เป็นคำถามสุดฮอตของเหล่าผู้ที่ใช้งาน Galaxy Note รุ่นก่อนๆคือ ได้เวลาอัพเกรดรึยัง เราควรเปลี่ยนไป Galaxy Note 7 รึเปล่า Galaxy Note 5 ที่เราถือนี่ ใช้ต่อได้อีกสักปีมั้ย ยังพอใจกับมันอยู่ Note 4 มันก็ทำได้เหมือนๆกัน เติมเมมได้ แบตเสื่อมแล้วก็ยังเปลี่ยนแบตต่อชีวิตได้นี่นา แต่ Galaxy Note 7 มันก็สวยน่าใช้ดีนะ ฯลฯ ตัดสินใจยากใช่มั้ยล่ะ? วันนี้เดี๋ยวเราจะมาช่วยหาคำตอบให้ว่า Galaxy Note รุ่นที่ถืออยู่นั้น เราควรเปลี่ยนมันรึยัง?
ก่อนอื่น มาดูเปรีบเทียบสเปคกันสักนิดนึงก่อนว่าพัฒนาการในแต่ละรุ่นต่างกันขนาดไหน
ความแตกต่างของสเปคใน Galaxy Note 7 vs Galaxy Note 5 vs Galaxy Note 4 vs Galaxy Note 3
Samsung Galaxy Note 7 | Samsung Galaxy Note 5 | Samsung Galaxy Note 4 | Samsung Galaxy Note 3 | |
---|---|---|---|---|
ราคา (ณ วันเปิดตัว) | 28900 บาท | 25900 บาท (32GB) 29900 บาท (64GB) | 24900 บาท | 24900 บาท |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 Marshmallow | Android 6.0 Marshmallow | Android 6.0 Marshmallow | Android 5.0 Lollipop |
Custom UI | TouchWiz UI | TouchWiz UI | TouchWiz UI | TouchWiz UI |
หน้าจอ | Super AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล | Super AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล | Super AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล | Super AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล |
ชิปเซ็ต | Samsung Exynos 8890 8-core 2.3GHz | Samsung Exynos 7420 8-core 2.3GHz | Samsung Exynos 5433 8-core 1.9GHz | Qualcomm Snapdragon 800 MSM8974 4-core 2.2GHz |
ชิปกราฟฟิค | Mali-T880 MP12 | Mali-T760 | Mali-T760 MP6 | Adreno 330 |
แรม | 4 GB | 4 GB | 3 GB | 3 GB |
หน่วยความจำภายใน | 64 GB, รองรับ MicroSD สูงสุด 256 GB | 32/64 GB ไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ | 32 GB, รองรับ MicroSD สูงสุด 128 GB | 32 GB, รองรับ MicroSD สูงสุด 64 GB |
กล้องหลัง | 12 ล้านพิกเซล, f/1.7, 2160p@30fps, OIS, PDAF, geo-tagging, simultaneous 4K video and 9MP image recording, touch focus, face/smile detection, Auto HDR, panorama | 16 ล้านพิกเซล, f/1.9, 2160p@30fps, OIS, geo-tagging, touch focus, face/smile detection, Auto HDR, panorama | 16 ล้านพิกเซล, f/2.2, 2160p@30fps, OIS, geo-tagging, touch focus, face/smile detection, Auto HDR, panorama | 13 ล้านพิกเซล, f/2.2, 2160p@30fps, geo-tagging, touch focus, face/smile detection, Auto HDR, panorama |
กล้องหน้า | 5 ล้านพิกเซล, f/1.7, 2160p, dual video call, Auto HDR | 5 ล้านพิกเซล, f/1.9, 1440p@30fps, dual video call, Auto HDR | 3.7 ล้านพิกเซล, f/1.9, 1440p | 2 ล้านพิกเซล, f/2.4, 1080p |
ระบบเครือข่าย | Nano-SIM / Dual SIM (Hybrid), รองรับ LTE, Full NetCom3.0 | Nano-SIM / Single SIM, รองรับ LTE | Micro-SIM / Single SIM, รองรับ LTE | Micro-SIM / Single SIM, รองรับ LTE |
4G Band | LTE band 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 12 / 13 / 17 / 18 / 19 / 20 / 25 / 26 / 28 / 38 / 39 / 40 / 41 | LTE band 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 12 / 17 / 18 / 19 / 20 / 26 | LTE band 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 17 /20 | LTE band 1 / 3 / 5 / 7 / 8 /20 |
802.11 a,b,g,n,ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot | 802.11 a,b,g,n,ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot | 802.11 a,b,g,n,ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot | 802.11 a,b,g,n,ac, dual-band, WiFi Direct, DLNA, hotspot | |
Bluetooth | v4.2, A2DP, EDR, LE | v4.2, A2DP, EDR, LE | v4.1, A2DP, EDR, LE | v4.0, A2DP, EDR, LE |
NFC | มี | มี | มี | มี |
ระบบนำทาง | GPS, AGPS, GLONASS, BDS | GPS, AGPS, GLONASS, BDS | GPS, AGPS, GLONASS, BDS | GPS, AGPS, GLONASS |
USB | USB Type-C, รองรับ OTG OTG | microUSB 2.0, รองรับ OTG | microUSB 2.0, รองรับ OTG | microUSB 3.0, รองรับ OTG |
เซนเซอร์ | Fingerprint, Accelerometer, Gyroscope, Proximity, Compass, Light, Iris Scanner, Barometer, | Fingerprint, Accelerometer, Gyroscope, Proximity, Compass, Light, Barometer, Hall | Fingerprint, Accelerometer, Gyroscope, Proximity, Compass, Light, Infrared, Barometer, Gesture, Hall | Accelerometer, Gyroscope, Proximity, Compass, Light, Temperature, Humidity, Barometer, Gesture |
แบตเตอรี่ | 3500 mAh, ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้, Fast Charge | 3000 mAh, ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้, Fast Charge | 3220 mAh, ถอดเปลี่ยนแบตได้, Fast Charge | 3200 mAh, ถอดเปลี่ยนแบตได้ |
ตัวเครื่อง | 153.5 x 73.9 x 7.9 มม., 169 กรัม กันน้ำ IP68 | 153.2 x 76.1 x 7.6 มม., 171 กรัม | 153.5 x 78.6 x 8.5 มม., 176 กรัม | 151.2 x 79.2 x 8.3 มม., 168 กรัม |
ดูเผินๆแล้ว Galaxy Note ตั้งแต่ 3 ขึ้นมาจนถึง 7 แทบจะไม่ได้มีสเปคต่างอะไรกันมากเลย แถมบางอย่างที่บางคนชอบอย่าง Infrared ที่ใช้เป็นรีโมทได้ก็ถูกถอดออกไป และ Galaxy Note 3-4 ยังถอดฝาหลังออกมาเปลี่ยนแบตได้อีกต่างหาก ใช้มา 2-3 ปีแล้วยังใช้งานดีอยู่เลย จะเปลี่ยนดีมั้ยนะ ส่วน Galaxy Note 5 นี่ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพิ่งซื้อมาปีที่แล้ว หลายๆอย่างก็ยังโอเคอยู่ กล้องก็ถ่ายออกมาได้งามไม่แพ้กัน จะเปลี่ยนทำไม เหล่านี้เองคงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนจากตัวเดิมมาใช้เครื่อง Galaxy Note 7 ไม่ได้ ซึ่งถ้ายังคิดแบบนี้อยู่ ไม่มีความอยากจะเปลี่ยน และเห็นว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลือง บอกเลยว่า
“คุณทำถูกแล้ว และข้ามบทความนี้ไปได้เลย :D”
“ปิดครับ ปิดหน้าจอ อย่าอ่านต่อ”
จะมาเสียเวลาอ่านและทำให้เกิดกิเลสไปทำไมเนอะ 5555 คนที่กำลังจะอ่านต่อนี่ ผมเชื่อว่าเหตุผลเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะหยุดให้คุณหาข้อมูล เพราะตอนนี้กำลังมีกิเลสกับ Galaxy Note 7 มากกว่าตรรกะต่างๆใช่มั้ยล่ะ (อิอิ) กำลังเกิดอารมณ์หลงใหลในตัวของ Galaxy Note 7 ไม่ว่าจะหน้าตา ฟีเจอร์ใหม่ หรืออะไรบางอย่างในตัวมันแน่นอน ดังนั้นก่อนอ่านด้านล่างนี้โปรดพึงระวังว่ามันอาจจะทำให้เกิดกิเลสพุ่งพล่านขึ้นมาอีกรอบ เพราะเรากำลังเอากิเลสที่ตัวเองมีมาแชร์ให้อ่าน และคิดว่าจะไปดับกิเลสด้วยการซื้อแม่งเลยอยู่ครัชชชช!!
ก่อนที่จะไปต่อ ขอให้คนที่มีสถานะ 2 อย่างนี้ปิดบทความนี้ ข้ามไปอีกเช่นกันคือ
1. ทุนทรัพย์ไม่ถึง ของมันราคาแพงจนอาจทำให้มีปัญหาอย่างใดอย่างนึงกับชีวิตได้ เช่น ทะเลาะกับแฟน กู้หนี้ยืมสิน ทำให้ขาดสภาพคล่อง (เราไม่ส่งเสริมให้คนใช้จ่ายเกินตัว)
2. ไม่ปลื้มกับ Galaxy Note ที่ใช้มาจนถึงตอนนี้คือ “ทนใช้” ไม่ใช่ “ชอบใช้” บางทีชีวิตคุณอาจต้องการการเปลี่ยนแปลงนะ มีรุ่นอื่น แบรนด์อื่นอีกมากมายรอการค้นหาจากคุณอีกเพียบ
10 เหตุผลที่คุณจะเปลี่ยนจาก Galaxy Note รุ่นที่ใช้อยู่มาเป็น Galaxy Note 7
1. วัสดุเครื่องเป็นโลหะ+กระจก ถือแล้วดูดี เสริมบารมี
รุ่นที่น่าเปลี่ยน – Galaxy Note 3, 4
เบิ่งครับเบิ่ง ความโค้งมนของขอบเครื่อง มันช่างเย้ายวนน่าจับซะเหลือเกิน
เหตุผลข้อนี้โดนรุ่นไหน – Galaxy Note 3, 4
สำหรับคนที่ถือ Galaxy Note 5 อยู่แล้วอาจจะไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่ในข้อนี้ แต่สำหรับคนที่ยังใช้บอดี้เป็นโพลีคาร์บอเนตอยู่ (พลาสติกนั่นแหละ) ถ้าลองไปจับแล้วกิเลสอาจจะมีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย เพราะหน้าตาของ Galaxy Note 7 จัดว่าสวยงามขึ้นจากรุ่นก่อนๆไม่น้อยเลยทีเดียว หน้าจอมีความโค้งมน เนียนสวยเตะตาซะเหลือเกิน เดินถือไปไหนมาไหน จะมีแต่คนทัก ซื้อโทรศัพท์ใหม่เหรอ สวยจุงเบย
2. ซอฟท์แวร์ใหม่ ใช้ง่ายขึ้น ปลอดภัยกว่าเดิม
รุ่นที่น่าเปลี่ยน – Galaxy Note 3
TouchWiz ที่ใช้ในตัว Galaxy Note 7 มีการปรับปรุงพัฒนามากขึ้นเยอะมาก ไม่ใช่เพียงหน้าตา แต่ฟีเจอร์ที่มีก็เช่นกัน อาจจะมีความสับสนไปสักหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งย้ายมาจาก TouchWiz ตัวก่อนๆ เพราะมีการย้ายตำแหน่งนู่นนี่มากมาย แต่ก็ไม่น่าจะยากที่จะทำความเข้าใจได้ในไม่กี่นาที
ตัวอย่างของความสามารถที่เพิ่มขึ้นมา
จัดวางแอพง่ายขึ้น : ลากแอพที่ต้องการไปใส่ในกล่องพัก เพื่อย้ายไปหน้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
Settings จัดเรียงใหม่ : มีแนะนำเรื่องอื่นๆท้ายหัวข้อ
WiFi Sharing : แชร์ WiFi ที่ใช้อยู่ให้คนอื่นต่อผ่าน WiFi ได้
เรื่องซอฟท์แวร์ที่สำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยที่ Galaxy Note 3 จะไม่ได้รับอัพเดทเพิ่มเติม และมีความเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์หรือเจาะข้อมูลสำคัญในเครื่องของเราได้นั่นเอง
3. Secure Folder ใช้งานได้สองบัญชี เหมือนมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง
ใครที่ควรเปลี่ยน – ต้องการความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน กรณีกลัวคนรู้ความลับ
ถ้าใครเคยใช้ MyKnox อยู่จะบอกว่าจริงๆแล้วฟีเจอร์ Secure Folder นี่มันก็คือ MyKnox กลับชาติมาเกิดใหม่นั่นแหละ แต่แปลงทุกอย่างให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรเยอะแยะ ทำตามสเตปที่ขึ้นมาไม่นานก็พร้อมใช้งานได้เลย ประโยชน์หลักๆคือ เราสามารถเล่น Facebook LINE Twitter เก็บเบอร์โทร ภาพ GoogleAccount ต่างๆได้อีกส่วนนึงแยกออกไป เหมือนกับว่าเรามีแอนดรอยด์อีกเครื่องยังไงอย่างงั้น หลายๆคนเห็นแล้วถ้าคิดทางดี ก็จะบอกว่าเออ จะได้แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้สะดวกๆ แต่สำหรับคนอีกประเภทก็จะบอกว่าเอาไว้ซ่อนกิ๊กได้อย่างดีงามเลยทีเดียวแจ้~
ตามภาพซ้ายคือจะมี LINE บัญชีนึงเล่นอยู่ และเมื่อเข้ามาใน Secure Folder ก็จะเห็นว่ามี LINE ผูกอีกบัญชีเอาไว้ได้ด้วย
4. S Pen ดีกว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์ใหม่ น่าใช้งานขึ้น
ใครที่น่าเปลี่ยน – คนที่ชอบวาดเขียน จดบันทึกด้วย S Pen มาตลอด
ขึ้นชื่อว่า Galaxy Note สิ่งนึงที่มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อออกรุ่นใหม่ออกมา ก็คือปากกา S Pen สำหรับขีดเขียน แต่เอาจริงๆหลายๆคนก็ไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่ใช่มะ 555 สาเหตุหลักก็น่าจะมาจากที่คิดว่าเราเป็นคนที่วาดไม่เก่ง ลายมือไม่สวย ก็เลยไม่ค่อยได้ดึงปากกาออกมาใช้งานนัก แต่ว่า Galaxy Note 7 มีการเพิ่มฟีเจอร์เข้าไปอยู่ 5 ข้อที่ทำให้เราน่าจะมีเหตุผลในการใช้งานปากกามากขึ้นกว่าเดิมอีกครับ ได้แก่
1. จรดปากกาเพื่อแปลภาษา
2. ใช้ส่องเป็นแว่นขยายบนหน้าจอ
3. Glance ย่อแอพลงมาให้สลับดูได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
4. ตัดครอปหน้าจอทำเป็นภาพ GIF
5. Samsung Notes สมุดจดปรับปรุงใหม่ รวบทุกเล่นให้เหลือที่เดียว
เหมาะกับใคร – คนที่ใช้ Galaxy Note จดบันทึกเป็นประจำ
ใน Samsung Galaxy Note 5 เราจะได้เห็นว่ามีแอพสำหรับจดบันทึกอยู่ถึง 3 แอพใหญ่ คือ Memo, S Note, และ Scrapbook ซึ่งจะทำงานแยกส่วนกันได้อย่างปวดหัว แต่พอมาบน Galaxy Note 7 ทาง Samsung ได้รวบเอาทั้งสามแอพนี้เข้าไปรวมอยู่ด้วยกันกลายเป็น Samsung Notes แอพเดียว แต่ถ้าใครคิดว่าเคยชินกับของเดิมแล้ว ไม่อยากเปลี่ยน เค้าก็มีให้โหลดกลับมาใช้ใหม่ได้นะ
โดยความเปลี่ยนแปลงก็จะมีอยู่ว่าใน Samsung Notes นี้ จะทำให้การเขียนเรียงตัวลงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมาสลับหน้าเหมือนสมุดแบบเดิมอีกต่อไป สามารถจดบันทึกได้ทั้งการพิมพ์ เขียน-วาดด้วยปากกา ใส่ภาพจากกล้อง หรือบันทึกเสียงลงไปเลยก็ได้ ตรงขอบจอที่โค้งก็มีการกันเอาไว้ให้เขียนไม่ได้ จะได้ไม่พลาดลากเส้นเกิน รวมๆแล้วส่วนตัวถือว่าสะดวกดี เขียนง่ายขึ้นกว่าเดิม ที่ชอบที่สุดคงเป็นเรื่องการวาดและลงสีซึ่งมีการทำหัวแปรงเป็นสีน้ำ สีน้ำมัน และพู่กันเขียนอักษรเอาไว้ ซึ่งตัวสีน้ำมันก็มีคความว้าวอยู่ที่สามารถผสมสีในตัวได้เลยล่ะครับ (เดี๋ยวมาเดโมให้ดูนะ)
และถ้าเกิดว่าเครื่อง Galaxy Note ปัจจุบันของคุณยังไม่ค่อยได้ดึงปากกาออกมาใช้แล้วล่ะก็ ยังไงอย่าลืมนึกถึงมันตอนที่เราอยากจะเขียนโน๊ตจากบนหน้าจอนะ เพราะมันเป็นเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่สุดที่อย่างน้อยคนใช้ Galaxy Note ควรจะได้ใช้ครับ
สำหรับ galaxy note 5 ยังไม่ชัวร์ว่าจะได้อัพเกรดรับฟีเจอร์ข้างบนนี้ตามมาหรือเปล่าคงต้องรอดูกันต่อไป
6. อยากได้กล้องถ่ายสวย แชร์ให้ใครก็ประทับใจ
รุ่นที่แนะนำเปลี่ยนขึ้นมา – Galaxy Note 3, 4
อันนี้ไม่ขอพูดอะไรมาก เดี๋ยวเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดูกันดีกว่าว่ามันต่างกันขนาดไหน แต่แค่มันทำได้เท่า Galaxy S7 นี่คนที่ใช้ Galaxy Note 3, 4 ก็น่าจะปลื้มปริ่ม อยากที่จะได้มันเอาไปติดตัวไว้ถ่ายรูปตอนไปเที่ยวแล้วล่ะ จากที่ปกติก็เคยใช้ Galaxy Note 3 และ Galaxy Note 4 ตะลอนทัวร์เที่ยวต่างประเทศแบบไม่มีกล้องมาแล้ว เจอ Galaxy Note 7 เข้าไปอีกนี่ แทบจะแทนกันได้เกือบหมดแล้วจริงๆ ทั้งกล้องถ่ายรูปและกล้องวิดีโอเลยครับ
(รอภาพแป๊บ)
7. Iris Scanner แสกนม่านตา ปลดล็อคได้แม่นยำและไวไม่ต่างจากนิ้วมือ
เหมาะกับใคร – อยากลองอะไรล้ำๆ มีเอาไว้โชว์คนอื่นได้
มีปัญหาปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือไม่ติดบ้างไม่ติดบ้าง จะล็อคด้วย PIN หรือ Pattern ก็ดูไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ต้องมาเจอเทคโนโลยีปลดล็อคด้วยม่านตาที่น่าจะล้ำสุดในตอนนี้ ได้ความแม่นยำที่ค่อนข้างสูง ไม่มีพลาดปลดล็อคมั่ว แถมไวกว่าปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือในบางครั้งซะด้วยซ้ำไป เล่นแล้วก็ติดใจไม่เบา ซึ่งจะบอกว่าเป็นเหตุที่ควรจะต้องเปลี่ยนมั้ย ข้อนี้ก็ไม่เชิงนัก เพราะการที่มีสแกนลายนิ้วมือหรือปลดล็อคธรรมดา ก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการอะไรที่มากกว่า เอาไปโชว์ให้คนอื่นดูได้ ก็แนะนำเลยล่ะ
8. กันน้ำได้ หน้าจอทนแตกกว่าเดิม ใช้ซุ่มซ่ามก็ไม่ต้องห่วง
เหมาะกับใคร – คนที่รู้ตัวว่ามีโอกาสประทุษร้ายเครื่องบ่อยกว่าคนอื่นนะ 😛
เป็นครั้งแรกของ Galaxy Note ที่ทาง Samsung ใส่ฟีเจอร์กันน้ำเข้ามาให้ และดีกว่าของทั่วไปที่ไม่มีจุกหรือฝาอะไรให้ต้องมาคอยระวัง ช่องเสียบชาร์จไฟหรือช่องเสียบหูฟังต่างก็ทำมาให้กันน้ำได้ทั้งคู่ ไม่ต้องห่วงว่ามันจะมีอาการช๊อต เพราะถ้าหากมีน้ำค้างอยู่ในช่อง ระบบจะทำการแจ้งเตือนและยังไม่จ่ายไฟมาเข้าเครื่อง ทดสอบการลงน้ำกันแล้ว เอาไปถ่ายใต้น้ำได้สบายๆ (แต่ห้ามลงไปลึกเกิน 1.5 เมตรนะ) ส่วนหน้าจอก็มีความอึดขึ้นกว่าเดิมด้วย Gorilla Glass 5 ซึ่งทางผู้ผลิตก็คือบริษัท Corning ได้ทำการเคลมเอาไว้ว่า สามารถทนการตกแตกได้จากความสูง 1.6 m เลยทีเดียว
ปล. แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยแนะนำให้เอาไปลงน้ำหรือว่าทำตกสักเท่าไหร่นะ แม้ว่าจะเคยทดสอบกับมือตัวเองแล้วก็ตามว่าลงน้ำได้จริง หรือตกจากที่สูงระดับนึงแล้วจอยังไม่แตก แต่ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา เดี๋ยวจะต้องมาวุ่นวายจ่ายเงินเปลี่ยนจอกันอีก ^^” เพราะคนที่เคลมเรื่องความอึดของจอเป็น Gorilla ไม่ใช่ Samsung นะ หะหะ (ใครจองเครื่องตอนนี้ เห็นว่ามีประกันจอแตกให้ด้วย 1 ปีนะ)
9. สองซิม เติมเมมได้ LTEมาเต็ม 3CA
ใครที่ควรเปลี่ยน – ถือมากกว่า 1 เบอร์ หรือใช้ Galaxy Note 5 แล้วเมมไม่พอ
เรื่องสองซิมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แต่ที่น่ารู้คือ 2 SIM บน Galaxy Note 7 มันสามารถ standby 3G ได้ทั้งคู่พร้อมกัน ไม่เหมือน 2 ซิมรุ่นเก่าๆที่ต้องมีซิมนึง standby 2G เท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้เครือข่าย 2G ก็ค่อยๆหดตัวลงทุกวันไปพร้อมๆกับสัญญาณด้วย และถ้าแถวที่เราอยู่ทางเครือข่ายมีเปิดสัญญาณครบถ้วน ก็สามารถใช้งานรวม 3 คลื่นความถี่ 900/1800/2100 MHz ทำความเร็วได้มากกว่า 100Mbps ได้แบบสบายๆไปเลย แต่โน๊ตไว้นิดนึงนะว่า 2 ซิมในที่นี้เป็น Slot แบบ Hybrid คือต้องเลือกระหว่างใส่ microSD และ SIM2 ล่ะ
10. ย้ายข้อมูลง่ายและสะดวกมาก
รุ่นที่ใช้ได้ – Galaxy Note 3, 4, 5
เหตุผลนึงที่หลายคนขี้เกียจจะเปลี่ยนเครื่องก็คือไม่อยากมาวุ่นวายย้ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ ทั้งรูปที่มีมากมาย หรือว่าข้อมูลเบอร์โทร ข้อความต่างๆ ซึ่งบอกเลยว่า Samsung เค้ามีเตรียมเรื่องนี้เอาไว้ให้หมดละ กดแค่ไม่กี่ขั้นตอนก็จะย้ายทุกสิ่งอย่างจากเครื่องเก่ามาไว้ที่เครื่องใหม่ให้เลยในทันทีล่ะ ถ้าไม่อยากทำเอง ให้พนักงานที่ร้าน Samsung Shop เป็นคนทำให้ก็ยังได้
นอกเหนือจาก 10 ข้อนี้แล้ว ก็ไม่ค่อยมีอะไรต่างมากละ ไม่ว่าจะ GPS ก็ใช้นำทางได้ดีเหมือนกัน, Battery ก็วันเดียวหมดไม่ต่างกันเล่น รู้สึกอึดขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย, 4G Carrier Aggregation ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น, USB Type-C ช่วงเริ่มต้นแบบนี้ก็อาจจะหาอุปกรณ์ใช้ร่วมด้วยยากหน่อย แต่ยังดีที่ Samsung ยังน่ารัก แจก adapter มาให้พร้อมมาก, WiFi & Bluetooth ก็เดิมๆ
ของแถมในกล่องให้มาครบ USB Connector, สายชาร์จ, หัวแปลง microUSB > USB Type-C
สรุปแล้วก็คือ ถ้าเครื่องใครยังใช้งานได้ดีอยู่ ยังไม่คิดจะเปลี่ยน ก็ไม่ได้จำเป็นอะไรหรอก ยังย้ำเหมือนเดิมว่าถ้าพอเพียงได้ก็จะดี ไม่ลำบากกระเป๋าตังค์ด้วย แต่ถ้าคุณมีสิ่งที่อยากได้ใน Galaxy Note 7 และเงินไม่ใช่ปัญหาแล้วล่ะก็บอกเลยจะเปลี่ยนเป็น Galaxy Note 7 นี่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเอาซะมากๆเลยล่ะ ให้มาครบถ้วนดีเหลือเกินครับ
ถ้ามีคำถามอะไรก็เช่นเดิมนะ มาทิ้งกันเอาไว้ได้ ผมกำลังเขียนรวบรวมถามตอบ พร้อมรีวิวและน่าจะเสร็จเอามาฝากเพื่อนๆได้ในอีกไม่กี่วันนี้ครับ รออีกแป๊บนะ 😀
ราคาน่าจะเทียบเป็นราคาปัจจุบันดีกว่าครับ
เอ๋~ Note 3 นี่ Quick Charge ได้ด้วยหรอครับ ของผมทำไม่ได้อ่าาาา
แต่ผมนี่อยากได้เครื่องสีฟ้าทอง ชิพ Snap 820 มากกว่า รอเครื่องหิ้ว
มันเป็น Quick Charge 1.0 ที่ชาร์จไฟ 5V2A มั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งเอาจริงๆตอนนั้นก็ยังไม่ได้ถูกเรียกอย่างแพร่หลายว่าเป็น Quick Charge ด้วยซ้ำไป ยังไงผมตัดทิ้งไปก่อนเพื่อกันความสับสนดีกว่า
ขอบคุณครับ
เข้าใจละ เหตุผลที่ Note 5 เพิ่มmemไม่ได้ , ไม่เป็น Type-C
ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ก็จัดไปปีละครั้ง
Note3 ต่อไปแทนรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เยอะเลย
Note 5 มี 64GB ด้วยนะครับ
Note 7 มันมากับ Grand UI รึป่าว ไม่ใช้ Touchwiz ui
Grace ครับทั่น จริงๆ ก็คือ TW นั่นล่ะ แต่เปลี่ยนชื่อ
note3 snap800 ราคาเปิดตัว 24,900.-
ผมไม่เคยซื้อมือแรกตอนที่ราคามันเกิน 2 หมื่นเลยครับ
จริงด้วย ราคานี้มัน Exynos >~<
ขอบคุณนะครับ
รุ่นหลังไม่น่าถอด Temperature, Humidity sensor ออกเลย ผมใช้งานเป็นประจำน่าเสียดาย
****เพิ่มเติม Note 3 ก็มี light sensor ด้วยนะ
ขอบคุณครับ พิมพ์ตกไป
ถ้าจะไม่แถมจอม่วงมาให้แบบ note 5 จะเป็นบุญมากครับ
Note5 ผมใช้มาจะครบ 1 ปีแล้วจอยังโอเคอยู่นะครับ ต่างประเทศเค้ายืนยันกันแล้วว่าที่เป็นเพราะมีแรงกดทับหน้าจอถึงแม้ข้างนอกไม่มีอะไรเพราะกระจกปัจจุบันแตกยาก แต่ panel ด้านในจอเสียหายก็เลยขึ้นลายสีม่วง ส่วนตัวผมใส่กางเกงเข้ารูปใส่เจ้า Note5 เข้าไปค่อนข้างบีบมากเวลานอนก็เปิดโหมดเครื่องบินตั้งปลุกเอาไว้ใต้หมอนนอนทับก็ไม่ม่วงง่ายขนาดนั้นนะครับ
Note 7 วิดีโอกล้องหน้าน่าจะ 2160p นะครับ
สำหรับ S7 Note 5 มันยังไม่สมควรเปลี่ยนมันยังไม่ว้าวขนาดเปลี่ยนแปลงชัดเจน
ในตารางเปรียบเทียบ Spec ระหว่าง Samsung Galaxy Note 7, Samsung Galaxy Note 5, Samsung Galaxy Note 4 และ Samsung Galaxy Note 3 นั้น ในหัวข้อหน่วยประมวลผล CPU ของ Samsung Galaxy Note 5 ( Exynos 7420 8-core 2.3GHz ) น่าจะเป็น Exynos 7420 8-core 2.1GHz ครับ