เป็นงานวิจัยที่น่าสนใจดี เมื่อ eyeTrackShop บริษัทที่เปิดมาเพื่อศึกษาความสนใจของมนุษย์จาก “การมอง” ได้ทำการศึกษาตรวจจับว่าผู้ใช้มองมือถือและ Tablet ตัวไหนมากที่สุดจาก 200 ตัวอย่างในสหรัฐฯ ด้วยการเปิดภาพที่มีมือถือ 6 รุ่นอยู่ข้างใน และเปิดอีกภาพที่มีรูป Tablet 5 รุ่นอยู่ข้างใน เป็นเวลาภาพละ 10 วินาที แล้วใช้กล้อง Webcam จับการมองของสายตา จนได้ Heat Map ของการมองออกมาดังนี้
ผลออกมาว่ามือถือที่ได้รับการ “ดึงดูด” ทางสายตาที่สุดคือ iPhone คนใช้เวลาเฉลี่ยถึง 2.3 วินาทีในการมอง ส่วนฟาก Tablet ผู้ชนะตกเป็น iPad และ Kindle Fire เสมอกันที่ 2.4 วินาที
ส่วนอันดับรองลงมาห่างจากอันดับหนึ่งพอสมควร ถ้าเป็นมือถือช่วงจะอยู่ระหว่าง 1.1-1.8 วินาที ส่วน Tablet อยู่ที่ 1.1-1.9 วินาที
ที่เหลือลองดูจาก Heat Map ด้านบนดูนะครับ โดยเฉพาะฟาก Tablet … Honeycomb แทบไม่มีใครมองเลยทีเดียว -0-
Source: ZimGuardian
ดูไม่ค่อยจะเป็นเท่าไหร่เลยครับ – –
เค้าให้ผู้ทดสอบมอง ภาพยกแผงตามรูปประกอบรึเปล่า
เพราะจากที่สังเกต มือถือ/แืทปเล็ต อันแรกจะมีคนมองมากที่สุด
แล้วกำหนดเวลาอีก รีบๆ มองกันรึเปล่า?
ประจวบกับการเอาสินค้าแอปเปิ้ลไปไว้ชิ้นแรกด้วย
ตามปกติ คนส่วนใหญ่จะเริ่มมองไล่ไปจากมุมบนซ้ายอยู่แล้วครับ ถ้าจะให้ผลการทดลองน่าเชื่อถือ คงต้องจัดเรียงรูปใหม่หลายๆ แบบ เช่น เอา iPhone ไปไว้มุมล่างขวาบ้าง หรือเอา tablet ที่ไม่ค่อยมีใครมองไปไว้มุมบนซ้ายบ้าง อะไรทำนองนี้
ผมกลับคิดว่าเราส่วนใหญ่แวบแรกเลยเริ่มมองจากตรงกลางก่อนอะครับ ตรงกลางน่าจะเป็นจุดแรกที่เราสนใจ แล้วค่อยมองออกไปรอบๆ
ซ้ายบนครับ รู้สึกว่าจะเป็นหลักการออกแบบเลยมั้งครับ
สังเกตุพวกคำว่า "ใหม่" "ฟรี" logo อะไรพวกนี้
แต่เรื่องการทดลองนี้ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวไหม
ต้องมองนานเพราะหน้าจอไม่ชัด 555
ผมว่าจริงๆแล้ว อยู่ที่หน้า Home ของ apple เป็น icon เล็กๆเรียงกัน ไม่มีจุดสนใจชัดเจน ทำให้ต้องใช้เวลานานในการดูและแปลความหมายแต่ละ icon
ขณะที่ฝั่ง android หน้าจอจะเป็น widget อันใหญ่เป็นจุดสนใจหลักและแปลความได้ง่ายกว่า มักไม่ได้สนใจ iconเล็กๆที่เรียงกันอยู่รอบๆ ทำให้ใช้เวลาในการมองน้อยกว่า
ทำไมดูมีแต่คนปกป้อง แอนดรอยด์ = =" เปนผม ผมก็มอง ไอแพด กับ ไอโฟนก่อนนะครับ แหะๆ
มันเป็นข้อเท็จจริงครับ ไม่ว่าจะเอาเครื่องของค่ายไหนมาไว้มุมบนซ้าย ผมก็ตอบแบบในแนวทางเดิมอยู่ดี ว่าผลการทดลองมันไม่น่าเชื่อถือ
+1
แหมก็รักใคร่ชอบพอกันอยู่เห็นการทดสอบที่เราไม่แน่ใจว่าเชื่อถือได้ ก็ขอขัดนิดล่ะนะ
เหมือนแฟนเราแหละครับจะหน้าตามู่ทู่ยังไง คำเถียงสุดท้ายก็ต้องเป็น กูรักของกู
ตัวผมเองก็ไม่มองแอปเปิ้ลนะ จับโฟนกับแพดของหลานเล่นจนเบื่อและชิน แต่ดรอยด์ซิครับยังได้จับได้มองแค่ไม่กี่ตัวเอง
ผมว่าน่าจะเป็นการวิจัย"ลักษณะ การกวาดสายตามองของผู้ใช้งาน บนหน้าจอของ device ต่างๆ" มากกว่านะครับ
อาจจะเพื่อทดสอบ GUI ว่าผู้ใช้งานมักจะมองไปตรงไหนของจอมากกว่า
เช่น ipad คนจะมองไปตรงกลุ่มของ icon ตรงกลางจนเป็นสีแดง (มองช่วงนั้นเยอะ เพราะ icon กระจุกอยู่ตรงนั้น)
หรือ Tablet Honeycomb ผู้ใช้ ก็จะกวาดตามองช่วงของ widgets มากกว่าที่อื่น และที่ไม่แดง อาจเพราะไม่ได้มองซ้ำที่เดิมๆ (กวาดตาไปมา)
การวิจัยนี้อาจจะ เพื่อการปรับแต่ง UI ให้เหมาะสม และการวาง popup โฆษณาต่างๆครับ
1. ตำแหน่งมีผลต่อการมอง การกำหนดตำแหน่งแบบนี้ จึงไม่เป็นธรรม
2. สี มีผลต่อการมอง โดยปกตี สายตามนุษย์ตอบสนองต่อสีเหลืองไวที่สุด การใช้ภาพ Home Screen ที่แตกต่างกัน จึงเป็นการจัดสภาพการทดลองที่ "ห่วย"
จึงสรุปว่า งานวิจัยนี้ เป็นของ สาวกผลไม้ แหง๋มๆ 55+
ในความคิดเห็นส่วนตัวผมว่า เป็นการสำรวจที่ีไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่เพราะว่า apple มีคนมองมาก แต่
– ปกติคนเราจะมองจาก ซ้าย—>ขวาม และ บน —> ล่าง
– ถึงหน้าจะปกติ แต่ลูกตาสามารถกรอกกลิ้งได้ ผมมั่นใจได้ว่ามันไม่สามารถที่จะรู้ได้หรอกว่าสายตามองไปที่ทางไหน
– มันเคยมีการสำรวจที่ไม่จริงแล้วเอามานำเสนอเยอะ เช่นข่าวนี้ งานวิจัยชี้ผู้ใช้ IE มีระดับไอคิวน้อยกว่าผู้ใช้เบราเซอร์อื่น
สรุปคือ การทดลองมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้อยู่เยอะเกินไป ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ
ปล. ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ นะครับ 😀
ถ้าผมจำไม่ผิด ms เคยวิจัยว่าคนจะมองที่มุมบนขวาเป็นจุดแรก แล้วจะมองบ่อยกว่าจุดอื่น
ก็แค่มองนานกว่าไม่ได้แปลว่าต้องตัดสินใจซื้ออันที่มองนานกว่า…..เอ….หรือว่าใช่ อาจเป็นเพราะมีหน้าตาแตกต่างจากชาวบ้านและก็มีอยู่เพียงเครื่องเดียวก็เป็นได้เลยกลายเป็นจุดสนใจ ถ้าอยากจะให้คนสนใจแอนดรอยด์เยอะๆต้องลบความคิดที่ว่า…………..ออกจากสมองซะ
ทำไมไม่กลับด้านไอเจ้าสองตัวนั้นให้ตั้งขึ้นหละ – -"
ผมว่าที่มองนานเพราะเพ่งมากกว่าคับ ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเ พราะมันเล็ก ทั้ง iphone และ ipad เมื่อเทียบ interface กับ ขนาดหน้าจอ
ส่วน Honeycomb ผมว่าคนดูแล้ว clear ว่ามันคืออะไรก็เลยมองไม่นาน
ซึ่งการมองนาน ๆ เพราะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร ไม่ได้เป็นข้อดีนะผมว่า วิจัยนี้เจ๋งแต่เป็นด้านลบ
Heat Map น่าจะไม่ผิดพลาดอะไร แต่คนแปลความหมายจาก Heat Map น่าจะพลาดนะครับ
เริ่มจากมือถือก่อน
1. iPhone คนส่วนใหญ่มองนานๆ ตรงสีแสดง แสดงว่ามองนานก็จริง แต่ไม่ทั่วจอด้วยซ้ำ คือจุดต่างๆ ของขอบจอไม่มีอะไรดึงความสนใจจากสายตาไปได้เลย เนื่องจาก icon เหมือนๆ กัน ไม่รู้จะมองไปทางไหนดี (คนไม่ได้มองปุ่มนัั้นของ iPhone เลยด้วยซ้ำ มันคงไม่ใช่จุดเด่นของ iPhone มั้ง ฮะฮะ)
2. Android ตัวถัดมา วาง icon เรียงกันลักษณะคลาย iPhone สังเกตบริเวณสีแดงก็ยังเป็นกระจุกอยู่ แต่น่าเสียดายที่ฉากหลังที่ใช้มันรบกวนสายตาเกินไปหน่อย ทำให้ค่าที่ได้ไม่น่าจะเที่ยงตรงนัก
ฝั่ง Tablet บ้าง
1. iPad ผลออกมาคล้าย iPhone อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ Layout เดียวกันเลย
2. Tablet ตัวอื่นๆ ที่ใช้หน้าจอแบบวิดเจ็ด ดูแบบไม่คิดซับซ้อนคือไม่มีบริเวณสีแดง เพราะมันดูแป๊บเดียวแล้วรู้ไงครับ จะต้องดูนานๆ ทำไมกัน เช่น บริเวณที่แสดงเวลา ตัวมันก็ใหญ่ซะขนาดนั้น คนไม่ต้องไปจ้อง icon เล็กๆ แล้วก็มาพิจารณาว่ามันคืออะไร ดูแล้วรู้เลยว่านั่นบอกเวลานะ ทำให้มีเวลาไปมองวิดเจ็ดตัวอื่นๆ ได้อีกค่อนข้างทั่วจอ
สรุปจากความเห็นส่วนตัว
1. การเรียง icon ต้องใช้เวลานานในการจ้องมองตรงกลางมาก จึงลดความสามารถในการมองได้ทั่วจอ
2. การเรียงแบบวิดเจ็ด ผู้ใช้ดูแว๊บเดียวแล้วรู้เลยว่านั่นคืออะไร จึงไม่ต้องมองนาน ทำให้มีเวลาไปมองตรงอื่นได้อีก
สังเกตุว่าของhTCจะอยู่ที่เอกลักษณ์ประจำSense
ถ้าเอา 3310 มาแปะ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ผมว่าที่หนึ่งแน่นอนอ่ะ
[size=30]ก็แค่งานวิจัย :-)[/size] เชื่ออะไรไม่ค่อยได้
กลุ่มตัวอย่างก็แค่ 200 คนจากประชากรเป็นร้อยล้านคน จะมาใช้วัดได้อย่างไร
200 คนนี้อาจจะเป็นสาวกคุณ Steve Jobs สัก 150 คนก็เป็นได้
ปล. เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ
ถ้าจะให้ดีและเจ๋งจริง ต้องปิดโลโก้ยี่ห้อและปิดบังตัวบอดี้ให้หมด
โดยให้เห็นแต่จอ และไอค่อนต่างๆในจอเท่านั้น
ข้อมูลที่ได้มา ไม่สำคัญเท่าการประมวลผล…