะได้ความเร็วเกิน 1000 Mbps ในราคาที่ต่ำกว่า 500 บาทต่อเดือน หรือหมายความว่าอินเทอร์เน็ตบ้าน มีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ถ้าใครอยากได้ความเร็ว 1000 Mbps ในราคาที่ต่ำกว่า 500 บาทต่อเดือนจริง ๆ อาจต้องไปหาโปรลับกับเซลล์หรือตัวแทนเอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะตัดสินใจติดตั้งเน็ตไม่ว่าค่ายไหน สิ่งที่ควรคำนึงมากที่สุดก่อนเรื่องราคาและความเร็วคือ สัญญาณในพื้นที่นั้นเป็นยังไงบ้าง กระตุก แลค หรือหลุดบ่อยไหม แนะนำลองสอบถามคนในพื้นที่ก่อนว่ามีปัญหาอะไรยังไงหรือเปล่า เพราะต่อให้ใช้โปรมีราคาดีแค่ไหน แต่สัญญาณไม่เสถียรก็เท่านั้น ใช้งานไปแล้วไม่ได้ตามที่คาดหวังจะกลายเป็นว่าเสียเงินโดยใช่เหตุเปล่า ๆ