การเปิดตัวคลื่น dtac-T หรือ dtac TURBO ที่ใช้งานบนความถี่ 2300MHz นี้ หลายคนน่าจะได้ทราบแล้วว่ามันจะช่วยแก้ไขปัญหาเน็ตอืด วิ่งไม่ไปในพื้นทื่มีการใช้งานหนาแน่นได้ดี แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยและคาดหวังจากการมาของคลื่นใหม่นี้ก็คือเรื่องการแก้ปัญหาความครอบคลุมของสัญญาณที่ dtac ยังสู้คู่แข่งไม่ได้ ซึ่งจากข้อมูลที่เราทราบมา คลื่นใหม่นี้จะช่วยเรื่องความครอบคลุมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จะยังไม่สามารถเพิ่มความครอบคลุมให้กระจายทั่วได้อยู่ดี
สัญญาใช้คลื่นมีระยะเวลาไม่มาก ความสามารถคลื่นไม่อำนวย
ข้อตกลงที่ทาง dtac ได้ทำกับ TOT เอาไว้คือทางบริษัทสามารถใช้งานคลื่น 2300MHz ได้ยาวถึงปี 2025 ซึ่งจะเป็นปีที่ทาง TOT ต้องคืนคลื่นให้กับรัฐ มีเวลาในการสร้างเสาวางเครือข่ายเพื่อทำกำไรค่อนข้างน้อย ทำให้หลายฝ่ายมองว่า dtac อาจจะไม่ลงทุนในคลื่นนี้มากนัก จุดประสงค์หลักคือเอามาช่วยแก้ปัญหาการใช้งานในพื้นที่แออัด มีการใช้งานสูงมากกว่า นอกจากนี้ด้วยตัวคลื่นเองที่มีความถี่สูง ทำให้การกระจายสัญญาณจะมีรัศมีที่แคบกว่าคลื่นความถี่ต่ำ หากต้องการเพิ่มพื้นที่ให้ครอบคลุมมากกว่าปัจจุบัน จะต้องลงทุนวางเสาเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก คำนวนจากระยะเวลาและเม็ดเงินที่ต้องลงทุนแล้ว เป็นไปได้สูงว่าดีแทคจะยังไม่เพิ่มความครอบคลุมด้วยคลื่นความถี่ 2300MHz
อย่างไรก็ดีการมาของคลื่น 2300MHz นี้จะช่วยเพิ่มระยะทำการของคลื่นเดิมได้ในระดับนึง จากแต่ก่อนเมื่อมีการใช้งานที่หนาแน่นสัญญาณจะหดตัวลงตามคุณลักษณะของคลื่น เมื่อมีการลดโหลดการทำงานของคลื่นเดิม (1800 & 2100MHz) ก็จะทำให้ระยะของคลื่นเดิมไปได้ไกลขึ้นอีกเล็กน้อย ใครที่อยู่ขอบๆของสัญญาณ เคยติดๆดับๆก็อาจจะดีขึ้นเล็กน้อยได้ครับ
ปริมาณคลื่นเริ่มเพียงพอ แต่ยังต้องการเพิ่ม
หลังจากที่เริ่มใช้งานคลื่น 2300MHz การใช้งานทั่วไปของผู้ใช้เครือข่าย dtac น่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งความเร็วและความเสถียรในการใช้งาน จำนวนคลื่นใน portfolio ของดีแทคก็จะดูดีขึ้น จากเดิมที่เตรียมเหลือคลื่นในมือเพียง 2100MHz @ 15MHz เท่านั้น เพราะคลื่น 1800MHz และ 850MHz กำลังจะหมดสัมปทานรอการประมูล 4G ที่ไม่รู้จะมีขึ้นเมื่อไหร่ 60MHz ที่ได้มาก็ทำให้มีจำนวนที่เพียงพอขึ้นมาก อย่างไรก็ดี ตามที่บอกไปข้างต้นว่าระยะเวลาของสัมปทานคลื่น 2300MHz นี้ไม่ได้ยาวนานสักเท่าไหร่นัก และคลื่นที่ถือครองอยู่ก็จะมีเพียงคลื่นความถี่สูง การที่ดีแทคจะสามารถสร้างเครือข่ายคุณภาพทัดเทียมกับคู่แข่งได้นั้น จำเป็นจะต้องมีคลื่นเพิ่มเติมอีก โดยคลื่น 1800MHz ที่เตรียมจะนำกลับมาเพื่อเปิดประมูลนั้น ทางดีแทคก็น่าจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าร่วมเพื่อดึงคลื่นปัจจุบันของตนกลับมาเข้า portfolio และต้องรอลุ้นคลื่นความถี่ต่ำอย่าง 700MHz หรือ 850MHz ให้มีการนำออกมาประมูลเพิ่มเติมด้วย มิฉะนั้นความหวังที่จะได้ใช้ dtac 4G / 5G แบบครอบคลุมทั่วประเทศ ก็ดูจะริบหรี่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
สรุป การมาของคลื่น 2300MHz ยังไงก็ทำให้คนใช้โดยรวมแฮปปี้กันขึ้นแน่ๆ แต่สำหรับคนที่ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ตลอดเวลา ก็ต้องลองพิจารณากันเพิ่มเติมต่อไป
คลื่นความถี่ต่ำๆแบบ 900 นี่มีขอดีบ้างมั้ยครับ
ข้อดีเยอะครับ หลักๆก็กระจายสัญญาณได้ไกลจากการวางเสาแค่ต้นเดียวเท่านั้น ซึ่งประหยัดต้นทุนได้มากสำหรับเครือข่าย จึงทำให้ทรูและเอไอเอสยอมให้ราคาสูงนั่นแหละครับ
ช่วยได้เยอะจริงจ้า
นิอยู่ชายแดนแบบนี้ คลื่นความถี่ต่ำช่วยได้เยอะ ทั้ง 3G 850 และ 4G 900 ..ไม่งั้นใช้เน็ทได้ลำบากกว่านี้เยอะเลยจ้า 😂😂
แฮปปี้ขึ้นยังไง? ตอนนี้เขาคลอบคลุมแค่จังหวัดที่ต้องการใช้งานดาต้าสูงเท่านั้น เช่น กทม. ภาคเหนือก็ จว.เชียงใหม่ ภาคอีสานแค่ จว.ขอนแก่น ภาคใต้ก็แค่ จว.ภูเก็ตเท่านั้น ยังไม่ได้คลอมคลุมทั่วทั้งหมด.
คนที่อยู่ในบริเวณ สามารถใช้งานได้อย่างไม่แออัดครับ
เวลาและเงินมีจำกัด ถ้าเอาไปลงที่ๆ ลูกค้าน้อย ไม่หนาแน่นก็จบสิครับ ลงเสียเปล่า
อยู่ที่จอดรถใต้ดิน รพ.จุฬา DTAC ดับ แต่อีกสองค่ายวีดีโอคอลลื่นปรื๊ด
มือถือไม่รองรับ
ไม่จริงใจต่อการลงทุน
ถ้าจริงใจนี่ ต้องทำอย่างไรครับ รบกวนแนะนำหน่อย
ช่วยมาทำแถวๆที่ผมอยู่ได้มั้ย สัญญาณมาเต็มแต่ 4G วิ่งไม่ถึง 1 Mbps แต่คงอีกนานเพราะไม่ใช่จังหวัดใหญ่
ขับรถ วิ่งสายใต้ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครฯ สัญญาณดีแทค แย่มากครับ สัญญาณอ่อน หรือคุยๆสายหลุดบ่อยมาก
บางทีก็งงกับความคิดของผู้บริหาร dtac เนอะ …
ผมมองว่าเค้าทำเท่าที่เค้าทำได้แล้วนะ แต่มันยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้เท่านั้นแหละ
CEO ฝรั่งตะวันตก เข้าใจความคิดของคนตะวันออกแบบเราๆ ยากครับ สมัย ceo คู่ ไทย ฝรั่ง ไปได้ไกล เพราะช่วยกันดึง
แต่ละค่ายมี ข้อดีข้อเสียต่างกันครับ dtac มีปัญหาเรื่อง bandwidth มากๆช่วงนี้ หลังได้ 2300 60 Mhz บอกเลยว่าช่วยได้แค่ในเมืองและบริเวณที่มีการใช้ data สูงเท่านั้นครับ เรื่อง coverage area ไม่ต้องหวังเลยครับ ตามหลักทางฟิสิกส์ ยิ่งความถี่สูงความยาวคลื่นยิ่งต่ำครับ ผลคือ หวังผลได้แค่ 500 เมตรก็หรูแล้วในเมือง ถ้าโล่ง 1 km ครับ ส่วน coverage area ตามต่างจังหวัด(นอกเมือง) เขาไม่ลงแน่ครับ ต้องอาศัย 2100 เป็นหลัก (1800 และ 850) ก็จะหมด กันยายนนี้ไม่รู้ จะเอาคืนมาได้หรือเปล่า ในเมืองถ้ามาเต็มรูปแบบ จริงๆผมบอกได้เลยว่า อีก 2 ค่ายสู้ dtac ไม่ได้แน่นอน (ด้าน speed) แต่ลื่นไม่ลื่นไม่รู้นะครับ เพราะ TDD 2300 DTAC มาครบทุกเทคโนโลยี ความถี่ เยอะสุด 60 Mhz ต้องเครื่องที่รองรับ 3CA TDD ด้วยนะครับ เอามาทำ 4G ทั้งหมด true และ ais เอามาทำแค่ 35 mhz เทคโนโลยี่ 4T4R 4×4 mimo สามารถเพิ่มความเร็ว speed ได้แม้ มีความถี่เท่าเดิม (แต่เครื่องลูกข่ายยังน้อย ลอง test จริงๆวันพุธ ใช้ได้แค่ s9 และ s9+) และ 256QAM ช่วยเพิ่ม speed ได้เพิ่มอีกประมาณ 30% ช่วงนี้เพิ่งเปิดครับยังไม่ค่อยนิ่งอยู่นะครับแม้กรุงเทพ แม้เครื่องลูกค่ายรองรับได้หลายรุ่น แต่ใช้งานเต็มประสิทธิภาพจริงๆ ก็มีไม่กี่รุ่นนะครับ