กระแสกล้องถ่ายภาพที่มาแรงของสมาร์ทโฟนตอนนี้คงจะหนีเรื่องของการใช้งานกล้องคู่หรือ Dual Camera ไปไม่ได้ โดยรุ่นที่มาปลุกกระแสในปีนี้แน่นอนว่าคงไม่พ้น Huawei P9 / P9 Plus ที่ไปจับมือกับ Leica มานั่นเอง หลังจากนั้นสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ ก็เริ่มเปิดตัวรุ่นที่มาพร้อมกับกล้องคู่กันมากมายจนมาถึง iPhone 7 Plus แล้วกล้องคู่ของแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อทำงานเหมือนกันไหม? มีข้อดีหรือฟังก์ชั่นการใช้งานต่างกันอย่างไร? วันนี้เราจะมาไล่เรียงความเป็นมาของ Dual camera บนสมาร์ทโฟนจากรุ่นอดีตมาจนถึงปัจจุบันกันครับ
ปี 2011 – แรกเริ่มเดิมทีนั้นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ถือกำเนิดขึ้นในยุค 3D หนังสามมิติครองเมือง โดยมี 2 ค่ายหลักอย่าง HTC และ LG เปิดตัวสมาร์ทโฟน 3D ออกมาแข่งกันถ่ายภาพ 3 มิติ ด้วยกล้องคู่ที่ทำงานแบบ Stereoscopic ที่ถ่ายภาพเอามาซ้อนกันและแสดงผลแบบ 3D ให้เป็นกระแสกันพักนึง แต่แล้วก็เงียบหายไป ไม่สามารถทำให้มันบูมได้ต่อเนื่อง
ปี 2014 – ยุคถัดมา HTC ขอกลับมาลองกล้องคู่อีกครั้งด้วย HTC One M8 กับกล้องคู่ที่มาพร้อมกับความสามารถในการจับความลึกตื้นของวัตถุ ช่วยให้สามารถเพิ่มมิติในการถ่ายภาพแบบ Depth of Field หรือชัดลึกชัดตื้นได้ดีขึ้น แต่ตัวกล้องของ HTC One M8 นั้นถ่ายภาพออกมาได้ไม่ดีนักและมีเซนเซอร์ Ultrapixel ไปเน้นการรับแสงมากไป จนความละเอียดไม่สูง ทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่
ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่มีรูปแบบกล้องคู่เน้นฟีเจอร์จับความลึกของภาพที่ตามออกมาก็จะมี Huawei Honor 6 Plus ในช่วงปี 2015 ที่ใช้แตกต่างตรงที่เซนเซอร์ 8 ล้านพิกเซลคู่ ถ่ายและรวมเป็นภาพ 13 ล้านพิกเซลที่สามารถเลือกปรับค่ารูรับแสง ความชัดความเบลอได้
และ ZTE Axon อีกรุ่นนึง อันนี้จะคล้าย HTC One M8 คือ กล้องตัวที่ 2 เอาไว้วัดความลึกเท่านั้น
ปี 2015 – ผ่านไปไม่นาน LG ก็กลับมาพร้อมกล้องคู่อีกครั้งบน LG V10 ที่เป็นกล้องหน้าคู่ สำหรับเซลฟี่และไวด์เซลฟี่แบบกดแชะได้ทันที ไม่ต้องบิดข้อมือให้เมื่อย
ปี 2016 – เหมือน LG จะยังชอบไอเดียนี้ เพราะเลือกสานต่อด้วย LG G5
กับกล้องหลังคู่ที่เลือกใช้กล้องปกติหนึ่งชุดความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และอีกชุดหนึ่งความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นเลนส์ไวด์เพื่อถ่ายภาพ ultrawide มุมมองกว้างสุด 135 องศา เรียกว่าติด Fisheye มาหน่อยๆ
Xiaomi Redmi Pro ก็เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมกับกล้องคู่ และชูจุดขายเรื่องการถ่ายภาพละลายหลัง
แต่ระบบกล้องคู่ Dual Camera นั้นก็ถูก Huawei ทำการปฏิวัติวงการด้วย Huawei P9 / P9 Plus ที่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานของกล้องคู่ด้วยการคิดค้นร่วมพัฒนากับ Leica
เพื่อนำเอาเซนเซอร์ขาวดำ (Monochrome) มาทำงานร่วมกับเซนเซอร์สี (RGB) ในการถ่ายภาพ แล้วทำการประมวลผลภาพจากทั้งสองกล้องเข้าด้วยกัน
โดยเซนเซอร์ขาวดำนั้นมีจุดเด่นในการเก็บแสงและความคมชัดของภาพ เมื่อนำมารวมเข้ากับภาพจากเซนเซอร์ RGB แล้วภาพที่ออกมานั้นจะมีมิติ ความลึก รวมถึง contrast ที่กว้างกว่ากล้องมือถือทั่วไป
นอกจากเรื่องของการใช้เซนเซอร์ขาวดำรับแสงแล้ว Huawei P9 / P9 Plus ยังใช้ช่วยในเรื่องของการเก็บความลึกของภาพ สำหรับโหมดการถ่ายภาพแบบ Depth of Field
ที่สามารถเลือกจุดโฟกัสและปรับค่ารูรับแสงในภายหลังได้
มาถึงกล้อง dual camera ของ Apple iPhone 7 Plus กันบ้าง ถ้ามองที่รูปแบบของฟีเจอร์นั้นจะออกมาคล้ายๆ กับ LG G5 เพียงแต่ทาง Apple นั้นมี 1 เลนส์ไวด์ คู่กับหนึ่งเลนส์ tele ที่เป็นเลนส์ซูม 2X และ Digital Zoom ได้ 10x การที่ Apple ออกมาบอกว่า Optical Zoom 2X นั้นดูจะไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะระยะของเลนส์นั้นไม่สามารถขยับได้แต่ล็อคไว้ที่ 1x และ 2x เท่านั้น
นอกจากนั้นรูรับแสงของทั้งคู่ยังไม่เท่ากันด้วย คือกล้องหลักเลนส์ 28mm ของ iPhone 7 Plus นั้นมาพร้อมรูรับแสง f1.8 ซึ่งจะรับแสงได้ดีกว่ากล้องพร้อมเลนส์ tele 2x 56mm f2.8 ส่วนการซูมภาพ 10x นั้นคือ Digital Zoom ที่ใช้ซอฟแวร์ในการปรับเพิ่มความคมชัด
แน่นอนว่ากล้องคู่ของ iPhone 7 Plus ก็มีฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบ Depth of filed สามารถเบลอฉากหลังได้เหมือนกับกล้องคู่ทั่วๆ ไปแต่ยังมาพร้อมข้อจำกัดว่าสามารถุใช้งานโหมด Depth Effect ได้เฉพาะกับภาพ Portrait หรือภาพคนเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับสิ่งของหรือโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ได้ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าทำไม Apple ถึงเลือกที่จะทำแบบนั้น แถมตอนนี้ก็ดูเหมือนจะยังทำไม่เสร็จดีเพราะยังไม่เปิดให้ใช้งานจนกว่าจะมีอัพเดทซอฟแวร์ในเดือนตุลาคมนี้นั่นเอง
ถ้าจะพูดถึงสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่มาแรงและน่าสู้กันสนุกในตลาดบ้านเราก็คงหนีไม่พ้น Huawei P9 / P9 Plus กับ iPhone 7 Plus สองรุ่นจากสองค่ายนี้แหละครับ ซึ่งในภาพรวมแล้วเหมือน Huawei P9 / P9 Plus จะได้เปรียบกว่าทั้งเทคโนโลยีการใช้เซนเซอร์คู่ในการผสานภาพให้ดูมีมิติและมีความคมชัดมากขึ้น ต่างจากทางฝั่ง iPhone 7 Plus ที่ใช้เซนเซอร์เพียงตัวเดียวในการถ่ายภาพ ซึ่งเราเองก็ยังคงรอที่จะเปรียบเทียบภาพถ่ายของทั้งคู่อยู่เหมือนกัน ส่วนอีกเรื่องคือ Depth of Field ที่หลายคนอยากรู้ว่า iPhone 7 Plus จะทำได้ดีแค่ไหน มีลูกเล่นหรือปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง หากเทียบกับ Huawei P9 / P9 Plus ที่สามารถเลือกจุดโฟกัสและปรับรูรับแสงเพื่อเกลี่ยระดับของความเบลอได้ เร็วๆ นี้คงได้เจอกันในเปรียบเทียบภาพถ่ายจากทั้งสองรุ่นนี้ครับ
ผมชอบไอเดียของ Huawei P9 มากกว่านะครับ ที่พยายามเอาเทคโนโลยีกล้องคู่มาใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพรูปของกล้องมือถือ (จากเดิมที่พัฒนาแต่ SW เพราะ HW เป็นคอขวดมาตลอด) ในขณะกล้องคู่อื่นเอามาเพื่อเพิ่มลูกเล่นการถ่ายภาพให้หลากหลายมากขึ้น
จริงๆในมุมมองของคนทั่วไป การทำให้ถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้นอาจจะชอบมากกว่าคุณภาพเสียอีก แต่ในฐานะคนเล่นกล้องผมเลือกคุณภาพมากกว่าแม้จะไม่มากก็เถอะ (ถึงเหตุผลหลักๆที่คนเล่นกล้องหลายๆคนที่ผมรู้จักเปลี่ยนไปใช้ P9 เพราะ Leica + ขาวดำก็เถอะ 55+)
เปลี่ยนมาใช้เพราะอยู่ในกลุ่ม P9 Facebook นั่งดูรูปทุกวัน จนทนไม่ไหว…
เลยต้องจัดมาเลย
อยู่กับอารยธรรมของ P9 ไปได้อีกสักพักใหญ่ๆ
กล้องคู่สำหรับผม ผมชอบแนวทางของ LG ครับ ด้วยความที่ให้มาเลนส์มาสองระยะ ซึ่งเป็นแบบ Ultra Wide กับ Normal มันลงตัวมากเลย ใช้งานได้สะดวกมากมาย
หากเราอยากได้ระยะ Ultra Wide ในกล้องเดี่ยวทั่วไป ต้องใช้ Lens Coverter ซึ่งมันไม่สะดวกเลย ต้องคอยพกไปด้วยกัน ส่วนระยะ Telephoto ใช้ Digital Zoom พอทดแทนได้ (โดยมากใช้งานทั่วไป แค่ 2 เท่า ก็เพียงพอแล้ว รายละเอียดยังพอมีให้เห็น)
ไม่รู้ LG หรือค่ายไหนจะบ้าจี้ ทำมันเลนส์ 3 ระยะหรือเปล่านะ Ultra Wide, Normal, Telephoto ถ้ามีนี้แหล่มเลย ถึงหน้าตาคงจะออกมาแปลกๆ แต่ก็เป็นคุณสมบัติที่กลุ่มดีไซน์สวยแต่มีเพียงกล้องเดี่ยวทำไม่ได้ละนะ คงต้องแลกกัน
ยกเครดิตนวัฒกรรม กล้องคู่ให้ HTC ที่สุดในฐานะผู้คิดค้นและริเริ่มนวัฒกรรมใหม่ๆมาตลอด กล้องก็เช่นกันเก่งกล้าที่จะพัฒนา ULTRA PIXEL มาแค่4ล้านถ่ายสวยมากตายตอนซูมกลางคืนกินเรียบดีจริงตอนนั้นหน้าชัดหลังเบลอก็ทำได้ดีแต่ไม่ต่อมาM10 แต่Ultra มาดีเอาตอน M10 เพิ่มเป็น12ล้านนี่ล่ะ ถ้าใสมาเยอะแต่แรกก็ได้แล้วขาดแค่ความละเอียด รุ่นต่อมา M9ไปใช้เซนเซอร์โตซิบ้าอีกตายเรียบ มาหลังๆใช้ SONY กู้หน้ากลับมาได้ จริงๆ Huawei กับรุ่นหลังๆได้เปรียบตรงเทคโนโลยีที่มาผสมดีกว่าสดกว่าทั้งจากเซ็นเซอร์ SONY การควบคุมจาก Leica และอและอื่นๆ ปีหน้ากล้องคู่เต็มบ้านเต็มเมืองแน่นอน Appleนี่อานิสงค์จาก HTC หลายเรื่องมากตั้งแต่แลกสิทธิบัตรนี่ ดีไซน์ จอ2.5D UI ลำโพงคู่ กล้องคู่ มีแต่ได้กับได้จริงๆ
Htc คิดค้นหลายอย่าง แต่น่าเสียใจที่ยอดขายสู้ค่ายอื่นไม่ได้
Unibody ก็ออกก่อนไอโฟน 6 แต่สาวกผลไม้ดันบอกว่าไปลอกไอโฟนซะงั้น
ที่มา
http://9gag.com/gag/a1XLg9b?ref=android
#960096 ผมว่าเค้าคงไม่รู้มั้งครับอีกอย่างsamsungก็ด้วยครับผมที่ไม่รู้อีกอย่างถึงจะมีมานานแต่มันดีมั้ยหละครับตอนนั้นผมว่ามันเหมือนมาประยุกต์หรือต่อยอดมากกว่านะครับแต่ก็มีคนบางกลุ่มที่เค้าพูดผิดๆจนเข้าใจกันผิดครับ
#960096อีกอย่างถึงจะมีมานานแต่ตอนนั้นมันไม่เป็นที่นิยมครับหรือผิดยุคนั่นเองครับแต่มันก็อย่างที่ผมบอกมาครับนำมาต่อยอดหรือพัฒนาให้มันดีและใช้งานได้จริงครับ
ไม่มี IQ Z Pro ติดโผ บ้างหรอครับ อิอิ
#960094ใช่ครับแต่อย่าลืมนะครับว่ามีแบรนด์อื่นด้วยครับที่อนิสงคือnokia,lg,htc,blackberryครับผมถ้าคุณเคยอ่านหรือใช้ทั้ง4ยี่ห้อที่ผมกล่าวมาคุณจะรู้ดีครับว่ามันเป็นอย่างไร