ดีแทคเปิดสถิติข้อมูลที่น่าสนใจในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยมีการแจ้งว่าผู้คนมีการใช้งานดาต้าเฉลี่ยตั้งแต่ มกราคม – มิถุนายนเพิ่มขึ้นสูงถึง 44% ซึ่งอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในต่างจังหวัดสูงกว่าในกรุงเทพถึง 5 เท่า ส่วนนึงเกิดจากที่มีการเดินทางกลับภูมิลำเนาค่อนข้างเยอะ คาดคนจะเปลี่ยนมือถือช้าลงกว่าเดิมมากจากเดิม 6 เดือนครั้ง เป็น 36 เดือน หรือ 3 ปี

จากวิกฤตการณ์โควิดหลายคนน่าจะพอทราบแล้วว่าประเทศเราได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจค่อนข้างเยอะมาก คาดการณ์ GDP บ้านเราน่าจะลดลง 8% ด้วยความที่ธุรกิจท่องเที่ยวแทบหยุดชะงักจากการที่นักท่องเที่ยวจากต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาได้ ปริมาณหายไปกว่า 80% หลายธุรกิจจึงต้องมีการปิดตัวลง และผู้คนตกงานและเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อลดค่าใช้จ่าย จึงเป็นที่มาของการใช้งานดาต้าในต่างจังหวัดที่สูงขึ้นมากตามไปด้วย นอกจากนี้ความถี่ในการเปลี่ยนมือถือของคนก็จะลดน้อยลงกว่าเดิม จากก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนกันบ่อยถึงปีนึง 2 เครื่อง กลายเป็น 3 ปีเปลี่ยนเครื่องนึงเลยทีเดียว

ดีแทค ได้มีการเสริมว่าจะมีการพัฒนาเครือข่ายเพิ่มเติมด้วย Massive MIMO อีก 3 เท่า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใช้งานได้ดีขึ้น และเตรียมขยายสัญญาณ TDD หรือคลื่น 2300MHz ให้ครอบคลุมมากขึ้นกว่า 20,000 สถานีฐาน เพื่อรองรับการการเติบโตในต่างจังหวัด แต่จะมีการปรับแผนการให้บริการ 5G บนคลื่น 26GHz ออกไปเป็นไตรมาส 3 จากผลกระทบของโควิด ส่วน 5G บนคลื่น 700MHz ปัจจุบันยังคงแผนการเปิดให้บริการในไตรมาส 4 เช่นเดิม

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่ามีการปรับเปลี่ยนองค์กรเพิ่มระบบ automation หรือระบบควบคุมอัตโนมัติมากขึ้นในด้าน supply chain เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าถึงมือพวกเราได้เร็วขึ้น และอนุญาตให้พนักงานกว่า 95% ทำงานแบบยืดหยุ่น สลับกันเข้าออฟฟิศในแต่ละสัปดาห์หรือเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อเฝ้าระวังโควิดเท่านั้น แต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ให้พนักงานรู้สึกมีอิสระ คาดเพิ่มประสิทธิผลและความพึงพอใจของพนักงานได้