กลายเป็นแก็ตเจ็ตที่หลายคนสนใจและต้องการมีซักตัวเพื่อความอุ่นใจไปในทันที กับ กล้องติดหน้ารถ หรือ Dashcam เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพสิน แต่พอไปลองๆ เช็คราคาตามเว็๋บ หรือจะไปเดินหาดูมันก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด เลือกไม่ถูก แถมราคาก็มีตั้งแต่ไม่ 200-300 บาท! นี่มันถูกกว่าเคสหรือฟิล์มมือถืออีกนะนั่น แต่พอลองไล่ๆ ไปดูก็จะเริ่มเห็นรุ่นแพงๆ หลักพันก็มี แถมยบังแพงขึ้นไปได้ถึงระดับ 4-5 พันบาท แล้วราคาที่แตกต่างกันมากขนาดนี้มันมีผลอะไรกับตัวกล้องติดหน้ารถมากน้อยแค่ไหน ความคมชัดและฟีเจอร์อื่นๆ เป็นอย่างไร เราลองมาดูการรีวิวกล้องติดหน้ารถบางส่วนที่ได้ไปลองซื้อมาทดสอบกันครับ
{{UPDATED}} เดี๋ยวจะมีทดสอบเพิ่มรุ่นยอดนิดยมที่หลายๆคนร้องขอเพิ่มเติมนะครับ และทุกตัวที่เราซื้อมาทดสอบเดี๋ยวปล่อยออกหมดแน่นอนครับที่เว็บขายสินค้า IT มือสอง rakardee.com ของพวกเราเองนะ ^^
เนื่องจากเราไม่ได้เก๋า และไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธ แต่ต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นกล้องติดหน้ารถจึงอาจจะเป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคผู้คนหัวร้อนกันง่ายเหลือเกิน และด้วยราคาที่หลากหลายของมันน่าจะทำให้หลายๆ คน เลือกไม่ถูก เราเลยขอจัดเอา 6-7 รุ่นที่พอหาซื้อได้จา่กในงาน Mobile Expo มาทดสอบกันครับ
*เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนมาแล้วส่วนใหญ่อยากเห็นภาพในเวลากลางคืน เราเลยขอทดสอบเฉพาะคลิปตอนกลางคืนก่อนนะครับ โดยทุกรุ่นนั้นบันทึกภาพมาที่ Full HD ไม่ได้ปรับตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติมเลย EV เป็น 0 ทุกรุ่นนะครับ เพื่อความเท่าเทียมกัน
1. DTECH รุ่น TCM033 ราคา 299 บาท (clearance sale จากบูธ Dtech ในงาน TME)
ในกล่องจะประกอบด้วยตัวกล้อง สายชาร์จ ตัวเสียบกับที่จุดบุหรี่ของรถ และขาจุ๊บติดกระจก พร้อมสเปคตามนี้ครับ
สเปค และ คุณสมบัติ
สำหรับราคาเต็มก่อนที่จะลดอยู่ที่ประมาณ 1,490 – 1,590 บาท (หาซื้อได้ใน Lazada) ด้านหน้าจะมีแค่เลนส์กล้อง กับ ตัวไฟแฟลชเท่านั้น วัสดุของตัวเครื่องทำมาจากพลาสติก เท่าที่หาข้อมูลรุ่นนี้เหมือนจะมีแค่สีทองสีเดียวครับ
ด้านตัวเครื่องฝั่งขวามีช่องเสียบเชื่อมต่อกับทีวี , ช่องใส่ SD Card และ ช่องต่อกับหัว Mini USB เพื่อชาร์จไฟ
ถ้าใครได้ดูใน Youtube Live จะเห็นว่าตอนเสียบเมมการ์ดไปแล้วมันไม่อ่าน กลับไปบ้านเลยลองหาเมมที่ความจำน้อยกว่าอันที่ลองใส่ไป คือ 8 GB ปรากฏว่ามันก็ไม่เข้าครับ จำต้องโบกมือลาไม่ได้เอาไปทดสอบติดหน้ารถด้วนย ถ่ายภาพมาได้เพียงหนึ่งภาพเพราะไม่มีพื้นที่ให้เก็บข้อมูล
ตัวอย่างภาพจากคลิปที่ไปลองถ่าย : ไม่มี เสียบเมมไหนๆ ก็ไม่อ่าน
สรุป เนื่องจากเป็นสินค้า clearance sale และเราไม่ได้ทดสอบก่อนซื้อ เลยไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันโอเคหรือไม่ แต่ส่วนนึงที่บอกได้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ระบุลงบนกล่องนั้นไม่ถูกต้องตรงเป๊ะ ที่บอกว่าเลนส์กว้าง 170 องศานี่ไม่ใช่แน่ๆ เพราะกล้องตัวอื่นๆ 150 องศายังได้มุมมองกว้างกว่านีั้อีก
บทเรียนที่ได้ สินค้า clearance ควรทดสอบก่อนซื้อ / สินค้าราคาถูกๆ จะเขียนระบุอะไรโม้ๆ ลงไปในสเปคก็ได้
2. Blackman รุ่น F18 ราคา 1,390 บาท (เค้าลดให้เหลือ 1,350 บาท)
Blackman ตัวนี้ ซื้อมาจากร้านขายของพวกอุปกรณ์โทรศัพท์ในบริเวณฮอลของงาน TME ครั้ง ไม่ได้มีช็อปเป็นของแบรนด์โดยเฉพาะ ก็คือร้านทั่วๆไปนี่แหละ ในตัวกล่องจะประกอบด้วย กล้อง , สายชาร์จ , ตัวเสียบกับรถ และ ที่ติดกระจก เหมือนๆกับเจ้าแรก
สเปค และ คุณสมบัติ
สำหรับด้านหน้าจะมีตัวเลนส์กล้อง และไฟ LED แฟลชครับ แต่พอลองเปิดแฟลชแล้ว มันไม่ติด อันนี้ซื้อของราคาเต็มนะ ไม่ได้ลดราคา หรือ โล๊ะสต็อก เลยงงนิดหน่อยทำไมมันไม่ติดอะ 55555
ด้านข้าวจะมีช่องใส่ SD Card แล้ว ปุ่มให้กดเลือกทิศทางเมนู
สำหรับอีกด้านก็จะเป็นปุ่มเปิด/ปิด และปุ่มฟังชั่นส์อื่นๆ
ทดลองเปิดกล้องดูสภาพแสงในห้องก่อน ที่เห็นเป็นจอสีฟ้าๆ นี่อาจจะเป็นที่ตัวหน้าจอหรือมุมมองครับ ลองไปดูภาพจริงกันดีกว่า
ตัวอย่างภาพจากคลิปที่ไปลองถ่าย
สี่แยกไฟแดง
วิ่งเข้าป้ายรถไฟฟ้า ลองดูตัวหนังสือที่ป้าย และแสงไฟจากใต้สถานี
เมื่อมีคนลงไปเดินผ่านไปผ่านมา
กลับดึก อยู่ก็ลึกในซอยเปลี่ยว
มีคนเดินผ่านมาอีกแล้ว > <
สรุป ในช่วงราคาหลัก 1000 บาท ถือว่าพอใช้ได้ แม้ในที่มืดๆ ก็ยังพอมองเห็น แต่เซนเซอร์ยังดูเบลอๆ หน่อย
บทเรียนที่ได้ ของถูกๆ ก็มีที่พอใช้งานได้เหมือนกันนะ
3. Lumira รุ่น LCDV 004 ราคา 1,390 บาท (เค้าลดให้เหลือ 1,350 บาท)
ในตัวกล่องก็ให้มาเหมือนๆกับสองเจ้าด้านแรกครับ กล้อง สายชาร์จ ตัวต่อกับรถ และ ตัวติดกระจก เว้นแต่ตัวนี้มีกล้องหลังมาให้ด้วย (แอบลองกล้องหลังสว่างกว่างกล้องหน้า แต่ว่าไม่ได้เอากล้องหลังไปทดสอบด้วยนะ เอาไปแต่กล้องหน้า)
สเปค และ คุณสมบัติ
- มุมมองภาพกว้าง170 องศา
- บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P
- หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว
- รองรับไฟล์ MJPEG/avi
- Video Resolution: 1920x1080P/1280x720P
- รองรับ Micro SD ความจุสูงสุด 32GB
- มี HDMI
- บันทึกได้อัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ และโหมดบันทึกต่อเนื่อง (Cycle Recording)
- มีไมโครโฟน
- ใช้แบตเตอรี่จากอุปกรณ์ชาร์จไฟรถยนต์ พอร์ต USB 2.0
- ใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท
- Division date: Support
- Vector Media: Support Built-in memory (total amount : 1024MB)
- Camera mode: 1200M
- Photo Format: JPG
- Memory Card: TF(maximum support 32 GB)
- Microphone: Support
- Built-in Stereo : Support
- IR : Support
- Video Format: PAL/NTSC
- Current Frequency : 50Hz/60Hz
- USB Fuctionality: 1.USB-Disk 2.Power
- Power Interface; 5V 1A
- Battery: Built-in 200mAh
- shot: A+ grade High resolution 170 degree wide-angle
ตัวเครื่องด้านหน้า มีแค่เลนส์กล้องเท่านั้นไม่มีแฟลชเหมือนกับสองรุ่นด้านบนครับ
ด้านข้างมีช่องใส่ SD Card และ ปุ่มควบคุมเมนู
ในส่วนของการทดลองเปิดกล้องในที่แสงเกือบน้อยนั้น ดูมีนอยซ์เยอะเหมือนกันแฮะ ลองไปดูภาพจริงกันเลยดีกว่า
สรุป ถือเป็นรุ่นสุดคุ้ม ได้ทั้งกล้องหน้าหลัง แต่ภาพติดเหลืองเพราะไม่มี Auto White Balance (ต้องปรับเอาเอง) ซึ่งก็พอมีโหมดให้ปรับได้เยอะเหมือนกัน
บทเรียนที่ได้ น่าจะนับเป็นหนึ่งในรุ่นของดีราคาประหยัดได้เหมือนกัน
4.Remax รุ่น CX-01 ราคา 1,390 บาท
สำหรับทุกตัวที่ซื้อมานั้น แพ็คเกจกล่องนี้ดูเข้าท่าดีครับ 55555 จะเห็นว่าในไลฟ์เราแอบมีความหวังกับ Remax ตัวนี้อยู่บ้าง
ภายในกล่องก็จะมีของให้มาเหมือนๆกัน กล้อง , สายชาร์ , สายเชื่อมต่อกับรถ และ ตัวจุ๊บกระจก
สเปค และ คุณสมบัติ
- จอแสดงผล TFT LCD ขนาด 2.7 นิ้ว เลนส์กว้าง 170 องศา
- สามารถซูมภาพ ได้ 4 เท่า 4X Zoom Digital
- บันทึกวีดีโอความละเอียด : (FHD) 1920 x 1080, (HD) 1280 x 720,800 x 480 และ 640 x 480
- ชุดเลนส์แปดชิ้น เพิ่มความคมชัดให้ วีดิโอของคุณ
- ฟังก์ชั่น Motion Detection Function บันทึกภาพทันทีเมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้อง
- ระบบการบันทึกข้อมูลฉุกเฉิน (G-Sensor) กรณีเกิดอุบัติเหตุ
- มีไฟอินฟราเรด 1 ดวงใหญ่ สำหรับบันทึกวีดีโอในเวลากลางคืน
- บันทึกคมชัดแม้ในสภาวะแสงน้อย ด้วยช่องรับแสง IR คุณภาพสูง
- สามารถตั้งรอบเวลาบันทึกวีดีโอได้ (Loop Record)
- บันทึกภาพและเสียงพร้อมกันด้วยไมโครโฟนบิวท์อิน
- รองรับหน่วยความจำ Micro SD Class 6 ขึ้นไป สูงสุด 32 GB
- มีช่อง HDMI และ AV Out สามารถเชื่อมต่อภาพออกหน้าจอ TV ได้
- Power Input: DC 5V (USB)
- กะทัดรัดมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายด้วยตัวยึดกระจก ปรับมุมได้ไม่เปลืองพื้นที่
- ขนาดโดยประมาณ 6 X 12 X 15 ซม.
- น้ำหนัก 300 กรัม
ตัวเครื่องด้านหน้ามีตัวเลนส์ และ ไฟแฟลช
รุ่นนี้ปุ่มควบคุม จะอยู่ข้างหน้าจอแสดงผล ซึ่งพอลองเปิดกล้องในที่แสงน้อยแล้วไม่เป็นดังคาดหวังจากในตอนที่ไลฟ์ เพราะหน้าจอมืดสุดๆ ว่าแล้วเราไปลองดูภาพจริงกันดีกว่า
สรุป ผิดหว้งอย่างแรง ภาพมืดสุดๆ แทบมองอะไรไม่เห็นเลย ขนาดไปจอดในที่มืดยังไม่เห็นแม้แต่ไฟหน้ารถ
บทเรียนที่ได้ ของมียี่ห้อไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป
พอขยับมาที่ช่วงราคา 4-5 พันบาท อย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือวัสดุดีขึ้น ไม่ก๊องแก๊ง คือทำออกมาดูดีน่าใช้งานมาก แถม UI การตั้งค่าต่างๆ ก็ดูดึพิถีพิถันกว่าครับ นอกจากนั้นฟีเจอร์อื่นๆ ที่เราน่าจะต้องการจากกล้องติดหน้ารถที่แพงขึ้นมาขนาดนี้คือเรื่องความคมชัดของภาพ มี GPS มีระบบเซนเซอร์ต่างๆ เช่นการแจ้งเตือนเมือ่เราหลับในแล้วมีการเปลี่ยนเลนหรือเร่งความเร็วกระทันหัน เป็นต้น
5. Midland รุ่น Street Guardian ราคา 3,999 บาท
สำหรับในกล่องตัวนี้นกจากจะมีกล้อง , สายชาร์จ , สายต่อกับรถ , ตัวจุ๊บกระจกแล้ว ยังมีตัวล็อคสายให้ด้วยครับ
สเปค
- ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
- เลนส์มุมกว้าง 140 องศา
- ถ่ายวิดีโอแบบวนลูปทับไฟล์เก่าเมื่อหน่วยความจำเต็ม
- มี Motion detection อัดอัตโนมัติเมื่อมีความเคลื่อนไหว
- มีระบบป้องกันสั่น Image Stabilizer
- ฟีเจอร์ Black box
- มีพอร์ท HDMI
สำหรับตัวเครื่อง Midland จะแตกต่างจากตัวอื่นๆตรงรูปทรง เพราะตัวอื่นส่วนใหญ่จะเป็นทรงสี่เหลี่ยทมผืนผ้า แต่ตัวนี้จะเหลี่ยมเกือบๆลูกเต๋า จตุรัส เป็นตัวเล้กๆกระทัดรัดดีครับ
ด้านตัวเครื่องก็ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่าง มีช่องให้เสียบสาย และ ปุ่มรีสตาร์ท
มาลองดูภาพที่ได้จากกล้อง Midland ตัวนี้กันครับ
สรุป ชอบวัสดุและงานประกอบ มันโอเคมาก ภาพก็คมชัดมากกว่ารุ่นหลักพัน แต่เรื่องการเก็บแสงตอนกลางคืนยังทำได้ไม่ดี มืดไปหน่อย
บทเรียนที่ได้ ของแพงก็ยังต้องเลือกเหมือนกัน ไม่ใช่จะหยิบรุ่นไหนก็ได้
6. Hp รุ่น f890g ราคา 4,900 บาท
เริ่มจากของแถมในกล่องก็มีมาให้เท่าๆกันเช่นเดิมครับ ตัวกล้อง , สายชาร์จ(ไม่ได้ถ่ายมา) , ตัวเชื่อมกับรถ และ ที่ยึดกระจก
สเปค
- หน้าจอ : 3.0 นิ้ว
- จอLCD Color Panel(TFT), 16.7M Pixels(960×240)
- Sensor Type : OV4689, 4.1MP, 1/3 inch CMOS
- Effective Pixels : 2688 (H) x 1520 (V) pixels
- Video Resolutions : QHD: 2560 x 1440@ 30 fps /FHD: 1920 x 1080@ 30fps HDR /FHD: 1920 x 1080@ 60fps /HD 1280 x 720@ 120fps
- Video Format MOV format : H.264+ADPCM codec
- Image Resolution : 4 MP, 2688 (H) x 1520 (V) pixels Still Image Format DCF (JPEG, Exif: 2.2 )
ด้านหน้าเป็นเลนส์กล้อง และ ลำโพง ไม่มีไฟแฟลช
ปุ่มควบคุมของรุ่นนี้จะอยู่ด้านล่างใต้ตัวเครื่องครับ
การทดสอบเปิดกล้องในที่แสงเกือบน้อยและตัวอย่างภาพจากวิดีโอที่บันทีก
สรุป เป็นรุ่นที่กล้องกลางคืนสว่างที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ แถมรายละเอียดและความคมชัดด็ดูดีมากๆ (มีโหมด HDR ที่เปิดแล้วสว่างกว่านี้อีก แต่จะมีนอยซ์เยอะขึ้น) แต่ก็นอยส์กระจุย มี GPS ระบุพิกัดรถ และความเร็วในการขับขี่
บทเรียนที่ได้ จ่ายแพงกว่าแต่ครบ ก็น่าจะจบได้ในครั้งเดียว
7.Garmin รุ่น GDR E350 ราคา 6,990 บาท
ตัวนี้เป็นตัวที่ใช้งานอยู่แล้วเลยเอามาร่วมแจมด้วย เป็นรุ่นที่อยู๋ในระดับราคาค่อนข้างสูงตัวสุดท้ายที่เราเอามาลองเทสครับ คือตัวนี้ผมมีติดรถอยู่แล้ว เลยไม่ได้เอาไปแกะกล่องพร้อมกัน
สเปค และ คุณสมบัติ
- ขนาดเครื่อง W x H x D: 9.43 ซม x 4.85 ซม x 3.89 ซม
- น้ำหนัก: 112.7 ก.
- GPS: ใช่
- หน้าจอ: 3.0” TFT LCD
- อัตราเฟรม: 30 FPS
- การตรวจจับเหตุการณ์ (G-Sensor)
- อายุแบตเตอรี่: 30 นาที
- กล้อง: f/2.0
โหมดการบันทึกวีดีโอ
- บันทึกต่อเนื่อง: เมื่อการ์ดเต็มแล้ว ไฟล์เก่าจะถูกเขียนทับ (ยกเว้นถูกป้องกันไว้ล่วงหน้า)
- 1080p (1920 × 1080 พิกเซล) ที่ 30fps, บันทึกได้ประมาณ 1.86 ชั่วโมงในการ์ด 8GB micro SD (256MB สำหรับแต่ละไฟล์วิดีโอ)
- 720p (1280 × 720 พิกเซล) ที่ 30fps, บันทึกได้ประมาณ 4.13 ชั่วโมงในการ์ด 8GB micro SD (256MB สำหรับแต่ละไฟล์วิดีโอ)
- WVGA (848 × 480 พิกเซล) ที่ 30fps, บันทึกได้ประมาณ 9 ชั่วโมงในการ์ด 8GB micro SD (256MB สำหรับแต่ละไฟล์วิดีโอ)
เพราะฉะนั้นคงไม่ขออธิบายอะไรมาก ไปดูภาพกันหน่อยดีกว่า ว่าถ้าแพงขนาดนี้แล้วมันดีกว่ารุ่นอื่นๆ ยังไง คมชัดกว่าไหม
สรุป ภาพใช้ได้ สว่างดี สีตรงกับแสงจริง แม้ยังสว่างไม่สู้ HP แต่ตัวภาพนั้นเนียนตากว่า ไม่มีนอยส์เป็นจุดๆ เม็ดๆ มี GPS ระบุพิกัดของเรา และความเร็วในการขับขี่
บทเรียนที่ได้ จ่ายแพงก็ควรจะได้ในสิ่งที่เราจ่ายไป
ความคมชัดและความสว่างของกล้องติดหน้ารถทั้ง 7 รุ่น
สำหรับกล้องรุ่นที่จะมีการทดสอบในครั้งต่อไปได้แก่
- Morestech G1W
- Yi dashcam
- Transcend drivePro 100
- T626 SE
ซึ่งเป็นตัวที่หลายๆคนเรียกร้องกันมากเหลือเกิน เดี๋ยวมารอติดตามกันนะ ^^
Blackman F18 ภาพดี ราคาสบายกระเป๋า ถือว่าคุ้ม
กามินชนะเลิศ
แต่พวกรุ่นกลางๆ ดีไม่ดี ให้ถ่ายที่แสงน้อยแล้วดูว่ากระตุกมั้ย
บางตัวเปิดชัตเตอร์นาน มันกระตุกเห็นๆ
พวกรุ่นที่เห็นมี LED ด้านหน้าน่าจะเป็นหลอด infrared สำหรับช่วยในเวลากลางคืน ไม่ใช่ไฟแฟลชถึงไม่เห็นมีแฟลชเวลาถ่าย เพราะถ้าเป็นแฟลชมันน่าจะสะท้อนกระจกหน้ารถเพราะกล้องติดอยู่หลังกระจก มันจะทำให้เก็บภาพอะไรไม่ได้เลย
ตอนนี้ผมใช้ Mi Dash ดีมาก ราคาสองพันกว่าบาท กลางคืนมืดๆภาพที่ได้ก็คมชัดเก็บรายละเอียดป้ายทะเบียนรถข้างหน้าได้แม้ว่าจะมี noise บ้างแต่ก็พอรับได้เพราะจุดประสงค์คือเอาไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้เอาความสวยงามมากนัก noise บ้างนิดหน่อยก็พอโอเค ทีสำคัญเก็บเลขทะเบียนรถได้อันนี้สำคัญกว่า
มีประโยชน์มากเลยครับ
ขอบคุณสำหรับบาทความดีๆครับ
ราคาหลักพัน ไม่มีตัวไหนสู้ YI Camera ได้เลย
เลนส์มุมกว้าง ตัวใหม่ 6 พันกว่า ถ่าย 4K หาข้อมูลดูครับ ใช้อยู่ดีมาก แถมมีแอปต่อกับกล้องได้เลย ดึงไฟล์วีดีโอ ก็ง่าย
YI DASH camera ใช้อยู่ ผมว่าคุ้มค่าคุ้มราคาครับ
รอบหน้าจะลอง Yi
ถ้าใครต้องการกล้องติดรถที่คุณภาพดีๆเลยและไม่เปลืองงบประมาณมากนัก ผมแนะนำให้ซื้อ Xiaomi YI DASH camera แค่ 2 พันบาทไปเลยคุ้มค่ากว่ามากครับ ลองดูรีวิวที่ผมเคยทำไว้ที่นี่ได้เลย
https://youtu.be/PX8cESQDbZk
ใช้อยุ่ Yi Dash ดีงามมาก ทนฝุดๆ ผมแปะไว้ตากแดดก้อยังโอเค
แนะนำ Gen1 เหมือนกัน เพราะได้ 165องศา Gen2 ได้ 130องศาผมไม่ชินเลยบ่องตรง
เห็นด้วยอีกเสียงครับ 🙂
ใช้G1Wมา3-4ปีแล้วครับ (อยากจะเปลี่ยนตัวแพงขึ้น)แต่ยังไม่แน่ใจรอดูรีวิว(อย่างใจจดใจจ่อ)ครับ