ติดค้างกันมาสักพักแล้ว สำหรับการรีวิวมือถือ 2 ซิมจากค่าย OPPO ที่ต้องบอกว่าเป็นค่ายแรกๆ ที่จับเอาสเปค CPU 1 GHz และ RAM 512 มายัด 2 ซิม ที่รองรับ 3G ทุกเครือข่าย แถมยังให้กล้องมาทั้งหน้าหลัง นั่นคือ OPPO Find my Guitar และ OPPO Find Gemini โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาท และ 8,990 บาท ตามลำดับ

แล้วทั้ง 2 รุ่นต่างกันยังไง ตรงไหน ขอเชิญไปชมรีวิวที่มีความยาวเป็นประวัติการณ์กว่า 30 นาทีได้ ณ บัดนี้ . . 

== ==  VDO Review : OPPO my Guitar and OPPO Gemini == ==

Play video

.

.

.

เพื่อนสมาชิกบางคนบอกเน็ทไม่ดี ไม่มี WiFi ต่อดู งั้นขอเชิญชม Photo review แบบสั้นจุ้ดจู๋ 10 ช่องจบ.. จัดไป

 == == Photo Review == ==

ทั้ง my Guitar และ Gemini มีระบบ smart dual sim คือถ้าใส่ซิมเดียว ก็จะขึ้นว่ามีซิมเดียว เสาเดียว ปุ่มโทรออกปุ่มเดียว แต่ถ้าใส่เข้าไป 2 ซิมปุ้บ มันก็จะปรับเป็นมี 2 เสา และมีปุ่มโทรออก 2 ปุ่มคือซิม 1 หรือ ซิม 2 ทันที

 

นี่คือตัวอย่างของปุ่มโทรออก 2 ปุ่มเมื่อทำการใช้งาน 2 ซิมพร้อมกัน โดยที่ใต้ปุ่มจะมืชื่อซิมตัวเล็กๆ เท่ามดแดงมาให้อ่านด้วย เผื่อจะได้ไม่ไปกดผิดกดถูก ส่วนรูปแบบการใช้งานนั้นเป็น dual-standby คือรอรับสายได้ทั้ง 2 หมายเลข แต่ single active คือใช้งานได้ทีละ 1 เลขหมาย ขณะที่ใช้สายอยู่ อีกหมายเลขจะติดต่อไม่ได้

 

แต่ถ้าชื่อซิมไม่ถูกใจ บางคนใช้ค่ายเดียวกันทั้ง 2 ซิม ก็ขอเชิญเข้าไปแก้ไขชื่อซิมซะ จะได้ไม่มีปัญหา จะตั้งชื่ออะไรก็ใส่ๆ เข้าไปได้เลย ภาษาไทยภาษาอะไรเครื่องก็รับ

 

ลองมาดุที่หน้าตาประวัติการโทร (Call logs) มีการใส่ชื่อซิมกำกับให้เรียบร้อย ว่าโทรเข้าเบอร์ไหน เราโทรออกด้วยเบอร์ไหน

 

ส่วนของ SMS ก็เช่นกัน เมื่อเข้ามาอ่านแล้วจะมีตัวหนังสือกำกับ ว่าข้อความนี้รับส่งด้วยซิมไหน และระบบยังเลือกเอาหมายเลขที่ใช้ในการรับส่งมาให้โดยอัตโนมัติ ในกรณีที่จะตอบ SMS กลับ สังเกตุได้จากด้านล่างของจอภาพ แต่ถ้าต้องการจะเปลี่ยนจาก ซิม 1 เป็น ซิม 2 ก็แค่แตะไปที่เบอร์ 1 มันก็จะกลายเป็นเบอร์ 2 ทันที

 

ถ้าเบื่อหน้าตาหรือเอฟเฟ็ค OPPO จัดให้ มี Theme ให้เลือกเปลี่ยนและ download เพิ่มได้ ปรับหน้าตา lock screen ก็ได้

 

CPU 1 GHz เล่นเกมไหวไหม เท่าที่ลองเล่น Dead Trigger ก็สบายๆ นะครับ ทั้ง 2 เครื่องเลย ตอนโหลดเข้าเกมอาจจะนานนิดนึง แต่พอเล่นแล้วก็ลื่น ไม่กระตุกนะ

 

แอพ Dictionary ที่ให้มานั้นใช้ได้เลย หาความหมายได้ทันทีไม่ต้องต่อเน็ท เพราะมีข้อมูลคำศัพท์อยู่ในตัวเครื่อง แถมอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษให้ฟังได้ด้วย ส่วนแอพ Note ก็สามารถจดบันทึกได้หลากรูปแบบ จะพิมพ์ จะวาด ได้หมด

 

กล้องถ่ายภาพเหมาะสำหรับการหยิบขึ้นมาถ่ายเลย ไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก เพราะไม่มีให้ปรับ แต่ที่จับแล้วเพลินคือ กล้อง LOMO มีทั้งฟิลเตอร์และเอฟเฟ็คเพียบ ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

 

จบแล้ว! คราวนี้มาดูตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอจากทั้ง 2 รุ่นนะครับ

 

 == == OPPO Find my Guitar 5 Mpixel Main Camera Sample == ==

ตัวอย่างภาพ 5 ล้านจากกล้องหลัก

 

 

== == OPPO Find my Guitar camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง ความละเอียด VGA

Play video




== == OPPO Find Gemini 5 Mpixel Main Camera Sample == ==

ตัวอย่างภาพ 5 ล้านจากกล้องหลัก

 

 

 == == OPPO Find Gemini camcorder sample == ==

ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง ความละเอียด SVGA

Play video

 

 

== == OPPO Find Gemini Beauty Plus == ==

ตัวอย่างภาพถ่าย Beauty Plus จาก OPPO Find Gemini อันนี้ไม่มีใน my Guitar นะครับ

โดยผมได้ทดลองถ่ายจากนิตยสาร จะเห็นว่าภาพมันจะมีเงาตัวหนังสือบ้าง ยับบ้าง เป็นจุดๆ บ้าง แต่ Beauty Plus เกลี่ยแป้งให้หน้าเด้งได้เนียนๆ เลยครับ

ภาพนี้ก็จากนิตยสารอีกเช่นกัน Beuaty Plus จัด concelaer และตบแป้งให้เสร็จสรรพ พวกเม็ดๆ จุดๆ ริ้วรอยต่างๆ หายเรียบ

  

== == ล้วง แคะ แกะ spec == ==

1. UMTS HSDPA หรือ 3G ระดับ H

– สามารถใช้งาน 3G ได้ทุกคลื่น 850/900/2100 ของ ais / dtac / true H / myCAT / TOT เชื่อมต่อ Internet ได้ทีละ 1 ซิม my Guitar รองรับ 3G แค่ซิมที่ 1 ส่วน Gemini รองรับ 3G ทั้ง 2 ซิม 

2. ขนาดหน้าจอ

my Guitar หน้าจอ 3.5 นิ้ว ความละเอียด HVGA 480 x 320

Gemini หน้าจอ 4 นิ้ว ความละเอียด WGA 800 x 480

3. หน่วยประมวลผล CPU + GPU

– ทั้งคู่ใช้ CPU จากทาง MediaTek MT6576 ความเร็ว 1 GHz พร้อม GPU PowerVR SGX 531

4. RAM / Internal Memory

– RAM 512 MB มี ROM 4 GB แบ่งเป็น system storage 2 GB สำหรับลงแอพ และอีก 2 GB เป็น Internal Storage สำหรับเก็บภาพ เพลง วิดีโอ สามารถใส่ micro SD เพิ่มได้ถึง 32 GB

5. Wireless b/g/n + Bluetooth

– Bluetooth 2.1 มี WiFi สามารเปิด WiFi hotspot ได้

6. GPS with AGPS

– จับสัญญาณได้ค่อนข้างเร็ว ไม่เกิน 2 นาทีโดยเปิดใช้งานการระบุตำแหน่งผ่าน Wireless Location ช่วยด้วย ทดลองบนที่โล่ง ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ 

7. ลำโพง และระบบเสียง

– ลำโพงภายนอกเสียงดังทั้งคู่เลย เสียงออกแนวกลางๆ ไปทางใส ส่วนระบบเสียงผ่านหูฟังนั้นเสียงใสดีทีเดียว โดยเฉพาะจาก my Guitar ที่มีระบบเสียง Dirac HD จากค่าย Dirac ในประเทศสวีเดน 

8. Camera and Front-facing camera

– กล้องหลักความละเอียด 5 ล้าน ไม่มี ใช้เวลาโฟกัสภาพประมาณ 1-2 วิ ส่วนของ UI กล้องนั้นเน้นเรียบง่าย และทาง Gemini มีฟังก์ชั่น Beauty Plus ถ่ายแล้วหน้าเด้ง แบ๊วมาก

9. FM Radio

– มี FM ทั้งคู่ ต้องเสียบหูฟังเป็นตัวรับสัญญาณจึงจะใช้งานได้

10. Battery life

– แบตขนาด 1400 mAH และ 1710 mAH ของทั้ง 2 เครื่องสามารถถือได้ทะลุวัน* ซึ่งตรงนี้เทียบจากการใช้งานประจำของผมนะครับ

*ปรับความสว่างหน้าจอลงที่ประมาณ 30% ใช้งานโทรศัพท์ประมาณ 30 นาที เล่นเวบและโซเชียล 60 นาที ถ่ายรูปไปประมาณ 10 รูป เปิด data online ตลอดทั้งวันบน 3G

 

ถ้าลองเทียบสเปคกับราคาของทั้ง 2 รุ่นแล้ว ส่วนหลักๆ ที่น่าจะเห็นได้ชัดคือ

OPPO Find my Guitar นั้นเน้นให้เป็นมือถือ 2 ซิมราคาไม่แพงนัก เพื่อจับกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบการฟังเพลงเป็นหลัก เพราะใส่ระบบเสียง Dirac HD มาด้วย

ส่วน OPPO Find Gemini จะเน้นไปที่ความสวยงามของตัวเครื่อง หน้าจอที่คมขึ้น และกล้องถ่ายภาพ พร้อมโหมดการถ่าย Beauty Plus และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้าน น่าจะเหมาะกับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปตัวเอง แล้วอัพขึ้น facebook หรือ Instagram แชร์ให้เพื่อนๆ มากด Like กด Love กันไปตามระเบียบ

 

สำหรับหน้าตาตัวเครื่องและพวกอุปกรณ์ ขอให้ย้อนกลับไปดูที่กระทู้พรีวิวนะครับ

DroidSans Preview : OPPO Find my Guitar 2 ซิม กล้อง 5 ล้าน 3G ทุกเครือข่าย

DroidSans Preview : OPPO Find Gemini 2 ซิม จอสวย กล้องแบ๊ว


จบแล้วจ้า สวัสดี