Counterpoint Research ออกรายงานว่าตลาดมือถือจอพับในจีนเดินทางมาถึงจุดชะลอตัวลงตามเทรนด์ต่างประเทศในปีนี้ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 9.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเพียง 2% น้อยลงจนน่าใจหายเมื่อเทียบกับตัวเลข 103% ของปีก่อน เช่นเดียวกับการเติบโต 191% ในปี 2022 และ 442% ในปี 2020 ที่ต่างเป็นตัวเลขสามหลักทั้งสิ้น
Counterpoint Research บอกว่ามือถือจอพับกำลังก้าวเข้าสู่ ‘ช่วงเปลี่ยนผ่าน’ จากอุปกรณ์เฉพาะกลุ่มไปสู่อุปกรณ์กระแสหลัก ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้ผลิตต้องหาวิธีนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการกดราคาสินค้าให้ต่ำลง และนำเสนอให้เห็นถึงประโยชน์ของการนำไปใช้งานเพื่อดึงดูดผู้บริโภคหน้าใหม่
ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์ก็มองว่าบรรดาผู้ผลิตจะสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ตะกุกตะกักในช่วงนี้ไปได้ พร้อมชี้ให้เห็นว่ามือถือจอพับยังเป็น ‘ฟอร์มแฟกเตอร์แห่งความหวัง’ อยู่ (อย่างน้อยก็ในจีน) เพราะถึงแม้ยังตีตลาดแมสไม่แตก แต่สามารถพัฒนาต่อได้อีก ในขณะที่ตลาดมือถือบาร์ไทป์ซบเซา ทรง ๆ ทรุด ๆ มานานแล้ว
ส่วนในภาพรวมตลาดมือถือจอพับทั่วโลก ไตรมาสล่าสุดยอดขายหดตัวไป 1% หากเทียบตามรายปี นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังตัวเลขเป็นบวกติดต่อกัน 6 ไตรมาส สาเหตุหลักมาจาก Galaxy Z Fold6 และ Galaxy Z Flip6 ของซัมซุงกระแสตอบรับไม่แรงเหมือนรุ่นที่ผ่าน ๆ มา
ที่มา : Counterpoint Research ผ่าน SCMP
มันแพงเกิ๊นนนนน คนที่จ่ายไหว ก็ซื้อไปหมดแล้ว จะเปลี่ยนก็ใหม่ ก็ยังไม่ฉีกกะตัวเก่า โดยเฉพาะ fold กะ flip
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ถึงจะออกมาพับได้แต่ software ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์การใหญ่ และการพับได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นคนเติมตลาดก็เลยยังน้อย
สองเรื่องรวมกัน กลุ่มผู้ใช้มันอิ่มตัว และของใหม่ไม่แว๊วเพิ่ม ก็ใช้ของเดิมรอไปอีกปีก่อนก็ได้
แต่ก่อนแข่งกันถูก แข่งกันสุดคุ้ม
เดี๋ยวนี้แข่งกันแพง แพงจนถึงจุดนึง คนเห็นแพงมากไม่ซื้อ ก็ไปทำจอพับแพง เศรษฐกิจไม่ดี แถมทำออกมา ถามว่าตอนนี้ใช้งานจริงๆ เต็มประโยชน์สองจอได้เท่าใหร่กันเชียว
มันแพงมาก แถมไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้นถ้าไม่ได้ใช้สำหรับทำงานเต็มที่จริงๆ มันไม่มีอะไรว้าวแล้ว