Counterpoint Research ได้ออกมาเปิดเผยรายงานสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยม และเรือธงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 โดย Apple ครองแชมป์อันดับหนึ่ง กวาดส่วนแบ่งไปกว่า 57% ส่วน Samsung อยู่ที่อันดับสอง และตามมาติดๆ โดย Huawei เป็นอันดับที่สาม
ส่วนแบ่งการตลาด หรือ Market Share ของสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยมที่ Counterpoint ได้รวบรวมมา อันดับหนึ่งเป็นแบรนด์ Apple ที่กวาดส่วนแบ่งไปมากถึง 57% ตามด้วยแบรนด์ Samsung เป็นอันดับสอง มียอดส่วนแบ่งที่ 19% ส่วน Huawei แม้ว่าจะโดนพิษสงการแบนจากอเมริกาทำให้ไม่สามารถใช้ GMS ได้ แต่ก็ยังสามารถคว้ายอดส่วนแบ่งจากทั่วโลกได้มากถึง 12% มาอยู่ที่อันดับสาม
และหากเจาะลึกลงรายละเอียดในแต่ละภูมิภาค จะเห็นว่า Apple มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นที่หนึ่งในเกือบทุกภูมิภาค จะมีก็เพียงแต่ในประเทศจีนเท่านั้น ที่ Huawei ยังคงครองตลาดในส่วนนี้เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
นอกจากนี้ Counterpoint ยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า iPhone 11 ถือเป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด รองลงมาเป็น iPhone 11 Pro Max และ iPhone 11 Pro แต่ที่น่าแปลกใจก็คืออันดับห้า กลับเป็น Huawei Mate 30 Pro 5G ทั้งๆ ที่มือถือรุ่นนี้ไม่มี GMS มาด้วย แต่ทั้งนี้ก็คาดว่ามือถือรุ่นดังกล่าว ขึ้นมาติด Top 5 ได้ น่าจะมาจากฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นในประเทศจีนนั่นเอง
ในภาพรวม ถือว่าตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมี่ยมในปี 2020 มียอดที่ต่ำลงมากหากเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ก็น่าจะมาจากการระบาดของ COVID-19 นั่นเอง แต่ที่น่าสนใจก็คือ มือถือช่วงราคา $600 – $799 กลับมียอดที่เติบโตขึ้นกว่า 47% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่หนึ่งของปี 2019
ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่ามือถือซีรีส์ iPhone 12 ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนนี้ จะกลายเป็นมือถือระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในปีถัดไปได้อีกหรือเปล่า
ที่มา: Counterpoint Research
กระจอกกกก ขายไม่ได้หรอก แพงงงงง ใครจะซื้ออออ
ส่วนใหญ่คนที่พูดแบบนี้มักจะไม่มีปัญญาซื้อ iPhone นะ หรือไม่คิดจะซื้ออยู่แล้ว แต่คิดในใจถ้ารวยถูกหวยก็จะซื้อ 555
อย่าลืมว่าคนต่างประเทศรายได้เขาเทียบกับราคา iPhone มันไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาแล้วพัฒนาเล่าแบบไทย ซึ่งดู GDP ต่อหัวแล้วต้องทำงานทั้งเดือนถึงจะซื้อได้ แต่ถ้าประเทศที่เจริญแล้วอาจจะทำงานแค่อาทิตย์เดียว
เป็นเบอร์ 1 ใน segment ตลาด ที่หดตัว >40% ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี เท่าไร
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ต้องออก Iphone se ก็ได้ครับ เพื่อเข้าไป มีส่วนแบ่งส่วนตลาด ในส่วนที่กำลังเติบโต