เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนนี้ ที่ Apple ได้เวลาออก iPhone ตัวใหม่ โดยปีนี้ออกมาทั้ง iPhone 8 และ iPhone X (สิบ) โดยตัวที่ขายก่อนก็คือ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ส่วน iPhone X ยังต้องรอกันถึงเดือน 11 ถึงจะวางขายนะครับ และสิ่งที่พลาดไม่ได้ของการเปิดตัว Smartphone ยุคนี้ ก็คือการออกมาอวดสรรพคุณของกล้องตัวใหม่ๆ ว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ และดีกว่าเดิมหรือดีกว่าคู่แข่งขนาดไหน แต่จะเชื่อได้แค่ไหน มาทดสอบกันเลยดีกว่า โดยวันนี้มี 2 คู่เทียบคือ Galaxy Note 8 คู่แข่งสายตรง กับรุ่นก่อนหน้า iPhone 7 Plus

การทดสอบครั้งนี้จะมีตัวเปรียบเทียบอีกสองตัว คือ iPhone 7 Plus ที่ update iOS เป็น iOS11 เรียบร้อยแล้ว กับ Samsung Galaxy Note 8 ที่ออกมาในเวลาใกล้เคียงกับ iPhone 8 Plus และครั้งนี้จะมีการให้คะแนนด้วยนะครับ โดยจะทดสอบในหลายๆสภาพแสงและให้คะแนนดังนี้

  1.  สภาพแสงกลางแจ้ง
  2.  สภาพแสงในอาคาร
  3.  สภาพแสงน้อย

ทั้งสามข้อข้างบน เราจะดูรายละเอียดของภาพและสีสันของภาพ รวมไปถึง Dynamic Range ทั้งแบบแสงและแบบสี (ดูอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อที่ทดสอบนะครับ) รวมไปถึง White Balance และ Noise นะครับ

  1. โหมดหน้าชัดหลังเบลอ – โดยจะทดสอบโหมดนี้ว่าจะเบลอฉากหลังได้เนียนขนาดไหน (Portrait Mode บน iPhone และ Live Focus บน Note 8)
  2.  กล้องหน้า – โดยจะทดสอบกับแสงกลางแจ้ง ในร่ม และแสงน้อย

 

1.สภาพแสงกลางแจ้ง

เรื่องแรกให้ดูเรื่องรายละเอียด จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus พอสมควร เวลาซูมเข้าไปดูรายละเอียดของใบไม้ใบหญ้า จะเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ดีกว่าเดิม ส่วน Note 8 ก็ทำได้ดีพอๆกับ iPhone 8 Plus ส่วนเรื่องสี ให้ดูสีของต้นไม้และใบไม้ จะเห็นว่า iPhone 8 Plus สีเขียวดูสดกว่า iPhone 7 Plus นิดหน่อย แต่ก็ยังไม่สดเท่าสีใบไม้จริงๆ ส่วน Note 8 สีเขียวสดมาก สดกว่าสีใบไม้จริงๆไปนิดหน่อยครับ

รูปนี้ สิ่งที่จะให้ดูคือ Dynamic Range ในเรื่องสี ปกติแล้ว Dynamic Range จะดูกันในเรื่องของแสง คือดูรายละเอียดในส่วนสว่างและส่วนมืด ว่ารายละเอียดหายไปหรือไม่ แต่ถ้าพูดถึง Dynamic Range ของสี หมายถึงการเก็บรายละเอียดของสีได้ครบถ้วน สิ่งที่จะวัดตรงนี้ จะวัดกันที่ถ่ายวัตถุสีสดๆ แล้วดูว่าการเก็บรายละเอียดของการไล่โทนสีว่าครบถ้วนหรือไม่ ถ้ากล้องที่ทำได้ไม่ดี การไล่โทนสีจะไม่ดี คือสีจะเป็นสีปื้นๆ ไม่มีการไล่โทนสีให้เห็น เพราะไม่สามารถเก็บรายละเอียดของสีได้

ในรูปนี้ให้ดูสีของดอกไม้ การไล่โทนสี จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ชัดเจน สีของดอกไม้มีมิติการไล่โทนสีให้เห็น แต่ของ iPhone 7 Plus จะเป็นปื้นๆ ไม่ค่อยมีการไล่โทนสีให้เห็นในหลายๆส่วนของดอกไม้ ส่วน Note 8 ยังทำได้ไม่ดีเท่ากับ iPhone 8 Plus แต่ก็ยังดีกว่า iPhone 7 Plus เพราะยังเห็นแยกใบไม้แต่ละใบได้อยู่ เพียงแต่การไล่โทนสียังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะหลายๆส่วนของดอกไม้กลายเป็นเหมือนสีวาดน้ำมันไปเลย แต่ก็ยังสู้ Note 8 ไม่ได้ เพราะ Note 8 ยังมีการเก็บรายละเอียดการไล่โทนสีได้ดีที่สุด

*ขอแก้ไขเนื่องจากตอนให้คะแนนหัวข้อนี้ได้ดูบนจอ Notebook Dell XPS 13 แล้วมองเห็นเป็นคนละแบบ พอได้มาเช็คกับจอที่ Calibrated แล้ว ให้ผลเป็นอีกอย่างครับ

2. สภาพแสงในอาคาร

ในเรื่องของรายละเอียดของภาพในสภาพแสงนี้ก็จะไม่เห็นความต่างมากนัก เราจะไปเน้นกันที่เรื่องของ White Balance, dynamic range แล้วก็ noise ที่เริ่มจะมีให้เห็นบ้าง ในเรื่องของ White Balance ในรูปที่ 5 จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ชัดเจน แต่ว่ายังสู้ Note 8 ไม่ได้ และดูการ Balance ของแสงในอาคารและส่วนกลางแจ้ง ที่ Note 8 ทำได้ดีมาก ในรูปนี้ทั้งสามตัวตัดสินใจใช้โหมด HDR (ตั้ง HDR Auto ไว้ทั้งหมด) แต่ว่าภาพจาก iPhone 7 Plus และ iPhone 8 Plus พยายามดึงรายละเอียดในส่วนกลางแจ้งกลับมามากจะเกินธรรมชาติไป แต่ Note 8 ดึงกลับมาได้พอดี ยังดูรายละเอียดแสงครบและยังธรรมชาติมากกว่า

ทีนี้มาดูเรื่อง Dynamic Range ให้ดูรูปที่ 7 โดยให้ดูเม็ดข้าวในถ้วยหน้าสุด จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus นิดหน่อย แต่ว่า Note 8 ทำได้ดีที่สุด เก็บรายละเอียดข้าวได้ครบกว่า และเรื่องการไล่โทนสี ถ้าซูมดูรูปที่ 7 ไปที่หน้าเด็ก จะเห็นว่าการไล่โทนสีผิว iPhone 7 Plus ทำได้แย่ที่สุด จะเห็นสีผิวเป็นปื้นๆ โดยที่ iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ส่วน Note 8 ทำได้ดีที่สุด

 

3. สภาพแสงน้อย

รูปที่ 9 เป็นสภาพแสงที่มีไฟในห้องที่ไม่สว่างมากนัก ให้สังเกต White Balance กับเครื่องมือทางด้านซ้าย และ Dynamic Range บนแป้น Keyboard ที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จะเห็นว่า iPhone 8 Plus เก็บรายละเอียด Dynamic Range ได้ดีกว่า iPhone 7 Plus แต่ของ Note 8 ทำได้ดีที่สุด โดยที่รายละเอียดบนแป้น Keyboard ยังเห็นได้ครบทุกจุด และรายละเอียดบนแผงทางด้ายซ้ายมือก็เก็บได้ครบเข่นกัน รวมไปถึง White Balance ก็ทำได้ดีกว่าทาง iPhone ทั้งสองตัว

ส่วนรูปที่ 10 และ 11 เป็นสภาพแสงที่น้อยสุดๆ ที่เรียกได้ว่าท้าทายกล้องทุกตัว เพราะแสงแบบนี้ กล้องโปรตัวละเป็นแสนก็ยังทำได้ไม่ดีมาก (แต่ก็ดีกว่าโทรศัพท์เยอะอยู่นะครับ) โดยรูปที่ 10 เป็นแสงน้อยกลางแจ้ง ก็จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ชัดเจน และยังให้ภาพที่สว่างกว่า Note 8 อยู่นิดๆ ส่วนภาพที่ 11 เป็นห้องปิดไฟ แค่มีแสงจากพัดลมคอมพิวเตอร์ดวงเล็กๆ ที่มีทั้งสีฟ้าและสีแดง ผสมอยู่ จะเห็นว่า White Balance ของ Note 8 ออกมาได้ธรรมชาติที่สุด ส่วน iPhone 8 Plus และ iPhone 7 Plus เพี้ยนไปคนละโทนสีกัน

 

4. โหมดหน้าชัดหลังเบลอ

โดยสิ่งที่จะพยายามทดสอบคือความเนียนในการเบลอฉากหลังให้ตัดกับฉากหน้า ว่าทำได้เนียนขนาดไหน โดยพยายามหาฉากหลักรกๆ และฉากหน้ารกๆ

จากรูปกระถางใบไม้ ให้สังเกตใบที่เลยมาด้านบนๆทางซ้าย ของ iPhone 8 Plus และ iPhone 7 Plus ทำให้มันละลายไปกับฉากหลังมากเกินจริง เมื่อเทียบกับของ Note 8 ส่วนเรื่อง Noise จะเห็นว่า iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ชัดเจน ตรงนี้ให้ดูที่กระถางสีขาวนะครับ ส่วน Note 8 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ส่วนเรื่องสี ของทาง Note 8 ทำได้ดีที่สุด เพราะรู้ว่าเราถ่ายกระถางใบไม้เป็นหลัก เลยเน้นให้แสงตรงส่วนที่เราเน้นให้สว่าง และ White Balance ของ iPhone 7 Plus ไปทางอมเขียวนิดๆ และ iPhone 8 Plus ไปทางอมแดงนิดๆ

 

และมาดูรูปบุคคลกันบ้าง รูปที่ 13 จะเห็นว่าทาง Note 8 ทำออกมาได้เนียนกว่าทาง iPhone ให้ดูตรงรอบเส้นผมที่ตัดกับฉากหลังรกๆนะครับ ส่วนเรื่องสี ของ iPhone 8 Plus ทำได้ดีกว่า iPhone 7 Plus ชัดเจน ส่วน Note 8 รูปนี้เร่งสีสดไปหน่อย

 

5. กล้องหน้า

โดยรวมแล้วสิ่งที่เห็นได้คือ iPhone 8 Plus สีจะสดใสขึ้นมากว่า iPhone 7 Plus ส่วน Note 8 มุมกล้องจะกว้างกว่า และสีมีการปรับแต่งให้ผิวดูขาวใสขึ้นทั้งๆที่ปิด Beauty Mode แล้ว แต่ก็ยังดีที่ไม่เกลี่ยหน้าจนเนียนผิดธรรมชาติ

 

มาถึงตอนให้คะแนนล่ะครับ มีดูกันเลยว่าแต่ละหัวใคร เครื่องไหนจะได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง

สภาพแสงกลางแจ้ง : ภาพจากทั้ง iPhone 8 Plus และ Note 8 ถือว่าใกล้เคียงกันมากๆ โดยที่ Note 8 สีออกสดนิดๆ ส่วน iPhone 8 Plus จืดนิดๆ แต่ Dynamic Range ของสี ทาง iPhone 8 Plus เฉือนชนะไปนิดนึง แล้ว Dynamic Range ของสี ทาง Note 8 ดีที่สุด ส่วน iPhone 7 Plus ทั้งรายละเอียดและ Dynamic Range ของสีสู้เค้าไม่ได้จริงๆ

  • iPhone 7 Plus – 8.2 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 9 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 8.8 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 8.8 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 9 คะแนน

 

สภาพแสงในอาคาร : แต่พอมาสภาพแสงนี้ Note 8 ทำได้ดีกว่าทั้ง White Balance, Dynamic Range ของแสง และ iPhone 7 Plus ก็ได้น้อยสุดไปตามระเบียบ

  • iPhone 7 Plus – 8.5 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 9 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 9.5 คะแนน

 

สภาพแสงน้อย : สภาพแสงนี้ก็คล้ายๆกับสภาพแสงในอาคาร ทั้งเรื่อง White Balance และ Dynamic Range แบบเดิม

  • iPhone 7 Plus – 8.5 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 9 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 9.5 คะแนน

 

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ : หัวข้อนี้ ทาง Note 8 ทำได้ดีกว่า เนียนระหว่างฉากหลังกับฉากหน้าได้ดีกว่า รวมไปถึงยังสามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้ในภายหลังอีกด้วย ส่วน iPhone 8 Plus ทำเรื่อง Noise และสีได้ดีกว่าตัว iPhone 7 Plus แบบเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ดีกว่าไป Note 8

  • iPhone 7 Plus – 8.5 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 9 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 9.5 คะแนน

 

กล้องหน้า : หัวข้อนี้ Note 8 ก็ยังทำได้ดีกว่า ได้มุมมองที่กว้างกว่า และสีออกมาเนียนกว่า ถึงจะเนียนเกินจริงไปหน่อยก็ตาม เลยเฉือนไปนิดนึง

  • iPhone 7 Plus – 8 คะแนน
  • iPhone 8 Plus – 8.4 คะแนน
  • Samsung Galaxy Note 8 – 8.5 คะแนน

 

สรุป

จะเห็นได้ว่า iPhone 8 Plus ทำกล้องได้ดีขึ้นกว่า iPhone 7 Plus ในทุกด้านของการทดสอบ แต่ว่า Note 8 ก็ทำการบ้านมาได้ดีมาก และทำได้ดีกว่า iPhone 8 Plus ในแทบจะทุกการทดสอบเช่นกัน ไว้รอดู iPhone X ที่ทาง Apple บอกว่าดีกว่า iPhone 8 Plus แล้วจะเอามาเทียบให้ดูกันอีกทีนะครับ

ไว้รอติดตามการทดสอบกล้องจัดเต็มประชุดใหญ่ประจำปี 2017 ได้ในช่วงปลายปีนะครับ