ในตอนนี้ iPhone ในดีไซน์แบบ Notch Display ได้เดินทางมาถึง iPhone 14 กันแล้ว ซึ่งก็ได้ผ่านการปรับดีไซน์แบบ Minor Change หลายต่อหลายครั้ง และในทุก ๆ ครั้งที่รุ่นใหม่เปิดตัว ก็มักจะมีฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ใส่มาเพื่อขายเครื่องรุ่นนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คนสับสนว่า “รุ่นไหนเพิ่มอะไรมาบ้างนะ ?” วันนี้เราเลยได้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบ iPhone ในดีไซน์แบบรอยบากทุกรุ่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่าได้เพิ่ม ตัด หรือลดฟีเจอร์ไหนไปบ้าง เพื่อไขข้อสงสัยให้ทุกคนได้กระจ่างกัน
อยากดูรุ่นไหน กดกระโดดข้ามไปดูรุ่นนั้นได้เลย
iPhone X
iPhone X ถือเป็นการนับศักราชใหม่ด้วยการพลิกรูปโฉมแบบหมดจดนับตั้งแต่ปี 2007 มาพร้อมกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่ถือเป็น “ครั้งแรก” บน iPhone อย่างเช่น
- จอ Super Retina HD OLED ไร้ขอบมีรอยบาก
- กล้องหน้า TrueDepth ที่รวมเซ็นเซอร์ไว้กว่า 6 ตัว เพื่อเก็บใบหน้าผู้ใช้งานแบบ 3 มิติ
- สร้างมาตรฐานปลดล็อกตัวเครื่องแบบใหม่ Face ID แทนที่ Touch ID บนปุ่ม Home ที่ใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ iPhone 5s
- มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic พร้อมชิป Neural Engine เป็นครั้งแรก
iPhone XR / XS / XS Max
ถัดมา 1 ปี Apple ได้เปิดตัว iPhone X รุ่นใหม่ได้แก่ iPhone XS พร้อมแตกไลน์อัพใหม่ 2 รุ่น อาทิ รุ่นพรีเมียมจอใหญ่อย่าง XS Max และ XR รุ่นเริ่มต้นโดยทั้ง 3 รุ่นได้มีการอัปเกรด (และดาวน์เกรด) แบบ Minor Change ไม่ทิ้งลายจาก iPhone X รุ่นก่อนมากนัก โดยเฉพาะ iPhone XS / XS Max ที่เรียกได้ว่าเหมือนกับ iPhone X แทบจะ 80% เลยก็ว่าได้ ซึ่งถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแบบสเปคประปราย แต่สิ่งที่ 3 รุ่นได้อัปเกรดเหมือนกันก็คือ
- ชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A12 Bionic ซึ่งมาพร้อมกับชิป Neural Engine รุ่นที่ 2
- กล้องหลัก Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อน 30% และมีค่า ISO ที่กว้างกว่าเดิม
- รองรับการประมวลผลภาพ HDR แบบใหม่ “Smart HDR” ที่จะช่วยปรับแสง ดึงรายละเอียดภาพออกมาได้ดีขึ้นไม่ว่าถ่ายในแดดจ้า ๆ หรือที่แสงน้อย
- เพิ่มฟีเจอร์ Advanced bokeh และ Depth Control ในกล้อง Portrait Mode ที่สามารถปรับความเบลอ และระยะตื้นลึกของภาพได้อิสระมากขึ้น
- เป็นครั้งแรกที่ iPhone รองรับ 2 ซิม ผ่านเทคโนโลยี eSIM
- อัดวิดีโอกล้องหน้าที่ความละเอียด 1080p ที่ 60fps และอัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอได้แล้ว
สิ่งที่ถูกดาวน์เกรดลงไปส่วนใหญ่จะมีในเฉพาะรุ่น iPhone XR โดยมีการตัดฟีเจอร์ ลดสเปค และลดเกรดวัสดุ เพื่อดั้มป์ราคาให้เบากว่าเดิมเกือบ 1 เท่า โดยสิ่งที่ถูกลดลงไปมีดังนี้
- ใช้จอ Liquid Retina HD IPS LCD ความละเอียด HD+ แทน OLED แต่ก็ทดแทนมาด้วยขนาดจอที่ใหญ่กว่ารุ่น XS เป็น 6.1 นิ้ว
- มีกล้องหลังแค่ตัวเดียว แต่ยังใช้ฟีเจอร์กล้องได้ครบครันโดยใช้ Software ช่วย
- ลดเกรดวัสดุจาก Stainless Steel ขัดเงา เป็น Aluminum แทน
- ตัด 3D Touch ออก ใช้ Haptic Touch แทนซึ่งภายหลังก็ได้กลายมาเป็นมาตรฐานของ iPhone รุ่นใหม่ ๆ
ตารางเทียบสเปค iPhone X, iPhone XR และ iPhone XS / XS Max
สเปค / รุ่น | IPHONE X | IPHONE XR | IPHONE XS / XS MAX |
หน้าจอแสดงผล | Super Retina HD OLED 60 Hz | Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz | Super Retina HD OLED 60 Hz |
ขนาดจอแสดงผล | 5.8″ | 6.1″ | XS – 5.8″ |
XS Max – 6.5″ | |||
ความละเอียด | 2436 x 1125 458ppi | 1792 x 828 326 ppi | XS – 2436 x 1125 458 ppi |
XS Max – 2688 x 1242 458 ppi | |||
CPU | A11 Bionic | A12 Bionic | A12 Bionic |
RAM | 3GB | 3GB | 4GB |
ความจุ | 64GB / 256GB | 64GB 128GB 256GB | 64GB 256GB 512GB |
กล้องหลัก | 12MP (Wide) f/1.8, 1.22µm, กันสั่น OIS | 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS | 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS |
กล้อง Ultra Wide | X | X | X |
กล้อง Telephoto | 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS | X | 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS |
Optical Zoom | x2 | X | x2 |
Digital Zoom | x10 | x5 | x10 |
กล้องหน้า | 7MP f/2.2 TrueDepth | 7MP f/2.2 TrueDepth | 7MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS |
การถ่ายวิดีโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 1080p @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 1080p @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 5 Blutooth 5.0 | ||
5G | X (4G LTE) | ||
ระบบ Dual SIM | X | ✓ (ผ่าน eSIM) | ✓ (ผ่าน eSIM) |
ลำโพง | ลำโพง Stereo | ลำโพง Stereo | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos |
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP67 (ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที) | IP67 (ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที) | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) |
แบตเตอรี่ | 2716 mAh | 2942 mAh | Xs: 2658 mAh |
Xs Max: 3174 mAh | |||
ชาร์จไว | 15W | ||
ชาร์จไร้สาย | Qi Wireless Charge 7.5W |
iPhone 11 Series
ปี 2019 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่โดยนับรุ่นเลขรุ่นต่อจาก iPhone X Series และข้ามรุ่นที่ 9 ไปแบบงง ๆ โดยเปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ iPhone 11 ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานที่มีการอัปเกรดจาก iPhone XR อีกนิดหน่อย เช่น
- อัปเกรดชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A13 Bionic ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 50% – 60% พ่วงด้วยชิป Neural Engine รุ่น 3
- เพิ่มกล้อง Ultrawide เข้าสู่ครอบครัว iPhone เป็นครั้งแรก
- เปลี่ยนเซ็นเซอร์กล้องหน้าใหม่เป็นกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- กันน้ำกันฝุ่นดีกว่าเป็นมาตรฐาน IP68 หมดทุกรุ่นแล้ว
- เพิ่มโหมดถ่ายรูปกลางคืน และมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Deep Fusion เข้ามาช่วยประมวลผลรูปถ่ายให้มีคุณภาพดีขึ้น
iPhone 11 Pro และ Pro Max เป็นซีรีส์รุ่นท็อปออกมาให้มีความชัดเจนมากขึ้นภายใต้คำจำกัดความว่า “Pro” ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้งานระดับสูง ได้รับการอัปเกรดที่เหมือนกับ iPhone 11 แต่มากกว่า
เพราะ iPhone 11 Pro และ Pro Max มาพร้อมกับหน้าจอแบบใหม่ Super Retinal Display XDR ที่สว่างขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า มีกล้องหลัง 3 ตัวเป็นครั้งแรกของ iPhone อีกทั้งยังได้แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น อึดขึ้นอีกด้วย
ตารางเทียบสเปค iPhone XR/XS Series กับ iPhone 11 Series
สเปค / รุ่น | iPhone 11 | iPhone XR | iPhone 11 / 11 Pro และ 11 Pro Max | iPhone XS / XS MAX |
หน้าจอแสดงผล | Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz | Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz | Super Retina XDR OLED 60 Hz | Super Retina HD OLED 60 Hz |
ขนาดจอแสดงผล | 6.1″ | 6.1″ | 11 Pro – 5.8″ | XS – 5.8″ |
11 Pro Max – 6.5″ | XS Max – 6.5″ | |||
ความละเอียด | 1792 x 828 326 ppi | 1792 x 828 326 ppi | 11 Pro – 2436 x 1125 458 ppi | XS – 2436 x 1125 458 ppi |
11 Pro Max – 2688 x 1242 458 ppi | XS Max – 2688 x 1242 458 ppi | |||
CPU | A13 Bionic | A12 Bionic | A13 Bionic | A12 Bionic |
RAM | 4GB | 3GB | 4GB | 4GB |
ความจุ | 64GB 128GB 256GB | 64GB 128GB 256GB | 64GB 256GB 512GB | 64GB 256GB 512GB |
กล้องหลัก | 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS | |||
กล้อง Ultra Wide | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | X | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | X |
กล้อง Telephoto | X | X | 12 MP f/2.0, 1.0µm, กันสั่น OIS | 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS |
Optical Zoom | x2 | X | x2 | x2 |
Digital Zoom | x5 | x5 | x10 | x10 |
กล้องหน้า | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 7MP f/2.2 TrueDepth | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 7MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS |
การถ่ายวิดีโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 1080p @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 1080p @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 Bluetooth 5.0 | Wi-Fi 5 Bluetooth 5.0 | Wi-Fi 6 Bluetooth 5.0 | Wi-Fi 5 Bluetooth 5.0 |
5G | X (4G LTE) | |||
ระบบ Dual SIM | ✓ (ผ่าน eSIM) | |||
ลำโพง | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos | ลำโพง Stereo | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos |
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) | IP67 (ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที) | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) |
แบตเตอรี่ | 3110 mAh | 2942 mAh | 11 Pro: 3046 mAh | Xs: 2658 mAh |
11 Pro Max: 3989 mAh | Xs Max: 3174 mAh | |||
ชาร์จไว | 18W | 15W | 11 Pro: 18W | 15W |
11 Pro Max: 20W | ||||
ชาร์จไร้สาย | Qi Wireless Charge 7.5W |
iPhone 12 Series
iPhone 12 Series เปิดตัวมาด้วยการใช้ดีไซน์แบบใหม่ที่จากเดิมเป็นขอบมน เปลี่ยนมาใช้ขอบตัวเครื่องแบบเหลี่ยมที่ทำให้นึกถึง iPhone 4 – 5s อีกทั้งยังเปิดตัวไลน์อัพใหม่อย่าง iPhone 12 mini ที่เป็นซีรีส์สำหรับ iPhone ขนาดเล็ก 5.4 นิ้ว ใช้งานมือเดียวสะดวก แต่ยังได้สเปคแบบเดียวกับเครื่องไซซ์ปกติ ส่วนสเปคหลัก ๆ ที่ได้รับการอัปเกรดมีดังนี้
- อัปเกรดพาเนลจอภาพเป็น OLED Super Retina XDR ทุกรุ่น
- ใช้วัสดุกระจกใหม่ Ceramic Shield Screen ทนกว่า iPhone 11 Series ถึง 2 เท่า
- ได้ชิปใหม่ Apple A14 Bionic
- รองรับ 5G เป็นครั้งแรก
- MagSafe ชาร์จแบบไร้สายได้ไวกว่าเดิมจากสูงสุด 7.5W เป็น 15W
- ฟีเจอร์ใหม่ถ่ายวิดีโอแบบ Dolby Vision HDR 4K@30fps
iPhone 12 Series ยังเริ่มสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Pro ให้มีความชัดเจนมากขึ้นด้วยการเก็บฟีเจอร์กล้องบางอย่างไว้ให้ในรุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งสเปคพิเศษของใน iPhone 12 Pro Series มีดังนี้
- เซ็นเซอร์วัดระยะวัตถุ LiDAR Scanner
- โหมดถ่ายภาพ Portrait ตอนกลางคืน
- ฟีเจอร์ถ่ายภาพระดับสูง ProRaw
ตารางเทียบสเปค iPhone 11 Series กับ iPhone 12 Series
สเปค / รุ่น | iPhone 12 / 12 mini | iPhone 11 | iPhone 12 Pro / 12 Pro Max | iPhone 11 / 11 Pro และ 11 Pro Max |
หน้าจอแสดงผล | Super Retina XDR OLED 60 Hz | Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz | Super Retina XDR OLED 60 Hz | Super Retina XDR OLED 60 Hz |
ขนาดจอแสดงผล | 12 – 6.1″ | 6.1″ | 12 Pro – 6.1″ | 11 Pro – 5.8″ |
12 mini – 5.4″ | 12 Pro Max – 6.7″ | 11 Pro Max – 6.5″ | ||
ความละเอียด | 12 – 2532×1170 460 ppi | 1792 x 828 326 ppi | 12 Pro – 2532 x 1170 460 ppi | 11 Pro – 2436 x 1125 458 ppi |
12 Mini – 2340×1080 476 ppi | 12 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi | 11 Pro Max – 2688 x 1242 458 ppi | ||
CPU | A14 Bionic | A13 Bionic | A14 Bionic | A13 Bionic |
RAM | 4GB | 4GB | 6GB | 4GB |
ความจุ | 64GB 128GB 256GB | 64GB 128GB 256GB | 128GB 256GB 512GB | 64GB 256GB 512GB |
กล้องหลัก | 12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS | 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS | iPhone 12 Pro 12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS | 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS |
iPhone 12 Pro Max 12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | ||||
กล้อง Ultra Wide | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120 | |||
กล้อง Telephoto | X | X | iPhone 12 Pro 12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS | 12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS |
iPhone 12 Pro Max 12 MP f/2.2, 1.0µm, 65mm, กันสั่น OIS | ||||
Optical Zoom | x2 | x2 | iPhone 12 Pro: ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2 | x2 |
iPhone 12 Pro Max: ซูมเข้า: x2.5 ซูมออก: x2.5 | ||||
Digital Zoom | x5 | x5 | x12 | x10 |
กล้องหน้า | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | |||
การถ่ายวิดีโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | |||
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 Blutooth 5.0 | |||
5G | ✓ | X (4G LTE) | ✓ | X (4G LTE) |
ระบบ Dual SIM | ✓ (ผ่าน eSIM) | |||
ลำโพง | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos | |||
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) | |||
แบตเตอรี่ | 12 : 2815 mAh | 3110 mAh | 12 Pro: 2815 mAh | 11 Pro: 3046 mAh |
12 mini : 2227 mAh | 12 Pro Max: 3687 mAh | 11 Pro Max: 3989 mAh | ||
ชาร์จไว | 20W | 18W | 12 Pro: 20W | 11 Pro: 18W |
12 Pro Max: 22W | 11 Pro Max: 20W | |||
ชาร์จไร้สาย | Qi Wireless Charge 7.5W MagSafe fast wireless charging 15W | Qi Wireless Charge 7.5W | Qi Wireless Charge 7.5W MagSafe fast wireless charging 15W | Qi Wireless Charge 7.5W |
iPhone 13 Series
iPhone 13 Series มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องดีไซน์นิดหน่อย มีการลดขนาดของรอยบากให้เล็กลงจากในรุ่นก่อน 20% เปลี่ยน Layout กล้องจากแนวตั้งมาเป็นแนวทแยงเพื่อให้รับแสงได้มากกว่าเดิม 47% มาพร้อมจอแสดงผลที่สว่างกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังใส่กันสั่นแบบ Sensor Shift ให้กับกล้องหลักทุกรุ่น
ในซีรีส์นี้ยังได้ใส่ชิปเซ็ตประมวลผล Apple A15 Bionic รุ่นใหม่ที่ช่วยให้คุณภาพภาพถ่าย และวิดีโอดีขึ้น และประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น พ่วงด้วย Neural Engine รุ่นใหม่ที่ประมวลผลข้อมูลรวดเร็วกว่าเดิม 44% และทำให้เราได้โหมดกล้องใหม่ ๆ อย่าง Cinematic mode ให้ได้ลองเล่นกันทุกรุ่น แถมยังถ่ายวิดีโอ HDR Dolby Vision ได้สูงสุด 60fps บนความละเอียด 4K ด้วย
ในรุ่น Pro รอบนี้ได้สร้างความแตกต่างด้วยการเลือกใช้พาเนลที่จอ OLED ตัวใหม่ที่มีรีเฟรชเรตแบบ ProMotion ลื่นไหลสูงสุดกว่า 120Hz และใช้ชิปประมวลผล Apple A15 Bionic ที่มีชิป GPU มากกว่าในรุ่นมาตรฐานจาก 4 คอร์ เป็น 5 คอร์ ด้วยประสิทธิภาพชิปประมวลผลที่ดีกว่าทำให้ iPhone 13 Pro Series สามารถถ่ายวิดีโอในคุณภาพระดับสูงอย่าง ProRes ที่ความละเอียด 4k@30fps ได้
ตารางเทียบสเปค iPhone 12 Series กับ iPhone 13 Series
สเปค / รุ่น | iPhone 13 / 13 mini | iPhone 12 / 12 mini | iPhone 13 Pro / 13 Pro Max | iPhone 12 Pro / 12 Pro Max |
หน้าจอแสดงผล | Super Retina XDR OLED 60Hz | Super Retina XDR OLED 60Hz | Super Retina XDR 120Hz | Super Retina XDR OLED 60Hz |
ขนาดจอแสดงผล | 13 – 6.1″ | 12 – 6.1″ | 13 Pro – 6.1″ | 12 Pro – 6.1″ |
13 mini – 5.4″ | 12 mini – 5.4″ | 13 Pro Max – 6.7″ | 12 Pro Max – 6.7″ | |
ความละเอียด | 13 – 2532 x 1170 460 ppi | 12 – 2532 x 1170 460 ppi | 13 Pro – 2532 x 1170 460 ppi | 12 Pro – 2532 x 1170 460 ppi |
13 mini – 2340 x 1080 476 ppi | 12 mini – 2340 x 1080 476 ppi | 13 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi | 12 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi | |
CPU | A15 Bionic (GPU 4 คอร์) | A14 Bionic | A15 Bionic (GPU 5 คอร์) | A14 Bionic |
RAM | 4GB | 4GB | 6GB | 6GB |
ความจุ | 128GB 256GB 512GB | 64GB 128GB 256GB | 128GB 256GB 512GB 1TB | 128GB 256GB 512GB |
กล้องหลัก | 12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | 12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS | 12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | iPhone 12 Pro 12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS |
iPhone 12 Pro Max 12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | ||||
กล้อง Ultra Wide | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/1.8, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ |
กล้อง Telephoto | X | X | 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS | iPhone 12 Pro 12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS |
iPhone 12 Pro Max 12 MP f/2.2, 1.0µm, 65mm, กันสั่น OIS | ||||
Optical Zoom | x2 | x2 | ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2 ช่วงซูม: x6 | iPhone 12 Pro ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2 |
iPhone 12 Pro Max ซูมเข้า: x2.5 ซูมออก: x2.5 | ||||
Digital Zoom | x5 | x5 | x15 | x10 |
กล้องหน้า | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS |
การถ่ายวิดีโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 Blutooth 5.0 | |||
5G | ✓ | |||
ระบบ Dual SIM | ✓ (ผ่าน eSIM) | |||
ลำโพง | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos | |||
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) | |||
แบตเตอรี่ | 13: 3240 mAh | 12 : 2815 mAh | 13 Pro: 3095 mAh | 12 Pro: 2815 mAh |
13 mini : 2438 mAh | 12 mini : 2227 mAh | 13 Pro Max: 4352 mAh | 12 Pro Max: 3687 mAh | |
ชาร์จไว | 13: 23W | 20W | 13 Pro: 23W | 12 Pro: 20W |
13 mini : 18W | 13 Pro Max: 27W | 12 Pro Max: 22W | ||
ชาร์จไร้สาย | Qi Wireless Charge 7.5W MagSafe fast wireless charging 15W |
iPhone 14 Series
เดินทางมาถึง iPhone 14 Series รุ่นล่าสุดแล้ว ซึ่งรุ่นมาตรฐานในรอบนี้ มีสเปคที่คล้ายกันกับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini แบบสุด ๆ ยกเว้นขนาดหน้าจอที่ iPhone 14 Series ได้ตัดรุ่นเล็กไซซ์มินิออกไป และเพิ่มซีรีส์จอใหญ่ที่ห่างหายไปนานอย่าง iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้วเข้ามาแทน
ด้านชิปเซ็ตประมวลผลก็มีความต่างเพียงนิดเดียว เพราะแค่เปลี่ยนมาใช้ชิป A15 Bionic 5 คอร์ จากเดิมที่มีแค่ 4 คอร์ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์หลายหลายที่เพิ่มเข้ามาดังนี้
- กล้องถ่ายภาพอัปเกรดให้ถ่ายในที่แสงน้อยดีขึ้น
- โหมดถ่ายวิดีโอกันสั่นแบบ Action Mode
- ฟีเจอร์ส่ง SOS ผ่านดาวเทียม
- ระบบตรวจจับการชน Crash Detection
iPhone 14 Pro Series ถือว่าได้สร้างความแตกต่างอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะได้อัปเกรดสเปคหลากหลายที่รุ่นมาตรฐานไม่มี เช่น
- Dynamic Island
- พาเนลจอแบบใหม่ LTPO OLED
- รองรับการแสดงผลแบบ Always-on Display
- เพิ่มความละเอียดกล้องหลักไปที่ 48MP จากความละเอียดเดิม 12MP
- Photonic Engine
ตารางเทียบสเปค iPhone 13 Series กับ iPhone 14 Series
สเปค / รุ่น | iPhone 14 / 14 Plus | iPhone 13 / 13 mini | iPhone 14 Pro / 14 Pro Max | iPhone 13 Pro / 13 Pro Max |
หน้าจอแสดงผล | Super Retina XDR 60Hz | Super Retina XDR 60Hz | LTPO Super Retina XDR 120Hz | Super Retina XDR 120Hz |
ขนาดจอแสดงผล | 14 – 6.1″ | 13 – 6.1″ | 14 Pro – 6.1″ | 13 Pro – 6.1″ |
14 Plus – 6.7″ | 13 mini – 5.4″ | 14 Pro Max – 6.7″ | 13 Pro Max – 6.7″ | |
ความละเอียด | 14 – 2532 x 1170 460 ppi | 13 – 2532 x 1170 460 ppi | 14 Pro – 2556 x 1179 460 ppi | 13 Pro – 2532 x 1170 460 ppi |
14 Plus – 2778 x 1284 458 ppi | 13 Mini – 2340 x 1080 476 ppi | 14 Pro Max – 2796 x 1290 460 ppi | 13 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi | |
CPU | A15 Bionic (GPU 5 คอร์) | A15 Bionic (GPU 4 คอร์) | A16 Bionic | A15 Bionic (GPU 5 คอร์) |
RAM | 6GB | 4GB | 6GB | 6GB |
ความจุ | 128GB 256GB 512GB | 128GB 256GB 512GB | 128GB 256GB 512GB 1TB | 128GB 256GB 512GB 1TB |
กล้องหลัก | 12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | 12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift | 48MP (Wide) f/1.8, 1.22µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift, Quad Pixel | 12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift |
กล้อง Ultra Wide | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/2.2, มุมกว้าง 120˚ | 12 MP, f/1.8, มุมกว้าง 120˚ |
กล้อง Telephoto | X | X | 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS | 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS |
Optical Zoom | ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2 | x2 | ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2 ช่วงซูม: x6 | ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2 ช่วงซูม: x6 |
Digital Zoom | x5 | x5 | x15 | x15 |
กล้องหน้า | 12MP f/1.9 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS | 12MP f/1.9 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS + AutoFocus | 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS |
การถ่ายวิดีโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps, กันสั่น Action mode กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps, กันสั่น Action mode กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ | กล้องหลัง: 4K @ 60 fps กล้องหน้า: 4K @ 60 fps อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 Blutooth 5.3 | Wi-Fi 6 Blutooth 5.0 | Wi-Fi 6 Blutooth 5.3 | Wi-Fi 6 Blutooth 5.0 |
5G | ✓ | |||
ระบบ Dual SIM | ✓ (ผ่าน eSIM) | |||
ลำโพง | ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos | |||
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น | IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) | |||
แบตเตอรี่ | 14: 3279 mAh | 13: 3240 mAh | 14 Pro: 3200 mAh | 13 Pro: 3095 mAh |
14 Plus: 4323 mAh | 13 mini : 2438 mAh | 14 Pro Max: 4323 mAh | 13 Pro Max: 4352 mAh | |
ชาร์จไว | ยังไม่มีรายละเอียด | 13: 23W | ยังไม่มีรายละเอียด | 13 Pro: 23W |
13 mini : 18W | 13 Pro Max: 27W | |||
ชาร์จไร้สาย | Qi Wireless Charge 7.5W MagSafe fast wireless charging 15W |
และนี่คือทั้งหมดของสเปค iPhone รุ่นรอยบากทุกรุ่นที่เราได้รวบรวมมาเปรียบเทียบให้ชมกัน นอกจากเราจะได้รู้เรื่องฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นแล้ว เรายังได้เห็นพัฒนาการของ iPhone ในแต่ละปีที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ ด้วย
หลัก ๆ แล้วใครที่ยังถือ iPhone 12 Series อยู่ อาจจะยังไม่คุ้มค่าที่อัปเกรดสักเท่าไหร่ เพราะชิป A14 ก็ยังแรงใกล้ ๆ ชิปรุ่นท็อปในยุคนี้อยู่ แถมฟีเจอร์กล้องที่ได้มา เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Series ก็ถือว่ายังไม่ขาดสักเท่าไหร่
แต่หากใครที่กำลังถือ iPhone X Series ลงไปแล้วล่ะก็ อาจจะถึงคราวที่ต้องอัปเกรดกันแล้ว เพราะไม่มีทั้งกล้อง Ultrawide, โหมดถ่ายภาพกลางคืน อีกทั้งชิป A11 และ A12 Bionic ที่ตกรุ่นไปหลายปีแล้ว และในอนาคตเราจะได้เห็น Apple เข็นฟีเจอร์ และสเปคอะไรใหม่มาเพื่อผู้ใช้งานกันอีก ต้องคอยติดตามกันครับ
สุดท้ายหากอยากดูการเทียบกล้องของมือถือ iPhone ตั้งแต่รุ่น XS Max จนถึง 14 Pro Max อ่านได้ที่บทความนี้
อ้างอิง: Apple, GSMArena
Comment