วันนี้ (28 ม.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เสนอแก้ไขพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่จะให้ธนาคาร เครือข่ายมือถือ มีส่วนรับผิดชอบ หากประชาชนโดนหลอก
โดยเป็นการเพิ่มแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖ ที่ตราขึ้นเพื่อคุ้มครองประชาชนผู้สุจริต ซึ่งถูกหลอกลวงจนสูญเสียไปซึ่งทรัพย์สิน โดยผ่านโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังขาดอำนาจหน้าที่ และบทลงโทษในหลายประเด็น จึงมีการขอเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติม
โดย พ.ร.ก. ฉบับแก้ไขใหม่นี้ มีสาระสำคัญในการเสนอการแก้ไขเพิ่มเติม มีดังนี้
- เพิ่มอำนาจการดำเนินการกับแพลตฟอร์ม P2P ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
- เพิ่มหน้าที่ให้ telco provider ต้องระงับซิมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
- เพิ่มหน้าที่การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีม้าของธนาคารต่าง ๆ ไปยัง ปปง. เพื่อตรวจสอบและคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วมากขึ้น
- เพิ่มบทลงโทษแพลตฟอร์ม P2P รวมถึงธนาคารที่ไม่ปฏิเสธการเปิดบัญชีของมิจฉาชีพ
- เพิ่มบทลงโทษผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- เพิ่มบทลงโทษให้สถาบันทางการเงิน เครือข่ายมือถือ สื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
และหลัง ครม.เห็นชอบ และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่าประกาศบังคับใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้
ที่มา thaipbs
Comment