ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ หลาย ๆ คนที่ทำเพจ หรือขายของออนไลน์บน Facebook คงได้จะเห็นสถิติหลังจู่ ๆ ยอดเอนเกจเมนต์ ยอดไลค์ ยอดคอมเมนต์ลดลงไปอย่างน่าใจหาย วันนี้พี่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO คนดังของ Meta หรือ Facebook ก็มีทางออกให้แล้ว ด้วยการเปิดให้ลงทะเบียนรอใช้งาน Meta Verified เพื่อเพิ่มการมองเห็นโพสต์ต่าง ๆ ในไทย โดยจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 429 บาทต่อเดือน
หากยังจำได้กันได้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เคยเปิดตัวบริการใหม่ที่ชื่อว่า Meta Verified ที่ให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินเริ่มต้นราว 400 บาทต่อเดือน เพื่อแลกกับเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้าหลังชื่อ เพื่อป้องกันผู้แอบอ้างเอาชื่อของเรา หรือรูปภาพของเราไปใช้ อีกทั้งยังได้รับสิทธิพิเศษเพื่อคุยกับฝ่ายบริการลูกค้าได้โดยตรง
นอกจากนี้ฟีเจอร์ที่ว่ายังช่วยให้ครีเอเตอร์เป็นที่รู้จัก และสร้างฐานแฟนคลับได้ง่ายขึ้น โดยจะช่วยเพิ่มยอด Reach เพิ่มการมองเห็นโพสต์ของผู้ใช้งานได้เยอะกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามจังหวะมันช่างประจวบเหมาะกับที่มีข่าวว่าครีเอเตอร์ทั่วโลกมียอดเอนเกจเมนต์ใน Facebook ที่ลดลงพอดี ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยรึเปล่า
Meta Verified จะเปิดให้ใช้งานในไทยเมื่อไหร่ ต้องจ่ายเท่าไหร่
เบื้องต้นประกาศล่าสุดของมาร์กเผยว่า จากที่เริ่มนำร่องใช้ในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ Meta Verified จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานสมัครได้ทั่วโลกภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะเริ่มที่แถบละตินอเมริกาก่อนซึ่งจะเปิดให้สมัครอย่างเป็นทางการในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ส่วนในไทยตอนนี้ Meta ได้เปิดให้ลงทะเบียน Waiting – List แล้ว พร้อมเผยราคาแล้ว เริ่มต้นที่เดือนละ 429 บาท (เมื่อสมัครผ่าน Browser และ Android) แต่ถ้าใครที่ใช้งาน iOS หากอิงจากช่วงนำร่องจะต้องจ่ายแพงกว่าราว 100 บาท แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่เผยราคาไทยของฝั่ง iOS ออกมา
นอกจากนี้เมื่อสมัครแล้วจะใช้งานได้แค่ในแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าใครที่ต้องการเครื่องหมายทั้งใน Facebook และ Instagram จะต้องจ่ายเงินให้กับทั้ง 2 แอปรวมเงินเป็นราว ๆ 800 บาทต่อเดือน ดังนั้นเหล่าแม่ค้าออนไลน์ รวมถึงคนทำคอนเทนต์ใน Facebook และ Instagram เตรียมรอรับแรงกระแทกให้ดี เพราะถ้าอยากให้คนมองเห็นโพสต์ของเรามากขึ้น อาจมีเรื่องต้องให้เสียเงินกันแน่นอนจ้า
ที่มา: Mark Zuckerberg (Facebook), Meta
ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าคนเค้าหนีไปติ๊กต็อกกันหมดแล้ว นี่จะยิ่งเพิ่มความหนีไปอีก หนีในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเลิกเล่นเฟซนะ เค้าก็มีอยู่แต่ไม่ลงทุนในเฟซบุ๊กแล้วไง เพราะติ๊กต็อกมันออแกนิคง่ายกว่า