เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้เห็น DTAC ขยับเพิ่มช่องสัญญานในการทำ 4G บนคลื่น 1800MHz จาก 10MHz เป็น 15MHz ตามคู่แข่ง เพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุดของการใช้งานให้ทัดเทียมกัน มาวันนี้ทาง DTAC แถลงขยายช่องสัญญานอีกครั้ง ปรับเพิ่มเป็น 20MHz กลายเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่ลูกค้าทุกเครื่องทุกรายสามารถใช้งาน 4G แบบเต็มสปีด 150Mbps* ได้ทันที
4G รายเดียวที่วิ่งได้ถึง 150Mbps โดยไม่ต้องใช้เครื่องรุ่นท็อป
ในตอนนี้เราจะเห็นลูกค้า AIS และ DTAC ทำ speedtest โชว์ความเร็ว 100Mbps กันอยู่แล้ว แต่ว่าการทำให้สปีดขึ้นสูงขนาดนั้นได้ ส่วนนึงมาจากการทำ Carrier Aggregation(CA) คือนำเอาคลื่นความถี่สองช่วงมารวมกัน เช่น 1800MHz จำนวน 15MHz รวมกับ 2100MHz 10MHz เพื่อให้มีความถี่รวมกันได้ช่องสัญญานกว้าง 25MHz และทำความเร็วสูงได้ แต่ปัญหาคือ CA จะมีอยู่ในเครื่องรุ่นใหม่ๆแพงๆเท่านั้น เช่น iPhone 6s หรือ Galaxy Note 5 ส่วนเครื่องอื่นๆ ราคาประหยัดๆ จะใช้ไม่ได้ เพราะจับสัญญานได้เพียงช่วงความถี่เดียวเท่านั้นใน 1 ช่วงเวลา ซึ่งหมายความว่าการทำ 4G แบบไม่มี CA จะช่วยให้ลูกค้าทุกคนทุกรายสามารถใช้งานได้ที่ความเร็วสูงสุดเหมือนกันไม่ว่าราคาจะสูงหรือต่ำก็ตาม
*ความเร็วสูงสุดในทางทฤษฎี เกิดขึ้นได้ยากในการใช้งานจริง
ปัจจุบัน Dtac เป็นเจ้าเดียวที่สามารถทำได้แบบนี้ เพราะว่ามีคลื่นความถี่ 1800MHz กว้างถึง 25MHz ซึ่งเจ้าอื่นจะมีช่องสัญญานในแต่ละความถี่กันสูงสุดเพียง 15Mhz เท่านั้น ซึ่งตามแผน DTAC เตรียมเปิดให้ใช้คลื่น 1800MHz เป็นจำนวน 20MHz ได้ในช่วงไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 นี้ ซึ่งต้องดูตามปริมาณการใช้งาน 2G ของลูกค้าทั้งหมดก่อน
AIS | 1800MHz | 15MHz |
2100MHz | 15MHz + 15MHz (TOT) | |
DTAC | 850MHz | 10MHz |
1800MHz | 25MHz | |
2100MHz | 15MHz | |
Truemove H | 850MHz | 15MHz |
900MHz (อย่างไม่เป็นทางการ) | 10MHz | |
1800MHz | 15MHz | |
2100MHz | 15MHz |
โรมมิ่ง 2G 1800MHz กับ AIS อยู่ระหว่างพิจารณา และคลื่นจะยังเพียงพอ
จากข่าวเดิมที่ทาง AIS ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ทางดีแทคก็มีการแถลงว่าพวกเค้าไม่ได้ปิดกั้นหรือติดอะไร แต่กำลังอยู่ระหว่างเจรจาในรายละเอียดกันมากกว่า และคลื่นความถี่ 1800MHz ที่ทาง Dtac มี แม้ว่าจะมีลดทอนสัดส่วนช่องสัญญาน 2G ไปให้ 4G มากกว่าครึ่ง ทางเครือข่ายก็จะยังสามารถให้บริการรองรับลูกค้าทั้งของเครือข่ายตัวเองและ AIS ได้อย่างสบายๆ โดยอาจจะจัดสรรให้มีสัดส่วนของช่องสัญญานที่ให้บริการ 2G และ 4G ที่แตกต่างกันในหัวเมืองใหญ่ และพื้นที่ห่างไกล
ข้อมูลที่น่าสนใจอย่างนึงก็คือ ผู้ใช้ 2G ที่ยังเหลืออยู่บนเครือข่าย Dtac ทั้งหมดกว่า 3 ล้านรายนั้น กลับไม่ใช่คนต่างจังหวัด แต่กลับเป็นคนกรุงเทพฯซะงั้น
เตรียมขยาย 4G ให้ครอบคลุม 77 จังหวัด ภายในกลางปีนี้
ปัจจุบันนี้ทาง Dtac บอกว่ามีการติดตั้ง 4G ไปแล้วรวมกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ และเตรียมจะขยายเพิ่มให้ครบ 77 จังหวัด ภายในกลางปีนี้ และลงให้ครบทั้ง 878 อำเภอในไตรมาสที่ 3 โดยสามารถทำได้เร็วและเยอะขนาดนี้ได้ก็เพราะมีเงินทุนเหลือจากการที่พลาดการประมูล 4G 900MHz มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาทนั่นเอง
หากมีการประมูลใหม่ก็สนใจ แต่ไม่ใช่ที่ราคาที่ JAS เสนอ
ประเด็นร้อนเรื่องใบอนุญาตคลื่น 900MHz ที่ปัจจุบันยังคาราคาซัง ทางดีแทคกล่าวว่าหากมีการประมูลขึ้นอีกครั้ง ทางบริษัทก็สนใจที่จะเข้าไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน แต่ต้องเป็นการประมูลที่โปร่งใส และราคาต้องน้อยลงจากราคาสุดท้ายที่ JAS เสนอ 76,298 ล้านบาท ซึ่งหากทรูมีปัญหาก็เป็นเรื่องของทาง กสทช. ต้องไปเจรจาต่อไป
ปัจจุบันดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมอยู่ที่ 25.3 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นลูกค้า 4G จำนวน 2.3 ล้านราย มีลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟน 61% ของจำนวนผู้ใช้บริการรวม เพิ่มขึ้นจากระดับ 48% เมื่อปีก่อน มีลูกค้าที่ถืออุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี 4G อยู่ 15%ของฐานลูกค้าทั้งหมด มีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.2 ล้านราย
Dtac คิดต่าง ทำต่าง บนสิ่งที่ตนเองมี
ใช้ดีแทคมาจนเป็น trinet รู้สึกว่าปัญหาเยอะมากเลยจำใจต้องย้าย
นอกนั้นดีแทคดูแลลูกค้าดีมาก(สำหรับผมนะ)
เอาจิงดิ
เอาจริงๆผมก็ไม่รู้ว่าคนบ่นว่าปัญหาจุกจิกคืออะไร
ผมใช้ดีแทค มันก็เร็วดี Fup ก็ยังเร็วกว่าค่ายอื่นๆ
กดถูกใจเลยครับ Fup วิ่งเสถียรกว่าค่ายอื่นจริงๆ
AIS กะ True ไปทำ CA
แต่ DTAC กลับดัน ช่องสัญญาณใหญ่ ขึ้นสู้
ทั้งๆที่สามารถทำ CA ได้เช่นกัน
แสดงว่าวาง position จากลูกค้าปัจจุบัน
ที่โทรศัพท์ 3G + โทรศัพท์ 4G ที่ทำ CA ไม่ได้
มีปริมาณเยอะสุด
ลูกค้า 3G จะไม่เสีย bandwidth
ลูกค้า 4G ส่วนใหญ่ ก็ได้ความเร็วไม่แพ้ CA มากนัก
แล้วพอปี 61 มีการประมูลใหม่ + เครื่อง CA ได้มีเยอะแล้ว ค่อยทำ CA
เป็นการตัดสินใจที่ดีอยู่นะ
dtac 4g มี 2 ขีด ห่วย*censor*
True ที่บ้านผมมีแค่ขีดเด่วเนตก็ยังวิ่งปกติ โทรสัญญาณไม่ขาดหาย ของแบบนี้ไม่ได้วัดที่สัญญาณเสมอไปนะครับ ดูพื้นที่ด้วย
ผมว่ามองที่สัญญาณโดยรวมทุกพื้นที่ดีกว่านะครับ ไม่งั้นก็เปลียนไปใช้ค่ายอื่นที่พื้นที่ท่านอยู่มีสัญญาณดีกว่าครับ
ของดคำหยาบคายนะครับ
ใช้อยู่ทั้งหมด 2G/3G/4Gก็ไม่เคยเจอปัญหาเท่าไหร่ ที่อ้างว่า ห่วย ไปต่างจังหวัดไม่มีสัญญาณ ในปีๆ หนึ่งจะไปสักกี่ครั้งเชียว
ผู้บริโภคคาดหวังว่าทุกที่ๆ เค้าไป เค้าต้องสามารถใช้ได้ครับ
ความคิดลูกค้าลักษณะแบบคุณนี่ผู้ให้บริการชอบนะ เพราะไม่ต้องพัฒนาอะไรลูกค้าอย่างคุณก็พอใจแล้ว
อยากให้ทำความเข้าใจ CA ให้ถูกต้องครับว่ามันทำ intra band (ใช้ย่านเดียวกัน) กันได้
http://www.3gpp.org/technologies/keywords-acronyms/101-carrier-aggregation-explained
และสิ่งที่ Dtac กำลังจะทำคือ LTE-A เหมือนกัน
ความเร็วมันขึ้นกับขนาด Bandwidth และ chipset ในเครื่องเราครับ
https://www.qualcomm.com/products/lte/lte-carrier-aggregation
Dtac ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 Mbps เพราะ bandwidth ที่มีดูตาม link ด้านบนครับ
เพราะมี CA เลยทำให้เกิด LTE-A ครับ
ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้มั้ยครับ
DTAC มี bandwidth ย่าน 1800 MHz ขนาด 10 MHz+10 MHz = 20 MHz พอที่จะทำ CA (intra band =ย่านเดียวกัน) เพื่อให้เป็น LTE-A พอที่ทำความเร็วสูงสุดทางทฤษฏีถึง 150 Mbps (cat4)
ทางคุณ Kawsai หมายถึงว่าของ dtac ก็เป็น LTE-A ที่ใช้ CA แบบ intra band 10+10MHz หรือเปล่าครับ
ซึ่งข้อมูลด้านบนของผมมันผิดพลาดตรงที่บอกว่ามันไม่ได้ทำ CA ซึ่งอ่านแล้วอาจทำให้เข้าใจว่ามันไม่ใช่ LTE-A ไปด้วย และควรจะมีการใส่ว่าของทาง dtac เองจริงๆก็มี CA แต่ว่าเป็น intra band
ส่วนเครื่องรุ่นแพงๆที่ผมบอกว่ามี CA ควรต้องเขียนให้ครบว่ามีเป็น inter band ป่าวครับ?
แสดงว่า เครื่อง 4G รุ่นที่ถูกๆ คือ ทำ CA ไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะ intra หรือ inter จะไม่ได้ประโยชน์ตรงนี้??
เช่น ถ้าเครื่อง 4G รุ่นถูกๆ มาใช้ DTAC ก็จะได้ความเร็วแค่ 10 MHz = 75Mbps
ไม่ใช่ได้ความเร็ว 10+10 MHz = 150Mbps แบบที่เข้าใจตอนต้น
ขณะที่เครื่องรุ่นแพง จะ CA ได้ ก็จะสามารถใช้ได้ทั้ง
intra(DTAC 150Mbps) และ
inter(AIS,TRUE 202Mbps)
รุ่นถูกๆทำ intraband ได้แต่ว่าทำ interband ไม่ได้ครับ