Qualcomm พาเราบินมาไต้หวัน เพื่อให้ได้สัมผัสโน้ตบุ๊กยุคใหม่ ที่ใช้ซีพียูประมวลผล Snapdragon X Series สถานที่โชว์เป็นห้องเล็ก ๆ ที่รวบรวมโน้ตบุ๊กจากหลายยี่ห้อที่จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ Qualcomm ชูโรงเรื่องความสามารถด้านการประมวลผล AI ซึ่งหลายฟีเจอร์เป็นตัวที่ถูกพูดถึงไปบนเวที Qualcomm Keynote ที่งาน Computex 2024 ทำให้เราได้มาสัมผัสใกล้ชิดกับของจริงกันบ้าง

Copilot+

คอมระบบ Windows จะมาพร้อมตัว Copilot+ หรือพูดง่าย ๆ คือฝังอยู่ในระบบเลย เปิดคอมมาจะเจอฟีเจอร์ให้ใช้งานทันที สามารถกดเรียกใช้ได้จากปุ่ม Copilot ที่มีอยู่บนคีย์บอร์ด หรือคลิกเรียกเอาจาก Taskbar ก็ได้

  • Copilot for Microsoft 365: แอปทำงานของไมโครซอฟท์ จะมีตัวช่วยรวบรวมและประมวลผลข้อมูล
  • Recall: เป็นการใช้ระบบแคปภาพจออัตโนมัติ เพื่อนำมาแสดงผลเวลาเราต้องการย้อนดูกิจกรรมที่ทำเอาไว้
  • Cocreator: วาดโครงรูปแล้วให้ AI แปลงออกมาเป็นภาพที่สวยงามตามแบบที่ต้องการ
  • Windows Studio Effect: ปรับแต่งวิดีโอคอลของเราแบบ Real-time เช่น เบลอ ลบ เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเติมฟิลเตอร์แต่งหน้าต่าง ๆ
  • Live Captions: แปลงเสียงเป็นตัวหนังสือขึ้นให้อ่านทันที

AI ในงานตัดต่อภาพและวิดีโอ

ในโปรแกรมตัดต่อ จะมีพวกตัวช่วยตัดวัตถุ ตรวจจับพื้นหลัง หากกดใช้ฟีเจอร์นี้ คอมก็จะใช้ตัว NPU ประมวลผล ทำให้โปรแกรมทำงานได้ไวกว่าคอมที่ใช้ CPU ในการประมวล ในงานมีโปรแกรมอย่าง Davinci Resolve และ VEGAS สองโปรแกรมตัดวิดีโอยอดฮิตมาโชว์ประสิทธิภาพและความเร็วที่ดีกว่า

AI แยกเสียงสำหรับดีเจ

มีเดโมโปรแกรมสำหรับดีเจ ‘djay Pro’ ที่พอเราใส่ไฟล์เพลงเข้าไปแล้ว มันสามารถแยก แทรก เสียงร้อง เสียงกลอง หรือเครื่องดนตรีอื่น ๆ ออกมาให้สามารถนำไปใช้รีมิกซ์ในการแสดงสดได้

AI ตรวจจับภาพ

AI ตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกาย ลักษณะท่าทาง และใบหน้า สามารถนำมาต่อยอดเป็นฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ เช่น ฟีเจอร์ปิดไมค์พูด หากหน้าเราไม่ได้หันมองหน้าจออยู่ และการสั่งการคอมพิวเตอร์/โปรแกรมด้วยมือ สิ่งเหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการสามารถใช้งานคอมได้มากขึ้น เป็นการส่งเสริมในด้าน Accessibility

ประสบการณ์การเล่นเกม

ในด้านประสบการณ์การเล่นเกม เค้าเปิดให้เล่นเกมดัง อย่าง Balder’s Gate 3, Control, Metro Exodus, ถ้าเป็นเกมใหม่ ๆ ก็จะวิ่งได้ระดับ 30 fps ส่วนเกมที่เก่าลงไปก็จะได้ประมาณ 60 – 70+ fps แน่นอนว่าเทียบไม่ได้กับคอมตัวท็อปทั่วไป ที่เฟรมวิ่งไประดับ 120+ ก็ตามที่เค้าบอกว่าเน้นประสบการณ์แบตเตอรี่ยาวนานและเรื่องการทำงานมากกว่า และที่สำคัญคืออุณหภูมิคุมไว้ได้ดี เอามือจับด้านบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกร้อนแต่ไม่ถึงกับร้อนจี๋

“แค่นี้ก็พอเล่นแล้วเนอะ” พี่ชายเกาหลีตัวแทนประจำบูธ Samsung ยิ้มบอกกับผม

เครื่องมือนักพัฒนา

เครื่องมือและโปรแกรม AI ดี ๆ จะเกิดไม่ได้เลยถ้าขาดผู้พัฒนาที่ให้ความสนใจและอยากต่อยอด ดังนั้น เค้าจึงมี Developer Resource เป็น AI Hub ที่รวบรวมโมเดล AI, อุปกรณ์, และบริการสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ ให้นักพัฒนาสามารถดึงออกไปทดลองใช้กันได้ เปิดให้ใช้ทั้งบน Hugging Face และ GitHub

นอกจากนี้ ในงานยังมีตัวอย่างธุรกิจและบริการจาก 3rd Party ที่ใช้ AI เป็นองค์ประกอบสำคัญ อย่างโปรแกรม Anti-Virus ที่ใช้ฐานข้อมูลเพื่อป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ (Trend Micro) ระบบสั่งอาหารแบบใหม่ที่คนพูดคุยได้ตามปกติ ไม่ใช่แค่มีเมนูให้จิ้มสั่งเอาอย่างเดียว (BRICKS) ตัวช่วยออกกำลังกายให้ถูกต้องโดยให้กล้องตรวจจับท่าทาง (GoMore) และอื่น ๆ

โดยทั้งหมดนี้ เป็นแค่ตัวอย่างขั้นเริ่มต้นของการนำ AI มาใช้ในอุปกรณ์ที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite / Snapdragon X Plus ทำให้รองรับการประมวล AI ได้ภายในตัวอุปกรณ์ ไม่ต้องส่งข้อมูลออกข้างนอก ซึ่งจะช่วยในเรื่องความเร็วและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ หลังจากนี้ ต้องรอดูแล้วว่าจะมีบริการที่น่าสนใจแบบไหนให้เราได้ใช้งานกันอีกบ้าง