ก่อนหน้านี้เว็บไซท์ทดสอบกล้อง DxOMark ไม่มีหัวข้อการทดสอบเลนส์ Wide และโหมด Night ของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นเลย.. ซึ่งมือถือรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับโหมดถ่ายภาพกลางคืนและเลนส์กว้างมากขึ้น ล่าสุดทาง DxOMark ก็เลยออกมาปรับแก้เกณฑ์การให้คะแนนใหม่ โดยเพิ่มทั้งสองหัวข้อดังกล่าวเข้าไปด้วย ซึ่งที่หนึ่งยังคงเป็นหน้าเดิมอย่าง Galaxy Note 10+ 5G ที่กวาดคะแนนไปทั้งหมด 117 คะแนน
จริงๆ แล้วหัวข้อ Night นั้นไม่ถือว่าเป็นหัวข้อที่ใหม่ป้ายแดงแต่อย่างใด เพราะในอดีต DxOMark ก็มีหัวข้อ “Flash” สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอยู่แล้ว (ทว่าเข้าไปเช็คล่าสุด หัวข้อ Flash นั้นได้ถูกตัดออกไปแล้ว) แต่สำหรับหัวข้อ Wide นั้นถือว่าเป็นของใหม่แกะกล่องจริงๆ ทั้งนี้ทางเว็บไซต์น่าจะมีจุดประสงค์เพื่ออัพเกรดผลการทดสอบของพวกเขาให้ตรงกับเทรนด์ในยุคปัจจุบัน ที่สมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่อง ทุกย่านราคา มักจะใส่เซนเซอร์ Wide หรือ Ultra Wide มาให้ทั้งนั้น
การให้คะแนนในหัวข้อ Night ทาง DxOMark จะทดสอบถ่ายรูปในสภาพที่แสงน้อยมากๆ ตั้งแต่ 0 ลักซ์ ไปจนถึง 20 ลักซ์ โดยจะทดสอบทั้งหมด 4 แบบก็คือ ตอนปิดแฟลช, เปิดแฟลช, แฟลช auto และ Night Mode สำหรับสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์นี้ด้วย
จากซ้ายไปขวา: Huawei P30 Pro | Galaxy Note 10+ 5G | Google Pixel 3 (แบบไม่เปิด Night Mode)
ผลคะแนนออกมาปรากฎว่า Huawei P30 Pro, Galaxy Note 10+ 5G และ Galaxy S10 5G ทำผลงานออกมาได้ดีที่สุด คว้าอันดับ 1 ร่วมกัน สำหรับเทพกล้องมือถืออย่าง Google Pixel 3 ที่มาพร้อมกับ Night Sight ที่ใครหลายคนลองใช้แล้วต่างตะลึงกับความสามารถของมัน กลับทำคะแนนได้เพียง 49 คะแนน ซะงั้น..
สำหรับการคะแนนในหัวข้อ Wide ทาง DxOMark ก็ทำการทดสอบถ่ายรูปในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์ภูมิประเทศ, ในเมือง, ภาพกลุ่ม, ภาพภายในบ้าน ฯลฯ โดยจะถ่ายตั้งแต่ในสภาพแสง 50 ลักซ์ไปจนถึง 1,500 ลักซ์เลย ผลที่ได้ก็คือ Galaxy Note 10+ 5G ยังคงยืนหนึ่งทำไปได้ 42 คะแนน และที่น่าเซอร์ไพรส์ก็คือ Sony Xperia 1 ที่กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในหัวข้อนี้
ขณะที่คะแนนรวมทั้งหมดหลังจากอัพเดทหัวข้อ Wide และ Night เข้าไปแล้ว แชมป์ยังคงเป็น Samsung Galaxy Note 10+ 5G เจ้าเดิม ซึ่งกวาดคะแนนรวมไปได้มากกว่าเดิมเป็น 117 คะแนน (จาก 113 คะแนน) สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมบางรุ่นถึงมีเครื่องหมายดอกจัน (*) อยู่ด้านหลัง อันนั้นก็คือทาง DxOMark ยังไม่ได้นำไปทดสอบกับหัวข้อใหม่ทั้งสองหัวข้อนะครับ จะเห็นได้ว่าคะแนนยังเป็นเหมือนเดิมอยู่
ก็ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเปล่า ทันทีที่ Apple เพิ่มฟีเจอร์ Night Mode และใส่เลนส์ Ultra Wide ให้กับ iPhone 11 ทั้งสามรุ่น ทาง DxOMark ก็ออกมาอัพเดทเกณฑ์การให้คะแนนทันทีเลย.. ทั้งนี้ก็ต้องรอดูคะแนนครับว่าสุดท้ายแล้วพวกสมาร์ทโฟนที่เพิ่งเปิดตัวไปใหม่ๆ หรือกำลังจะเปิดตัวเนี้ย จะทำผลงานออกมาได้ดีแค่ไหน
ที่มา: DxOMark
รอบก่อนที่ DxO ปรับเกณฑ์ก็บังเอิญปรับตอนที่ iPhone ออกรุ่นใหม่พอดี แถมเกณฑ์ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Zoom กับ Portrait ก็บังเอิญตรงกับกล้องใหม่ iPhone ทันที และบังเอิญที่กล้องมือถือในขณะนั้นมีแค่ iPhone ที่ใส่เลนส์เทเลมาและมีแค่ไม่กี่ยี่ห้อที่ใส่ Portrait มา ทำให้ iPhone ได้คะแนนสองหมวดนี้สูงและกลายเป็นที่ 1
รอบนี้ก็บังเอิญปรับเกณฑ์ตอน iPhone ออกรุ่นใหม่อีกแล้ว แถมเกณฑ์ที่ปรับคือ UWA กับ Night Sight (ซึ่งเรียกร้องกันตั้งแต่ปีที่แล้ว) มันก็บังเอิญตรงกับกล้องใหม่ iPhone พอดีอีกเช่นกัน
รอดูคะแนน iPhone ครับว่าจะออกมาเป็นยังไง
อีกหน่อยคงเป็นมาตรฐานเพิ่มแหละ 🙂 🙂
ถ้าเป็นตัว exynos ไปเทสคงไม่ได้ที่ 1 ชัวร์
ถ้ามีสองโหมดนี้ในตอน iPhone xs max ออกก็คงดึงคะแนนรวมลงไม่มีทางได้ที่หนึ่งแน่ ผู้ตามอย่างแท้จริง
สมาร์ทโฟนแทบทุกเครื่อง ทุกย่านราคา มักจะใส่เซนเซอร์ Wide หรือ Ultra Wide มาให้ทั้งนั้น
ตลกครับ ตลกการใช้คำมากๆ มุมภาพจะไวด์ไม่ไวด์มันอยู่ที่เลนส์ครับ เซนเซอร์มันเอาไว้รับแสง มีผลเรื่องความละเอียดของภาพที่จะได้ แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมุมรับภาพครับ ดังนั้นพอใช้คำว่าเซนเซอร์ Wide นี่มันจะดูตลกไปเลย