ปีนี้ตลาดแท็บเล็ต Android ไซซ์พกพากลับมาคึกคักกันพอสมควร ซึ่งทาง Alldocube ก็ได้นำแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่าง Alldocube iPlay 70 mini Ultra เข้ามาทำตลาดในไทยด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตหน้าจอขนาดกำลังดี แต่ตอบโจทย์ทั้งสเปคที่เร็วแรงเต็มสปีดด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 และการใช้งานเอนเตอร์เทนเมนต์ยาวนานตลอดวัน ในราคาเพียง 12,990 บาท

ดีไซน์ของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra

ถึงแม้จะเปิดราคามาที่ 12,990 บาท แต่ดีไซน์โดยรวมของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ถือว่าทำออกมาได้พรีเมียมพอสมควรเลย ตัวเครื่องที่อยู่ในมือของเราตอนนี้คือ สีเทา (Space Grey) บอดี้ตัวเครื่องทำจากโลหะ Full Metal Unibody เพื่อความแข็งแรงทนทานโดยเฉพาะ แต่มีน้ำหนักที่เบาเพียง 335 กรัม และความบางตัวเครื่อง 7.9 มม.

ผิวสัมผัสแบบเมทัลลิก ใช้งานแบบไม่ใส่เคสโดยไม่ต้องกลัวลายนิ้วมือ พกพาสะดวก ถือใช้งานง่าย จับกระชับมือ รอบตัวเครื่องประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์สีแดง กับ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ลำโพงสเตอริโอสองตัว พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และถาดใส่ microSD Card

รายละเอียดสเปค Alldocube iPlay 70 mini Ultra

  • จอภาพ : IPS LCD ขนาด 8.8 นิ้ว
  • ชิปเซต : Snapdragon 7+ Gen 3
  • RAM : 12GB (ขยายได้สูงสุดอีก 8GB รวมเป็น 20GB)
  • Storage : 256GB
    • ใส่ microSD Card ได้สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 13MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ (DTS Sound)
  • แบตเตอรี่ : 7,300 mAh
    • รองรับชาร์จไว 20W
  • การเชื่อมต่อ
    • Wi-Fi 6
    • Bluetooth 5.4
  • พอร์ต
    • USB-C 3.1
    • รองรับเป็น Display Port เชื่อมต่อจอนอกได้
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14
  • ขนาด : 208.2 x 129.6 x 7.9 มม.
  • น้ำหนัก: 335 กรัม

หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K ดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมก็ฟิน

ก่อนจะไปคุยกันในเรื่องของ ประสิทธิภาพการเล่นเกมอันทรงพลัง เรามาดูหัวใจสำคัญแรกของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra อย่าง หน้าจอแสดงผล กันก่อนเลย โดยแท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมพาเนลหน้าจอ IPS LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2.5K อัตรารีเฟรชเรตสูง 144Hz ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเป็นระดับได้ ตั้งแต่ 60Hz 90Hz 120Hz และ 144Hz

ด้วยความละเอียดที่สูงถึง 2.5K และหน้าจอที่นับได้ว่าใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปอยู่พอสมควร การดูคอนเทนต์ต่างๆ เช่น ซีรีส์ มิวสิควิดีโอ ไปจนถึงการใช้อ่าน e-Book สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีเลย ขอบหน้าจอซ้าย-ขวาที่หนากว่าด้านอื่นๆ ไม่ส่งผลให้การใช้งานติดขัดแต่อย่างใด

และใครที่รู้สึกว่าสีสันบนหน้าจอยังไม่สดใสโดนใจสักเท่าไหร่ สามารถเข้าไปปรับโปรไฟล์สีของหน้าจอได้เหมือนกันนะครับ Default ที่ตั้งค่ามาจากโรงงานจะเป็น Natural ให้ทำการสลับไปยัง Boosted แทน

ลำโพงคู่สองตัวรองรับระบบเสียง DTS Sound Effect คุณภาพของเสียงกับย่านเวทีไม่ได้โดดเด่นมากสักเท่าไหร่ แต่ระดับเสียงที่ทำออกมาได้นั้นอยู่ในระดับที่โอเคเลย ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปเป็นอย่างดีครับ ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ เล่นเกม ดูซีรีส์ได้แบบไม่มีสะดุด

แท็บเล็ตกับชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 เล่นเกมเป็นยังไง

Alldocube จัดชิปเซ็ตตัวแรงสุดของซีรีส์อย่าง Snapdragon 7+ Gen 3 มาใส่ไว้ใน Alldocube iPlay 70 mini Ultra ซึ่งชิปเซ็ตรุ่นดังกล่าวผลิตอยู่บนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีซีพียูแกนหลัก Cortex-4 ตัวเดียวกับที่อยู่ใน Snapdragon 8 Gen 3 ความเร็วประมวลผลสูงสุด 2.8 GHz

พร้อมกันนั้นนอกเหนือจากหน้าจอรีเฟรชเรต 144Hz ที่เอื้อต่อประสบการณ์การเล่นเกมระดับสูงแล้ว ยังมีโหมดเกม (Game Mode Features) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และการจัดการทรัพยากรของเครื่องให้ลื่นไหลมากที่สุด และสามารถเลือกได้ว่าในระหว่างการเล่นเกมจะให้ Notifications หรือการแจ้งเตือนทุกประเภทปิดชั่วคราวมั้ย

ตามธรรมเนียมของพวกเราที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือ การทดสอบ Benchmark เพื่อดูว่าคะแนนที่ออกมานั้นเป็นยังไง ซึ่งครั้งนี้เรานำไปทดสอบผ่าน Geekbench 6 – AnTuTu – 3D Mark โดยผลคะแนนที่ได้ออกมาเป็นดังนี้ครับ

  • Geekbench 6 :
    • คะแนน CPU Single-Core : 1,856 คะแนน
    • คะแนน CPU Multi-Core : 4,758 คะแนน
  • AnTuTu : 1,680,626 คะแนน
  • 3D Mark(Wildlife Extreme Stress Test) :
    • Best Loop Score : 2,975 คะแนน
    • Stability : 93.3%

เกม RoV – เฟรมเรต 60fps | กราฟิกระดับสูง

อุ่นเครื่องที่เกมแรกอย่าง RoV ครั้งนี้เราทดสอบด้วยการตั้งค่ากราฟิกระดับ… ที่ 60fps สามารถเล่นได้แบบลื่นไหลตามคาแรคเตอร์ของ Snapdragon 7+ Gen 3 โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่จังหวะไฟต์เข้มข้นพอสมควร ทั้งการปล่อยสกิลหรืออัลติเมทพร้อมกันหลายคน 58-60fps แบบเกาะหนึบ ไม่มีจังหวะภาพสะดุดหรือกระตุกให้เห็นแม้แต่น้อย

เกม PUBG Mobile – เฟรมเรต 60fps (Extreme) | กราฟิกระดับลื่นไหล (Smooth)

ไล่ระดับมาที่เกม Battle Royal ยอดฮิตอย่าง PUBG Mobile ในช่วงที่ผ่านมาตัวเกมเพิ่งมีการอัปเดตกราฟิกครั้งใหญ่ไป ยิ่งมาเล่นกับ Alldocube iPlay 70 mini Ultra บอกเลยว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ ด้วยกราฟิกแบบลื่นไหล (Smooth) ที่ 60fps (Extreme) จังหวะกระโดดร่ม ขับยานพาหนะไปยังพื้นที่ที่มีอาคารหรือผู้เล่นจำนวนมาก ทัชลื่นติดนิ้ว ไม่มีค้าง ไม่มีกระตุกแม้แต่น้อย

ที่เซอร์ไพรส์ไม่แพ้กันก็คือทีมงานได้ทดสอบเล่น PUBG Mobile ด้วยกราฟิกระดับ HDR ที่ 60fps ผลลัพธ์ที่ได้มานอกจากความลื่นไหลก็คือภาพที่คมชัดยิ่งกว่าเดิม พร้อมความสมูทในแบบฉบับ 60fps ที่ยกระดับการเล่นได้โอเคมาก ลำโพงคู่สเตอริโอก็แยกซ้าย-ขวา ได้โอเคดีเลยครับ ศัตรูมาจากทิศไหนหรือมีใครส่องสไนเปอร์ยิงเฉียดมาทางเราจากฝั่งไหนคือรู้ได้ทันทีเลย

เกม ASPHALT – เฟรมเรต 90fps | กราฟิกระดับ High Quality

ความรู้สึกแรกหลังเล่น ASPHALT นอกเหนือจากรายละเอียดความคมชัดของภาพในเกม เงาสะท้อนและโมเดลรถที่เห็นได้แบบเต็มตากว่าการดูบนหน้าจอสมาร์ทโฟนทั่วไปก็คือ เฟรมเรตที่ปรับได้มากถึง 90fps และการทำงานของ Gyroscope ที่ตอบสนองได้ดีมาก ใครที่ตัดสินใจซื้อ Alldocube iPlay 70 mini Ultra มาใช้งาน อยากแนะนำให้ลองเล่นเกมแข่งรถหรือเกมที่ใช้ Gyroscope ร่วมในการควบคุมดูสักครั้งครับ แล้วจะติดใจอย่างแน่นอน

เกม Genshin Impact – เฟรมเรต 60fps | กราฟิกระดับสูง

สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุดกับเกมจากค่าย HoYoVerse อย่าง Genshin Impact ที่เรานำไปทดสอบเล่นติดต่อกันนานถึง 40 นาที เควสประจำวัน ลงดันเจี้ยน ตีมอนสเตอร์ Snapdragon 7+ Gen 3 เอาได้แบบอยู่หมัดเลยกับแท็บเล็ตราคา 12,990 บาท

ความลื่นไหลอันนี้เราได้เห็นเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ลื่นหัวแตกถึงขั้นชิปเรือธง Snapdragon 8 Series แต่ในเรตราคานี้ถือว่า Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดีเลยครับ เฟรมไทม์ที่เสถียรคงที่ ความคมชัดของภาพบนหน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว แต่หากเป็นการใช้งานหรือเล่นเกมที่ต้องประมวลผลกราฟิกระดับสูงตัวเครื่องอาจจะอุ่นขึ้นมาบ้างจนรู้สึกได้ แต่ไม่ได้ถึงขั้นแสบมือ

ทั้งนี้เพราะภายในได้ ติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบหลายชั้นมาให้ด้วย โดยจะมีตั้งแต่ Graphene Sheet, Vapor Chamber และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ตัวเมนบอร์ด และใต้หน้าจอกับบอดี้เครื่อง ซึ่งช่วยให้การกระจายความร้อนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และขับประสิทธิภาพของการประมวลผลออกมาได้แบบไม่มีกั๊ก

  • Vapor Chamber ขนาด 9,838 ตร. มม.
  • Graphene Sheet (สองชั้น) ขนาด 5,382 ตร. มม. + 9,350 ตร. มม.

Alldocube GamePad JoyStick

ยังไม่จบกับเรื่องเกมครับ Alldocube iPlay 70 mini Ultra รุ่นนี้นอกจากสเปคฮาร์ดแวร์ที่จัดมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานสายเอนเตอร์เทนเมนต์ และการเล่นเกมแล้ว ก็ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่จะทำให้การเล่นเกมบนแท็บเล็ตพิเศษขึ้นไปอีกด้วย Alldocube GamePad JoyStick

Alldocube GamePad JoyStick ช่วยให้เราสามารถเล่นเกมได้ง่ายกว่าเดิม จับกระชับมือเหมือนถือ JoyCon อันหนึ่ง เพียงแค่นำแท็บเล็ตเสียบเข้ากับรางแล้วเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เท่านี้ก็พร้อมเล่นแล้ว รองรับการใช้งานร่วมกับเกมต่างๆ เยอะมาก เช่น RoV, PUBG Mobile, Genshin Impact, Zenless Zone Zero เป็นต้น

จุดเด่นของ Alldocube GamePad JoyStick คือการตอบสนองที่รวดเร็ว ปุ่มกดที่ออกแบบ และจัดวางมาเป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วยังมาพร้อมกับปุ่มควบคุมด้านหลังที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยตัวเอง รองรับการชาร์จไฟที่ความเร็วสูงสุด 36W

แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh ใช้งานได้นานจริงหรือเปล่า

ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 7,300mAh ถือว่าเป็นขนาดของความจุแบตเตอรี่ที่กำลังดีกับแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8.8 นิ้ว ใช้เพื่อทำงาน ดูหนัง เล่นเกมได้ยาวนานตลอดวันแน่นอน จากตัวเลขที่เราไปทดสอบการใช้งานแบตเตอรี่สามารถสรุปออกมาได้ดังนี้

  • ดูคลิปวิดีโอ 4K ที่ 60fps แบตเตอรี่ลดไป 8%
  • เล่นเกม Genshin Impact นาน 40 นาที แบตเตอรี่ลดไป 20%

กลับกันในส่วนของการชาร์จไฟกลับเมื่อใช้แบตเตอรี่จนเหลือ 1% ในส่วนนี้ค่อนข้างที่จะใช้เวลาอยู่พอสมควร เพราะ Alldocube iPlay 70 mini Ultra รองรับความเร็วการชาร์จสูงสุดอยู่ที่ 20W เท่านั้น ดังนั้นใครที่ใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือเพียงแค่ 1-10% อาจต้องใช้ความอดทนกันสักนิดหนึ่ง

  • ชาร์จแบตเตอรี่จาก 1-50% ใช้เวลาทั้งหมด 63 นาที
  • ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง 22 นาที

Android 14 ซอฟต์แวร์ลื่นไหลใช้งานได้ดี

สุดท้ายก็คือระบบปฏิบัติการซึ่งทำงานอยู่บน Android 14 รองรับการใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Gemni และการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ (Split View) ได้แบบลื่นไหล หน้าตาของ UI โดยรวมถือว่าคลีนมากๆ ไม่มี Bloayware หรือแอปพลิเคชันแฝงที่เป็นอันตรายติดตั้งมากับตัวเครื่อง สามารถใช้งานได้แบบไร้กังวล!

สรุปการใช้งาน Alldocube iPlay 70 mini Ultra

จากการทดสอบใช้งานจริง ต้องบอกเลยว่า Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตไซซ์มินิที่ประสิทธิภาพไม่ mini ตามชื่อ ภาพรวมถือว่าทำออกมาได้ลงตัวพอสมควรเลย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดพกพาง่าย แต่ได้สเปคแรงพอสำหรับการเล่นเกม การทำงานหรือใช้งานเพื่อความบันเทิงแบบครบครัน

ถือว่าเป็น แท็บเล็ตเกมมิ่งขนาดเล็กที่ครบเครื่องที่สุดตัวหนึ่งในเรทราคาหมื่นต้น ได้ทั้งสเปคแรง หน้าจอสวย แบตอึด พร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับสายเกม ถ้าไม่ติดเรื่องชาร์จไฟที่ยังช้าไปนิด และไม่มีสล็อตใส่ซิม ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าเล่นมากครับ

จุดเด่น

  • ชิปเซ็ตระดับท็อปของซีรีส์ Snapdragon 7+ Gen 3
  • หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว 144Hz ใช้งานจับถือกระชับมือ
  • แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh 
  • USB-C 3.1 รองรับเป็น Display Port ต่อจอแสดงผลได้
  • ใส่ microSD Card เพิ่มได้สูงถึง 1TB
  • อุปกรณ์เสริมครบ เคสใสปกป้องตัวเครื่อง / จอยเชื่อมต่อ / อะแดปเตอร์ชาร์จ

จุดสังเกต

  • ความเร็วการชาร์จ 20W ที่อาจจะยังน้อยไป
  • ไม่สามารถใช้งานแบบใส่ซิมการ์ดได้
  • ขอบหน้าจอที่ไม่สมมาตรกัน

ราคาและการวางจำหน่าย

Alldocube iPlay 70 mini Ultra เปิดตัวมาด้วยราคาเพียง 12,990 บาท ในรุ่นความจุ 12GB + 256GB มีให้เลือกเพียงหนึ่งสีเท่านั้น ได้แก่ สีเทา (Space Gray) สั่งซื้อได้จากหน้าร้านออนไลน์ Shopee, Lazada, TikTok Shop และหน้าช็อป True , BaNANA และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศใกล้บ้านทั่วประเทศ

นอกจากนี้ตัวสินค้ายังมาพร้อม การรับประกันสินค้านาน 12 เดือน สามารถส่งซ่อมได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านศูนย์บริการ realme Service 17 สาขาทั่วประเทศ หรือแจ้งเคลมออนไลน์ผ่าน LIne Official (@Alldocube.th) ก็ได้!