DeepSeek บริษัท AI ของจีน กำลังสร้างความวิตกกังวลให้หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ทำให้โมเดล AI และแอปฯ แชตบอทของ DeepSeek เริ่มถูกแบนโดยประเทศต่าง ๆ และหน่วยงานของรัฐมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะด้านความกังวลเกี่ยวกับจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย

บริษัทต่าง ๆ มากกว่า 100 บริษัท ก็เริ่มแบน DeepSeek แล้วเช่นกัน ซึ่งความกังวลที่ใหญ่ที่สุดคือการรั่วไหลของข้อมูลไปยังรัฐบาลจีน ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ DeepSeek บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศจีน ซึ่งตามกฎหมายในท้องถิ่นกำหนดให้องค์กรต่าง ๆ ต้องแบ่งปันข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเมื่อได้รับการร้องขอ

และนี่คือรายชื่อภูมิภาคและหน่วยงานที่ไม่สามารถใช้ DeepSeek ได้อีกต่อไป มีดังนี้:

อิตาลี

อิตาลี เป็นประเทศแรก ๆ ที่สั่งแบน DeepSeek การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของอิตาลี (DPA) ได้ทำการสอบสวนเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของ DeepSeek และการปฏิบัติตาม GDPR ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของสหภาพยุโรป

DPA ได้เริ่มดำเนินการสอบสวนเมื่อปลายเดือนมกราคม โดยเรียกร้องให้ DeepSeek ตอบคำถามเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการจัดเก็บข้อมูล สถานที่จัดเก็บข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลของผู้ใช้ภายใน 20 วัน ซึ่งทาง DeepSeek โต้แย้งว่าแอปฯ ของตนไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม DPA ของอิตาลีไม่เห็นด้วยและดำเนินการลบแอปของ DeepSeek ออกจากร้านค้าแอปฯ ของทั้ง Apple และ Google ในอิตาลีแล้ว

ไต้หวัน

ไต้หวันเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดำเนินการเด็ดขาดกับ DeepSeek โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ กระทรวงกิจการดิจิทัลประกาศว่า DeepSeek เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยข้อมูลของชาติ และห้ามไม่ให้ใช้ในหน่วยงานของรัฐ

แถลงการณ์ของกระทรวง เน้นย้ำถึงความเสี่ยงของการส่งข้อมูลข้ามพรมแดนและการรั่วไหลของข้อมูลสำหรับพนักงานภาครัฐและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่ใช้เทคโนโลยีของ DeepSeek คำสั่งแบนนี้ใช้กับพนักงานของหน่วยงานของรัฐ โรงเรียนของรัฐ และรัฐวิสาหกิจอย่างกว้างขวาง กระทรวงกิจการดิจิทัลระบุอย่างชัดเจนว่า DeepSeek เป็นผลิตภัณฑ์ของจีน และอ้างถึงข้อกังวลด้านความปลอดภัยของข้อมูลหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท

รัฐสภาสหรัฐอเมริกา

มีรายงานระบุว่าสำนักงานรัฐสภาสหรัฐได้รับคำเตือนไม่ให้ใช้เทคโนโลยี DeepSeek โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของสภาผู้แทนราษฎรได้ออกประกาศถึงสำนักงานรัฐสภา โดยระบุว่าเทคโนโลยี DeepSeek กำลัง ‘อยู่ระหว่างการพิจารณา’ ตามรายงานของ Axios

รายงานระบุว่า ผู้ก่อภัยคุกคามกำลังใช้ประโยชน์จาก DeepSeek เพื่อส่งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายและแพร่ระบาดไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ และเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ สภาผู้แทนราษฎรได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยมาใช้เพื่อจำกัดการทำงานของ DeepSeek บนอุปกรณ์ที่สภาผู้แทนราษฎรออกให้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการห้ามติดตั้งแอปพลิเคชัน DeepSeek บนสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ตที่เจ้าหน้าที่รัฐสภาใช้อย่างเป็นทางการ

รัฐเท็กซัส

ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส Greg Abbott ได้ออกคำสั่งแบนซอฟต์แวร์จาก DeepSeek และบริษัทจีนอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่รัฐบาลออกให้ภายในรัฐ ผู้ว่าการ Abbott กล่าวว่ารัฐเท็กซัสจะไม่อนุญาตให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนแทรกซึมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัฐผ่าน AI ที่รวบรวมข้อมูลและแอปโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐในการปกป้องตนเองจากผู้กระทำผิดต่างชาติที่เป็นศัตรูด้วย

กองทัพเรือสหรัฐฯ

กองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่เริ่มดำเนินการเช่นกัน โดยสั่งให้บุคลากรของตนไม่ใช้แอปฯ หรือเทคโนโลยี DeepSeek ตามรายงานของ CNBC ในช่วงปลายเดือนมกราคม กองทัพเรือได้ส่งอีเมลห้ามไม่ให้บุคลากรใช้ผลิตภัณฑ์ DeepSeek ‘ในทุกกรณี’ เนื่องจาก อาจเกิดความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของเทคโนโลยี

โฆษกของกองทัพเรือชี้แจงว่า อีเมลดังกล่าวอ้างถึงนโยบายปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่สารสนเทศระดับสูงของกองทัพเรือ และอิงตามคำแนะนำจากผู้จัดการกำลังคนด้านไซเบอร์ของกองทัพเรือ โดยระบุว่าสมาชิกไม่ควรใช้ AI ของ DeepSeek สำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับงานหรือการใช้งานส่วนตัว และควรงดดาวน์โหลด ติดตั้ง หรือใช้ DeepSeek

Pentagon

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ Pentagon ได้ปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยี DeepSeek แม้ว่า Bloomberg จะรายงานว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนได้เข้าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวแล้วก็ตาม สำนักงานระบบสารสนเทศกลาโหม ซึ่งรับผิดชอบเครือข่ายไอทีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้สั่งแบนเว็บไซต์ของ DeepSeek เมื่อเดือนมกราคม

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมมีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชันของ DeepSeek โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตาม Bloomberg ระบุว่าในขณะที่การแบนดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมยังคงสามารถเข้าถึง AI ของ DeepSeek ได้ผ่าน Ask Sage ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตและไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของจีนโดยตรง

NASA

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า NASA ได้เพิ่มรายชื่อองค์กรที่สั่งแบน DeepSeek มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจากบันทึกของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้าน AI ของหน่วยงานได้แจ้งว่า เซิร์ฟเวอร์ของ DeepSeek นั้นดำเนินการอยู่นอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ

บันทึกดังกล่าวระบุอย่างชัดเจนว่า DeepSeek ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับข้อมูลและสารสนเทศของ NASA หรือบนอุปกรณ์และเครือข่ายที่ออกโดยรัฐบาล โดยพนักงานถูกแบนไม่ให้เข้าถึง DeepSeek ผ่านอุปกรณ์ของ NASA และการเชื่อมต่อเครือข่ายที่หน่วยงานใช้

ที่มา techcrunch