iPhone 14 Series ที่มากับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Crash Detection ซึ่งระบบจะโทรไปหาตำรวจแบบอัตโนมัติ หากมันตรวจจับถึงแรงกระแทกที่เกิดจากรถชนได้ จริง ๆ แล้วมันก็ดูเป็นฟีเจอร์ที่ดีเพราะอาจช่วยชีวิตใครได้หลายคนอุบัติเหตุรถชน…แต่ก็ไม่วายเกิดเป็นเหตุการณ์โอละพ่อขึ้นมา เพราะมีรายงานว่าระบบ Crash Detection คอยโทรแจ้งตำรวจอยู่เรื่อย ๆ ว่ามีเหตุรถชนเกิดขึ้น แต่จริง ๆ แล้วเป็นแค่ผู้ใช้ iPhone 14 กำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่เท่านั้น

ระบบ Crash Detection จะใช้เซนเซอร์ Gyroscopic และ High-G Accelerometer ในการตรวจจับแรงกระแทกที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุรถชน จากนั้นระบบจะโทรไปแจ้งเตือนหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเช่น ตำรวจ หรือรถพยาบาล เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ ณ ตำแหน่งของเครื่อง หากเจ้าของ iPhone 14 ไม่ได้ยกเลิกการโทรภายใน 20 วินาที

และจากรายงานล่าสุดในสหรัฐอเมริกา บอกว่าทางกรมตำรวจ Warren County ในรัฐเพนซิลเวเนียได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินจาก iPhone 14 ถึง 6 ครั้งว่ามีรถชนกัน แต่เมื่อตำรวจไปถึงตำแหน่งที่ได้รับการแจ้งมา กลับกลายเป็นว่ามันคือที่ตั้งของสวนสนุก King Island ที่มีรถไฟเหาะอยู่ในนั้น

ซึ่งมีเจ้าของ iPhone 14 พกเครื่องขึ้นไปบนรถไฟเหาะด้วย จนระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ เข้าใจผิดว่าเกิดรถชนแล้วโทรหาตำรวจ ซึ่งเจ้าของก็คงไม่รู้ตัวว่าฟีเจอร์ Crash Detection เริ่มทำงาน เลยไม่ได้กดยกเลิกการโทรแจ้งเหตุนั่นเอง

คาดว่าหลังจากที่ iPhone 14 วางขายมา น่าจะมีเหตุการณ์ที่ระบบ Crash Detection เข้าใจผิดแบบนี้จนเหล่าตำรวจได้ปวดหัวกันอยู่บ่อย ๆ (และก็มีบางเหตุการณ์ที่ระบบตรวจจับไม่ได้ว่ารถโดนชนด้วย) ซึ่งหากว่าใครที่พก iPhone 14 Series แล้วจะไปเที่ยวสวนสนุกแล้วจะเล่นรถไฟเหาะ รถบั๊ม โกคาร์ท หรืออะไรประเภทนี้ ก็แนะนำว่าให้ปิดฟีเจอร์นี้ด้วยการเข้าไปที่ Settings > Emergency SOS แล้วปิด Call After Severe Crash ซะก่อนนะครับ

 

ที่มา : TheVerge