รถยนต์ไร้คนขับ Waymo จากบริษัท Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ได้เริ่มทดสอบวิ่งบนถนนสาธารณะรับส่งผู้โดยสารจริงๆ แล้วในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งคราวนี้ถือเป็นการวิ่งบนถนนสาธารณะเป็นครั้งแรกของ Waymo โดยไม่มีเจ้าหน้าที่นั่งคุมอยู่หลังพวงมาลัยอีกด้วย
โปรเจ็คท์รถยนต์ไร้คนขับได้เริ่มพัฒนากันมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ภายใต้การควบคุมของ Google อยู่ ในชื่อ Google Self-Driving Car และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Waymo หลังจากที่แยกตัวออกมาจาก Google เพื่อพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเพียงอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้ Waymo ได้ปล่อยให้รถไร้คนขับคันนี้วิ่งไปเองเรื่อยๆในเขตตัวเมือง โดยมีพนักงานคอยนั่งอยู่ที่เบาะคนขับเพื่อกดปุ่มหยุดฉุกเฉินหากมีปัญหาเกิดขึ้น และเมื่อปีที่แล้ว Waymo ได้ทำการทดสอบใช้รถ Waymo เป็นแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารฟรีให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในแถบชานเมืองฟีนิกซ์ไปรอบนึงแล้วและยังไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น
ตอนนี้ Waymo ก็เริ่มมั่นใจในประสิทภาพและความปลอดภัยในรถไร้คนขับของตัวเองระดับนึงแล้ว จึงปล่อยให้รถออกมาวิ่งในเขตตัวเมืองฟีนิกซ์แบบไม่มีใครนั่งคุมเลย มีแค่ลูกค้าที่ใช้บริการให้ Waymo ขับไปส่งที่จุดหมายเท่านั้น โดยได้ทำการอัดวิดีโอเอาไว้อีกด้วย
ภายในรถจะมีปุ่ม 4 ปุ่ม ให้ผู้โดยสารกดได้ ปุ่ม Help สำหรับติดต่อกับคอลเซ็นเตอร์ของ Waymo, ปุ่มล็อคและปลดล็อคประตู, ปุ่ม Pull Over สำหรับให้รถจอดข้างทาง และปุ่มสุดท้าย Start Ride เมื่อพร้อมจะออกรถ
ภายในรถยังมีหน้าจอติดเอาไว้ตรงด้านหลังของที่พิงหัวของเบาะหน้า สำหรับแสดงกราฟฟิคแผนที่ 3 มิติ มีภาพกราฟฟิคของรถคันอื่น รถจักรยาน หรือคนที่อยู่รอบๆตัวรถแบบเรียลไทม์ให้ผู้โดยสารได้ดูเพื่อความมั่นใจอีกด้วย
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไม Waymo ถึงได้ทดลองวิ่งในเมืองฟีนิกซ์ก่อนนั้น เป็นเพราะว่าเมืองนี้มีภูมิอากาศแบบอบอุ่น และมีแดดจ้าเกือบทุกวัน นานๆทีถึงจะมีฝน หรือหิมะตกซักครั้ง แต่ถึงยังไงรถ Waymo ก็ยังสามารถวิ่งตอนที่ฝนตกเบาๆได้ นอกจากนี้เมืองฟีนิกซ์ยังมีสภาพพื้นถนนที่ดี และมีการจราจรที่ไม่คับคั่ง ทำให้รถไร้คนขับสามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัย โดยหลังจากนี้ Waymo จะเริ่มไปทดลองวิ่งในเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน เพื่อทดสอบว่ารถคันนี้จะสามารถวิ่งได้ดีในภูมิอากาศที่เย็นกว่ารึเปล่า
และคาดว่าอีกไม่นาน Waymo จะเริ่มทำให้รถไร้คนขับเหล่านี้กลายเป็นธุรกิจแท็กซี่รับส่งผู้โดยสารอย่างเต็มตัวในเขตเมืองฟีนิกซ์ และอาจจะขยายออกไปเป็นธุรกิจรถบรรทุกสินค้าไร้คนขับในอนาคต
ที่มา : Arstechnica
เยี่ยมเรย ในอนาคตอันใกล้ เวลาไปไหนไกลๆ จะได้ไม่ต้องขับรถเองให้เหนือย นอนไปในรถได้เลย พอถึงที่ก็เริ่มท่องเที่ยวได้เลย
หวังว่า คงประยุกใช้กับเมืองไทยได้ไม่ยากเย็นนะ เพราะมอไซด์ เยอะเหลือเกิน จะทำอย่างไรให้หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ดีที่สุด
กับเมืองไทยผมว่า(โคตร)ยากครับ 555 บ้านเราเส้นทึบเส้นประ ห้ามเลี้ยว ฯลฯ ไม่มีความหมาย นึกจะเข้าก็หักเข้าเลย รับรองว่าเอามาวิ่งในกรุงเทพไม่ถึงครึ่งวัน ชน แน่นอน
ครับ ที่ชนน่ะ ผมคิดว่าคนขับรถชนรถ google ไม่ใช่รถ google ชนคันอื่นหรอก
เพราะยังไงคอมพิวเตอร์ ก็ไม่มีอารมณ์เสีย แล้วขับรถขาดสติแน่นอน หรือว่าขับแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยง ไม่คิดหน้าคิดหลัง
ว้าว ทำความเร็วสูงสุดได้เท่าไรเนี่ย เห็นตอน google car ไร้คนขับตอนทดลองขับตอนแรกๆเลย ปี 2010 มั้ง ทำ max speed ได้ถึง 120 mile/hr โดยไม่เกิดอุบัติเหตุเลยนะครับ
แต่ใช้งานเชิงพาณิชย์ ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยไว้ด้วย (safety factor) วิ่งทางไกลระหว่างรัฐได้สัก 80-90 mile/hr ได้ก็ใช้งานจริงทางปฏิบัติได้แล้วล่ะ
ผมอาจจำผิด ตอนเริ่มทดสอบตอนนั้น อาจจะ แค่ 100 mile/hr ไม่ใช่ 120
ต้องกลับไปเปิด youtube หาดูครับ มันนานมาแล้ว
160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยเหรอ
ใช่ครับ 160 แต่เป็น version ทดสอบนะ
และก็วิ่งบน highway
ถ้าหลายอย่างเอื้ออำนวย ก็มีประโยชน์มากเลยครับ
แต่ก็อย่างว่าแหละเนาะ "เราไม่ชนเขา แต่ เขาอาจชนเรา" ~
เป็นได้ เพราะพอรู้ว่าเป็นรถไร้คนขับ รถอื่นจะเบียด ตัดหน้า ยังไงรถไร้คนขับก็จะเบรคให้ทุกครั้ง เพราะหลีกเลี่ยงการชน แบบนี้พวกมอไซด์ชอบเลย ตัดหน้ากันมันส์
ถ้าใช้ระบบเดียว ไม่มี คนขับปะปนด้วย น่าจะแก้ปัญหา ชน หรือ รถติดได้นะ
ผมว่า คนที่ขับรถ ไม่ยอมหรอกครับ เพราะเขามีสิทธิขับ
คงต้องร่วมๆ แบ่งปันถนนกันไป