วันนี้ทางดีแทคได้เปิดบ้านแถลงแผนพัฒนาเครือข่าย แจงไม่มีคลื่น 2600 MHz ก็ไม่เป็นไร เตรียมให้บริการ 5G บน 700MHz และ 26GHz มั่นใจพัฒนาประสบการณ์ใช้งานลูกค้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม คาดสามารถเปิดให้บริการ 5G ด้วยคลื่น 26 GHz ในพื้นที่ที่กำหนดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 และขยายใช้คลื่น 700 MHz เพิ่มเติมในช่วงปลายปีต่อไป
700 MHz สร้างความครอบคลุม, 26 GHz ให้ความเร็ว
ปัจจุบันดีแทคมีคลื่นในมือสำหรับให้บริการ 5G อยู่ 2 คลื่นหลัก ได้แก่ คลื่น 700 MHz ที่ประมูลได้มาเมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา และคลื่น 26 GHz ที่เพิ่งประมูลจบไปไม่กี่วันก่อน โดยทั้งสองคลื่นมีคุณลักษณะที่ต่างกัน คือ
- 700 MHz : จะสามารถให้บริการได้ในพื้นที่วงกว้าง วางเสาหรือสถานีฐานเดียวได้ระยะครอบคลุมเป็นกิโลเมตร แต่แบนด์วิธในการรับส่งข้อมูลจะไม่ได้มีมากนัก แค่ 10 MHz เท่านั้น เหมาะสำหรับการสร้างความครอบคลุม ให้อุปกรณ์ 5G ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ต้องการประหยัดพลังงาน เช่น เซนเซอร์ตรวจจับค่าต่างๆ ทำงานได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือชาร์จแบตบ่อยๆ ก็สามารถส่งข้อมูลกลับมายังศูนย์กลางได้เรื่อยๆ
- 26 GHz : รับส่งข้อมูลปริมาณมากได้จากแบนด์วิธที่สูงถึง 200 MHz แต่ข้อจำกัดจะอยู่ที่ระยะครอบคลุมของสัญญาณที่น้อยกว่าคลื่น 700 MHz เหลายเท่า เหมาะสำหรับการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ที่จำกัด และต้องการรับคนจำนวนมาก เช่น ในประชุมขนาดใหญ่ คอนเสิร์ต หรือเครือข่ายเน็ตภายในบ้าน
โดยคลื่น 26GHz นี้ เป็นคลื่นพร้อมใช้งาน ไม่ติดสัมปทานใดๆ ดีแทคเตรียมจะให้บริการได้ภายในไตรมาสสองนี้ ในพื้นที่ที่กำหนด แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชัดเจนว่าจะใช้งานแบบไหนอย่างไร คงต้องรอเปิดตัวในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป
ส่วนคลื่น 700 MHz มีการเปิดเผยว่าจะมาในช่วงเดือนตุลาคม สาเหตุที่ต้องรอนานขนาดนั้นก็เพราะ ต้องรอทาง กสทช จัดการคลื่น ลดสัญญาณกวนต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน และทางดีแทคมองว่าเมื่อถึงตอนนั้น อุปกรณ์ 5G ในตลาดน่าจะมีตัวเลือกที่มากขึ้น และรองรับคลื่น 700 MHz ได้ด้วย
Galaxy S20 Ultra 5G รองรับเพียงคลื่น 2600 / 3500 / 3700 MHz ไม่รองรับคลื่นที่ดีแทคมีอยู่ในมือเลย แต่ทางดีแทคคาดว่าอาจจะมีคนได้รับผลกระทบไม่เยอะมาก เพราะมีจำนวนคนใช้ไม่เยอะจากราคาที่ค่อนข้างสูง แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่รองรับ 5G จะมีออกตามมาในปีนี้ ในราคาที่ต่ำกว่า เข้าถึงคนได้มากกว่า และน่าจะรองรับทั้ง 700 MHz และ 26GHz ด้วย
Samsung ยืนยัน Galaxy S20 Ultra รองรับ 5G คลื่น 2600 MHz เท่านั้น
ไม่เลือก 2600MHz เพราะมีคลื่น 2300MHz อยู่แล้ว
ทางคุณประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี ได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่าคลื่น 2600 MHz เป็นคลื่นที่ใกล้เคียงกับ 2300 MHz ดีแทคสามารถใช้คลื่นนี้ให้บริการได้โดยตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคทั้งในด้านความเร็วและความครอบคลุม บนเทคโนโลยี 4G ที่เป็น Massive MIMO ที่ผ่านมา คลื่นนี้ก็ให้บริการได้อย่างดีจนทาง OpenSignal ได้ให้รางวัลว่าเป็นเครือข่ายในไทยที่ทำความเร็วในการดาวน์โหลดมากที่สุดของประเทศ ไม่ได้จำเป็นจะต้องซื้อคลื่น 2600 MHz เพิ่มเพื่อมาให้บริการแต่อย่างใดและมีการเปรยว่าคลื่น 1800 และ 2300 สามารถแปลงไปใช้งานเป็น 5G ในอนาคตได้ เมื่อมีความต้องการมากขึ้น และมีอุปกรณ์รองรับอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ดี มีการแย้งในเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ยากหากจะนำคลื่น 2300 MHz ไปให้บริการ 5G ทั้งสัญญาที่ได้มาในปัจจุบันไม่สามารถทำได้ และสัมปทานคลื่นของ TOT ก็จะหมดในปี 2568 นี้แล้ว โอกาสที่ทาง TOT จะได้ใช้งานต่อก็เป็นไปได้ยาก รวมถึงอุปกรณ์ที่จะรองรับก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะครอบคลุมถึงคลื่นนี้หรือไม่
ปัจจุบันสถานีฐานของดีแทคสำหรับ 4G คลื่น FDD (1800/2100 MHz) จะมีอยู่ราว 3.2 หมื่นสถานี ส่วนสถานีฐานของคลื่น TDD (2300 MHz) จะมีอยู่ราว 17,000 สถานีเท่านั้น ตามแผนการขยายเครือข่ายในปีนี้จะเพิ่มให้มีจำนวนมากกว่า 20,000 สถานี ต่อไป โดยมีเงินลงทุนในการขยายเครือข่ายทั้งหมด (ทั้ง 3G/4G/5G ที่ 13,000 – 14,000 ล้านบาท)
ย่านความถี่ต่ำ | ย่านความถี่กลาง | ย่านความถี่สูง |
900 MHz (5×2 MHz) 700 MHz (10×2 MHz) | 2300 MHz (60 MHz) 2100 MHz (15×2 MHz) 1800 MHz (5×2 MHz) | 26 GHz (200 MHz) |
คลื่นน้อยกว่าแต่สมเหตุสมผลกับจำนวนผู้ใช้บริการ
หลายคนแสดงความเป็นห่วงว่า คลื่นที่ดีแทคมีในปัจจุบันน้อยกว่าทาง AIS และ Truemove H ค่อนข้างมาก โดยทั้งสองเครือข่ายมีคลื่นมากถึง 1450 MHz และ 1020 MHz ตามลำดับ แต่ทางค่ายแจ้งว่าจำนวนนี้ถือว่าเพียงพอกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีแล้ว มีครบทุกย่านความถี่ ทั้งสูง กลาง ต่ำ ซึ่งก่อนหน้าการประมูลถ้าคำนวนจำนวนคลื่นต่อจำนวนลูกค้า ถือว่าเครือข่ายมีปริมาณคลื่นให้ลูกค้าต่อรายที่เยอะกว่าทั้งสองเจ้าอยู่ในระดับนึง การที่ค่ายอื่นที่มีลูกค้ามากกว่า 10-20 ล้านราย ต้องมีใบอนุญาตที่มากกว่า 3-4 เท่า ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกอะไร
ปัจจุบันปริมาณการใช้งานดาต้าภายในเครือข่ายดีแทคเฉลี่ยต่อรายต่อเดือนเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ในปี 2018 จะอยู่ที่ราว 8GB และขึ้นมาเป็น 11 GB ในปี 2019 คาดว่าจะขึ้นถึง 16 GB ต่อเดือนในปี 2020 นี้
สิ่งที่สำคัญท่ีสุดคือประสบการณ์ใช้งานของลูกค้า
ในงานแถลงข่าววันนี้นอกเหนือจากเรื่องการประมูล 5G แล้ว ดีแทคพยายามที่จะชี้ให้เห็นถึงความพยายามพัฒนาประสบการณ์ใช้งานเครือข่ายของลูกค้าในทุกๆด้าน มีการใช้ AI ในการช่วยทำแคมเปญการตลาด คัดสรรสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละราย และการมี 5G ในตอนนี้ก็อาจจะไม่ได้จำเป็นสำหรับผู้ใช้ขนาดนั้น เพราะสิ่งที่ทุกคนต้องการมันคือเน็ตเวิร์คที่เสถียร เชื่อถือได้ มีความครอบคลุม รับส่งข้อมูลปริมาณมากได้เมื่อต้องการ การทำให้เน็ตเวิร์ค 4G ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
การสร้างเครือข่าย 5G ให้เกิดประโยชน์ได้จริงและต่างไปจากเมื่อตอน 3G/4G ได้นั้นทางดีแทคมองว่าจะต้องมีการขยายการใช้งานในแนวตั้ง (Vertical) กล่าวคือ 5G จะไม่มีขึ้นเพื่อสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ต้องทำไปเพื่อสร้างการเชื่อมต่อกับสิ่งอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คนขับ ระบบควบคุมทางไกลแบบซีโร่แลก (zero-lag control) เซนเซอร์ในพื้นที่ห่างไกลที่ต้องใช้พลังงานต่ำ ระบบ Mixed Reality และอื่นๆ หากไม่มีเรื่องเหล่านี้แล้ว 4G ก็ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีไม่ต่างกันเลยนั่นเอง
นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีแทคแถลงมาในวันนี้ คงต้องรอติดตามการแถลงจากทาง AIS และ Truemove H ต่อไปว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ผู้ใช้งานเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ดีแทคได้บอกไว้หรือไม่
ว่าจะซื้อ Galaxy S20 Ultra 5G กับ dtac เพราะเห็นลดเยอะสุด แต่เล่นไม่สนใจลูกค้าขนาดนี้ก็ขอบายละกัน เหอะๆ พูดมาได้ไง "แต่ทางดีแทคคาดว่าอาจจะมีคนได้รับผลกระทบไม่เยอะมาก เพราะมีจำนวนคนใช้ไม่เยอะจากราคาที่ค่อนข้างสูง" ขออ้างแถแบบน่าเกลียดโคตรๆ
เห็นด้วยครับ
ข้ออ้างน่าเกลียด แต่มันคือความจริง
ชวนให้ลูกค้าหายหรือเปล่าเอ๋ย 🙂 🙂
700 เอาไปทำ 5g
แล้ว 900 ชาติไหนจะเอสออกมาใช้ ดองไว้จนจะเน่าแล้วเห้ย
"แต่ทางดีแทคคาดว่าอาจจะมีคนได้รับผลกระทบไม่เยอะมาก เพราะมีจำนวนคนใช้ไม่เยอะจากราคาที่ค่อนข้างสูง"
อันนี้ดีแทคแถลงพูดเอง หรือทางดรอยด์แซนเขียนบทความเองครับ สำคัญมาก เพราะทำให้ผู้อ่านเข้าใจไม่ตรงกันได้
ถ้าดีแทคพูดเองแบบนี้เลย ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ถ้าดรอยด์แซนพูดเอง ก็แก้ข่าวให้ดีแทคหน่อยครับ
"สิ่งที่สำคัญท่ีสุดคือประสบการณ์ใช้งานของลูกค้า"
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
"Galaxy S20 Ultra 5G รองรับเพียงคลื่น 2600 / 3500 / 3700 MHz ไม่รองรับคลื่นที่ดีแทคมีอยู่ในมือเลย แต่ทางดีแทคคาดว่าอาจจะมีคนได้รับผลกระทบไม่เยอะมาก เพราะมีจำนวนคนใช้ไม่เยอะจากราคาที่ค่อนข้างสูง แต่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่รองรับ 5G จะมีออกตามมาในปีนี้ ในราคาที่ต่ำกว่า เข้าถึงคนได้มากกว่า และน่าจะรองรับทั้ง 700 MHz และ 26GHz ด้วย"
แบบนี้ก็ได้หรอ