หลังนินเทนโดประกาศราคา Nintendo Switch 2 ออกมาที่ 450 ดอลลาร์ (เดิม 300 ดอลลาร์) ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในระหว่างการถ่ายทอดสด Nintendo Treehouse เมื่อคืนนี้ ที่ภายในช่องแช็ตเต็มไปด้วยสแปม “DROP THE PRICE” เรียกร้องให้นินเทนโดลดราคาเครื่องและเกมลงมา

แม้แต่กับคิต เอลลิสต์ และคริสตา หยาง อดีตผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับอาวุโสของ Nintendo of America ก็เห็นพ้องต้องกันว่านินเทนโดตั้งราคามาแพงจริง ๆ
เอลลิสต์ชี้ให้เห็นว่า กรณีเครื่อง Nintendo Switch 2 อาจมีเหตุผลให้พอยอมรับได้บ้าง กับค่าตัว 450 ดอลลาร์ จากการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และภาวะเงินเฟ้อ แต่กับเกมที่เป็นซอฟต์แวร์นั้น เขาบอกว่าดูจะเกินไปหน่อย คือ Mario Kart World เปิดราคามา 80 ดอลลาร์ แพงกว่าเกม AAA ของ PlayStation 5 ที่ขายอยู่ 70 ดอลลาร์อีก แล้วเกมอย่าง Grand Theft Auto VI ที่จะออกตามมาทีหลัง ยังไม่รู้ว่าราคาจะพุ่งไปจบตรงไหน (มีข่าวลือว่าแตะ 100 ดอลลาร์)
(เพดานราคาเกมแรกเริ่มของนินเทนโดคือ 60 ดอลลาร์ ก่อนขยับเป็น 70 ดอลลาร์เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งรอบนั้นก็มีกระแสต่อต้านจากแฟนเกมไปพอสมควรเช่นกัน)
เอลลิสต์และหยาง ตำหนินินเทนโดว่า กำลังดูถูกสติปัญญาลูกค้า ที่ไม่ประกาศราคาในระหว่างงานแถลงข่าว (คิดว่าแฟนเกมพร้อมจะควักเงินซื้อโดยไม่สนใจเรื่องราคา) ทั้งยังทำให้เกิดความสับสนในวงกว้าง เปิดตัวเสร็จแล้ว ทั้งสื่อทั้งแฟนเกมยังนั่งงง ตกลงราคากี่บาทกันแน่
ทั้งคู่ยังบอกด้วยว่า ภายในคงรับรู้ถึงฟีดแบ็กเชิงลบเรื่องราคากันหมดแล้ว เพราะนินเทนโดจะจัดวอร์รูมให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมถกวิธีแก้ไขปัญหาทุกครั้งที่มีเหตุการณ์สำคัญ แต่ถึงตอนนี้ทุกอย่างดูนิ่งสนิท ไม่มีใครสักคนออกมาสื่อสารหรือทำอะไรบางอย่างเพื่อกู้สถานการณ์เลย สะท้อนให้เห็นว่านินเทนโดอาจไม่ได้แคร์ลูกค้ามากเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป
ที่มา : Kit & Krysta
หลักการตลาด อะไรที่เป็นข้อเสีย ไม่ควรบอกใน session หรือพูดนิดเดียว ซึ่งท้ายสุด ก็ไม่ได้ปิดบัง แค่ไม่ได้เปิดเผย
ส่วนตัว ราคาเครื่อง อย่างมากก็ซื้อ 2-3 เครื่อง (รุ่นปกติ lite Oled หรือพวก limited ต่างๆ) ถ้าขายไปสักพัก ราคาน่าจะลดลงตามกลไกตลาด ไว้ซื้อตอนนั้นก็ได้ ไม่รีบ เกมส์ หากแพงมาก ก็ซื้อน้อยลงตามที่มีกำลังซื้อ
ท้ายสุด ต่อให้นินมั่นใจมาก ถ้าขายไม่ดี ก็คงจะปรับราคาไปเอง ซึ่ง คนก็ค่อนแขะกันเหลือเกิน อยากให้มันแรง ซึ่งแรงก็มาคู่กับแพงอยู่แล้ว ปกติ เราก็รู้กันอยู่แล้วว่า cpu ที่ใส่ handheld ราคาไม่ถูกนะ