Reinier Hendriks ซีอีโอคนใหม่ของแบรนด์มือถือรักษ์โลก Fairphone ที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งไปหมาด ๆ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ประกาศว่า Fairphone จะเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจใหม่ในหลาย ๆ ส่วน หนึ่งในนั้นคือการขยายการทำตลาดจากยุโรปไปยังระดับนานาชาติ พร้อมลดความ unique ลง แล้วหันไปทำมือถือในลักษณะที่โจทย์คนหมู่มากเพื่อเจาะตลาดแมส โดยหวังจะกระชับช่องว่างกับคู่แข่งอย่าง Apple, Samsung, Xiaomi และค่ายอื่น ๆ ได้

แนวทางของ Fairphone ที่ผ่านมาคือ การนำเสนอจุดขายในแง่การรักษ์โลก มุ่งเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เช่น ใช้วัสดุรีไซเคิลผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกแบบตัวเครื่องให้แกะซ่อมง่าย โดยใช้เพียงเครื่องมือมาตรฐานที่หาได้ตามบ้าน มีอะไหล่รองรับทุกส่วนในระยะยาว และอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ยาวนาน ซึ่ง Hendriks ยอมรับว่า อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ คนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง – ไม่อินกันเท่าไหร่ อาจเพราะการนำเสนอของ Fairphone มีความซับซ้อนมากจนเกินไป แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า Fairphone จะละทิ้งเอกลักษณ์เดิม ๆ ไปทั้งหมด เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่นควบคู่ไปด้วย

Hendriks ยังพูดถึงประเด็นเรื่องราคา ที่เจ้าตัวก็ยอมรับอีกเช่นกันว่า Fairphone มีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับมือถือค่ายอื่น โดย Fairphone 5 รุ่นล่าสุด มีราคาอยู่ที่ 700 ยูโร (ประมาณ 28,000 บาท) ทำให้ขายได้เฉพาะกับลูกค้าที่เฉพาะกลุ่มมาก ๆ แม้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา Fairphone จะทำกำไรได้อยู่ แต่ก็อาจลำบากเอาได้ หากมองไปถึงระยะยาว ตอนนี้ Hendriks จึงมองหาความเป็นไปได้ในการออกมือถือราคาย่อมเยา โดยตั้งเป้าไว้ที่ช่วงราคา 400 ยูโร (ประมาณ 16,000 บาท) ถูกลงกว่าเดิมเกือบครึ่ง

สำหรับการบุกตลาดนานาชาติ เบื้องต้น Fairphone ล็อกเป้าไว้แล้ว 23 ประเทศ แต่ยังเปิดเผยรายชื่อออกมาเพียงบางส่วน คือ ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์

ที่มา : Handelsblatt