หูฟัง True Wireless รูปลักษณ์แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร Galaxy Buds Live หูฟังสไตล์ Earbuds ที่มาพร้อมกับดีไซน์หน้าตาเหมือนถั่วพร้อมสเปคที่น่าสนใจมากมายทั้งระบบตัดเสียง ANC ที่มักจะใส่มาบนหูฟังประเภท in-ear ระบบ Touch Control แบบสัมผัสที่สะดวกสบาย ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นยังไง เสียงจะดีหรือเปล่า แล้วมันต้องใส่แบบไหน จะคุ้มค่าตัว 6,990 บาท หรือเปล่า? มาดูกันได้ในรีวิวนี้ครับ
สเปค Galaxy Buds Live
ขนาดไดรเวอร์ | 12 มม. |
ย่านความถี่ | 2 Hz-20,000 Hz |
ฟอร์แมตเสียงที่ซัพพอร์ต | SBC AAC |
Active Noise Cancelation (ระบบตัดเสียงรบกวน) | ✔️ |
Ambient Sound Mode (ระบบเร่งเสียงภายนอก) | ❌ |
แบตเตอรี่ | ฟังได้สูงสุด 6 ชั่วโมง/ชาร์จ 1 ครั้ง |
ระบบชาร์จไฟ | USB-C |
Bluetooth | 5.0 |
ระยะ | 10 เมตร |
น้ำหนัก | 53.4 กรัม (หูฟัง 5.6 กรัม, กล่องชาร์จ 42.2 กรัม) |
ดีไซน์ และ วัสดุ
สิ่งแรกเลยที่น่าจะเรียกสายตาทุกคนได้ดีที่สุด คือการออกแบบที่สวยหรู และไม่เหมือนใครนั่นเอง ต้องบอกด้วยความรู้สึกส่วนตัวเลยว่านี่เป็นหูฟัง TWS ที่ดีไซน์สวยหรู และแปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา โดยที่ทางทีมงานได้มานั้นเป็นสี Mystic Bronze ที่เฉดออกไปทางชมพูทองแดง ๆ ดูสวยหรูมีสไตล์มาก ๆ อีกหนึ่งจุดสังเกตที่น่าสนใจก็คือ Galaxy Buds Live ไม่มีก้านหูฟัง ทำให้เวลามองจากด้านหน้า คนอื่นแทบจะมองไม่เห็นเลยว่าใส่หูฟังอยู่ ในส่วนของวัสดุนั้นเป็นพลาสติกน้ำหนักเบาที่มีผิวหูฟังแบบมันเงา ซึ่งข้อเสียนิดนึงคือมันติดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายนั่นเอง
ส่วนตัวกล่องชาร์จก็มาพร้อมกับดีไซน์แบบด้านเป็นพลาสติกสี Mystic Bronze แบบเดียวกับตัวหูฟัง ฝากล่องมีความแน่นฝืดในระดับหนึ่งทำให้มีความรู้สึกที่แข็งแรงสมบุกสมบันมาก อีกทั้งยังมีแม่เหล็กติดตั้งอยู่บริเวณขอบ ๆ ทำให้เวลาปิดรู้สึกแน่นปลอดภัยไม่กลัวฝาเปิดออกเอง ส่วนด้านหน้าของกล่องหูฟังมีไฟ LED แสดงสถานะของแบตเตอรี่อีกด้วย
การสวมใส่
ในเรื่องความสบายในการสวมใส่ บอกเลยว่าเห็นครั้งแรกแล้วชวนงงมาก ๆ เพราะจากหน้าตาดูไม่ออกเลยว่าจะใส่ยังไง แต่หากใส่ถูกวิธีแล้วกลับรู้สึกกระชับสบายอย่างประหลาด แต่ต้องบิด ๆ ขยับ ๆ ซักนิดหน่อยเพื่อให้หูฟังเข้าล็อคของมัน ซึ่งจากการทดลองใส่กับคนในออฟฟิศ Droidsans แล้วทุกคนสามารถใส่ได้อย่างไม่มีปัญหาเลย (ข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็คือคนที่มีหูเล็กจะไม่สามารถใส่ได้ เพราะขนาดของ Galaxy Buds Live นั้นค่อนข้างใหญ่นั่นเองครับ 😥)
หูฟังรุ่นนี้แตกต่างจากดีไซน์แบบ In-ear ที่ต้องยัดเข้าไปในรูหูเพื่อให้เกิดการซีลเสียงทำให้เสียงเงียบและได้รับย่านเบสที่ดีขึ้น แต่สำหรับ Galaxy Buds Live ใช้ดีไซน์ที่แตกต่างด้วยการสวมใส่แบบ Ear Buds ซึ่ง Galaxy Buds Live ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังแนวยัดหูเพราะอาจจะทำให้รู้สึกอัดอัด
Buds Live ตัวนี้ท่อเสียงวางอยู่ค่อนข้างห่างจากรูหูในระดับหนึ่งทำให้ได้เวทีเสียงกว้างกว่าที่คิดมาก ๆ ส่วนเรื่องความสบายก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะสามารถใส่ได้ยาวนานหลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกปวดหู แถมไม่มีตัวก้านลงมาให้เกะกะอีกด้วย
การเชื่อมต่อ
ถ้าความสะดวกสบายของหูฟัง Apple AirPods และ AirPods Pro คือสุดยอดการเชื่อมต่อที่รวดเร็วสะดวกสบายแล้วละก็ Galaxy Buds Live ทำได้แบบนั้นเลยครับ เพราะตั้งแต่ได้หูฟังมาแล้วเปิดฝา มือถือซีรีส์ Galaxy ที่อยู่ข้าง ๆ นั้นก็ขึ้น Option ให้เชื่อมต่อ Buds Live แบบทันควันเลยทีเดียว แล้วหลังจากนั้นเพียงเปิดฝา ตัวมือถือก็จะทำการ Pair กับมือถือโดยอัตโนมัติฟังได้ทันทีเลยครับ
แต่จะมีข้อสังเกตอยู่ที่การดีเลย์เสียงสักนิดหน่อย การเชื่อมต่อเพื่อดูหนังใน Netflix หรือ YouTube ก็ไม่มีปัญหาเลยเสียงตรงปากแทบไม่รู้สึกว่าดีเลย์ แต่การเล่นเกมจำพวกเข้าจังหวะ (Rhythm Games) อาจจะไม่ค่อยเหมาะซักเท่าไหร่เพราะเล่นแทบไม่ได้เลยครับผม (บางเกมสามารถไปปรับค่าดีเลย์เสียงในเกมได้นะครับ)
การควบคุม และการใช้งานเบื้องต้น
สำหรับการควบคุมของ Galaxy Buds Live นั้นค่อนข้างเรียบง่ายเลยทีเดียว ด้วยแถบสัมผัสบนตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างทำให้เราสามารถปรับแต่งการควบคุมต่าง ๆ ผ่านแอปได้ โดยการแตะ 1, 2, 3 ครั้ง เพื่อสั่งคำสั่งต่าง ๆ และกดค้างที่หูข้างซ้าย และข้างขวารวมเป็น 5 คำสั่ง (เสียดายที่ไม่มีคำสั่งแบบลากนิ้วเพื่อลดเสียง) แต่มีข้อสังเกตอยู่ตรงทุกครั้งที่เราต้องการขยับหูฟังเวลาหลวมนั้น ด้วยความที่แถบสัมผัสคือทั้งตัวหูฟัง ทำให้อาจจะพลาดไปกดหยุดเพลงอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนการใช้งานสนทนาเราก็สามารถกดรับสายได้ด้วยการแตะ 2 ครั้ง และกดสองครั้งเพื่อวางสาย อีกทั้งเสียงไมค์เมื่อพูดคุยก็ดังชัดถ้อยชัดคำไม่ขาดเลย
ระบบตัดเสียงรบกวน ANC
ถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอสมควรที่เราได้เห็นฟีเจอร์ Active Noise Cancelling ใส่เข้ามาในหูฟังประเภท Earbuds แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้เพราะระบบตัดเสียงรบกวน ANC ทำงานได้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าหูฟังประเภท In-ear หรือ Over-ear เท่าไหร่นัก เนื่องจาก ANC ของ Buds Live จะลดเฉพาะเสียง Low-Band ย่านต่ำจำพวกเสียงแอร์หรือเสียงพัดลมเท่านั้น
แบตเตอรี่
ตามสเปคที่ Samsung ได้ให้ไว้ Galaxy Buds Live สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมง พร้อมชาร์จแบตจากเคสได้อีก 21 ชั่วโมง เลยทีเดียว แต่จากที่ได้ลองใช้มาเกือบ 2 สัปดาห์ โดยใช้ส่วนใหญ่คือการเปิดฟังระหว่างเดินมาทำงาน และฟังเพลงระหว่างวันบ้าง ก็สามารถใช้งานได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จเลยซักครั้ง สำหรับการชาร์จไฟกลับไปที่ตัวเคสก็จะใช้พอร์ต USB-C เสียบด้านหลังของกล่อง
เสียง
มาถึงจุดที่ทุกคนน่าจะสนใจกันมากที่สุดคือเรื่องเสียงนั่นเองครับ โดย Galaxy Buds Live ตัวนี้มาพร้อมกับ Dynamic Driver ขนาด 12มม ที่ได้รับการปรับแต่งเสียงจาก AKG เหมือนกับหูฟัง Galaxy Buds Plus ที่เป็นหูฟังประเภท In-ear แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ Buds Live นั้นเป็นหูฟังประเภท Earbuds ซึ่งให้คาแรคเตอร์เสียงที่ต่างกันมาก
ย่านต่ำ
ปกติแล้วย่านเบสนั้นเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะแค่จูนค่า EQ ให้สูงเพื่อดึงเสียงย่านต่ำให้มันดังขึ้นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว แต่ความจริงแล้วย่านเบสมีความละเอียดอ่อนกว่านั้นมาก โดย Galaxy Buds Live เป็นหูฟังประเภท Earbuds แบบไม่มีจุกยางทำให้ตัวหูฟังไม่ได้อุดรูหูผู้ใช้จนสนิท ทำให้ตามหลักแล้วย่านเบสอาจจะไม่ดีและรั่วไหลบ้าง
แต่จากที่ได้ฟังแล้วค่อนข้างแปลกใจมากเพราะเสียงย่านเบสที่ได้ มีอิมแพคมาเต็ม และรายละเอียดสูงมาก เป็นเบสที่มีมวล เก็บตัวไวไม่บวมแล้วไม่ทิ้งร่องรอยกลบเสียงย่านอื่นเลย ยกตัวอย่าง Sample เพลง “The Plan” ของ Travis Scott ที่เริ่มเพลงมาด้วยเสียง Hard Bass ทั้งสองข้างสลับกับเสียงหายใจ โดย Buds Live ขับเสียงต่ำออกมาได้ชัดมีมวล โดยที่เรายังสามารถฟังเสียงในพื้นหลังได้อย่างชัดเจนเลยครับ
ย่านกลาง
ย่านกลางจำพวกเสียงร้องไปจนถึงเสียงสังเคราะห์ต่าง ๆ ทำออกมาได้ชัดหวานอุ่นมีน้ำมีนวลมาก ตำแหน่งของเสียงกลางจะไม่โผล่มาด้านหน้ามาก จะกระจายอยู่รอบ ๆ ให้รายละเอียดที่ดีตลอดทั้งกลางสูง และ กลางต่ำ ยิ่งควบคู่มากับย่านเบสที่สะอาดใสตามที่กล่าวข้างต้นแล้วช่วยให้เสียงมี Dynamic ที่ดีมากยิ่งเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น เสียงไม่แตก แต่กลับรู้สึกอิ่ม และรายละเอียดเยอะขึ้น
ย่านสูง
ถือว่าน่าตกใจมากเพราะเสียงสูงของ Galaxy Buds Live ทำออกมาได้ดีทีเดียว เป็นเสียงสูงแบบที่มีรายละเอียด ไม่แหลมเสียดหู น่าจะด้วยรูปแบบหูฟังที่เป็นแบบเปิดทำให้เสียงสูงนั้นมีความรู้สึกที่กว้างไม่อุดอู้ เพลงจำพวก EDM ที่มีส่วนประกอบเสียงเยอะ เราก็ยังสามารถได้ยินเสียงย่านสูงอยู่ไกล ๆ ได้ (บางครั้งก็โดนกลางเสียงย่านกลางกับ ต่ำกลบบ้าง)
เวทีเสียง
ถือว่าเป็นพระเอกของ Galaxy Buds Live เลยก็ว่าได้เพราะตั้งแต่ฟังมาจนถึงตอนนี้สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว้าวที่สุดเลย ก็คือเวทีเสียงที่กว้างมาก (ก หลายตัว 🤣) ด้วยความที่รูปแบบของหูฟัง เป็นแบบ Earbuds รูปแบบเปิด ทำให้เสียงที่ได้มีความกว้างโล่งสบายมาก สามารถแยกชิ้นดนตรีซ้ายขวาได้อย่างแม่นยำ เสียงมันกว้างเปิดมากจนบางครั้งเมื่อกดเล่นเพลงแล้วก็คิดว่าเปิดจากลำโพงเลยทีเดียว บางครั้งที่ฟังเพลงที่มีเสียงสังเคราะห์เยอะ ๆ ให้ความรู้สึกเหมือน เสียงนั้นลอยอยู่กลางอากาศเลยทีเดียว
สรุป
Galaxy Buds Live ถือว่าเป็นหนึ่งในหูฟังที่น่าชื่นชมมากด้วยความกล้าในการดีไซน์รูปแบบหูฟังที่ไม่เหมือนใคร (แถมทำออกมาแล้วใส่สบายอีกด้วย) บวกกับคุณภาพเสียงคุณภาพที่เกินมาตรฐานมากสำหรับหูฟังประเภท Earbuds แต่อาจจะมีข้อสังเกตตรงการทำงานของ ANC ที่เห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างน้อยไปหน่อย เพราะเป็นหูฟังแบบ Earbuds ที่ไม่มีการซีลเสียงได้ดีเหมือนหูฟังแบบ In-ear หรือ Over-ear นั่นเอง แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหูฟังสาย Entertainment ที่น่าจับตามองมาก สำหรับใครที่ชอบหูฟังสไตล์ Earbuds ที่ให้เวทีเสียงกว้างฟังสบายไม่อุดอู้ต้องลองไปฟังรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
การเชื่อมต่อหลุดบ่อยไหม ใช้ airpod รุ่นแรก galaxy bud รุ่นหนึ่งรุ่นสอง เข้าห้าง central พระราม9 ชั้นใต้ดินทีไรหลุดตลอด
ถือว่าน่าสนใจสำหรับหูฟังดีไซด์แปลก ^^
ต่อให้หูฟังเป็นหมื่นก็หลุดครับ ที่นั่นคลื่นเยอะคนเยอะ ตีกันจนหลุดก็ไม่แปลกครับ
ฮือ ใช้แบบมีสายต่อไป สะดวกสุด
หลุดบ่อยแล้วปวดหัว
ลองดซื้อมาใช้ละ ตัวนี้ฝ่าดงมรสุมที่ชั้นล่าง central พระราม9 ไม่หลุดนะครับ
ณ เวลานี้ ( 25/03/2021)
ในบรรดา TWS Ear Bud ตัวนี้ทำได้ดีสุดๆแล้วครับ ขอเชียร์เลย
ทั้งเสียงทั้งไมค์ทั้งแบต ส่วน ANC อัพเดทล่าสุดดีขึ้นนะครับ
อาจจะไม่เท่า In Ear แต่ก็ถือว่าดีมากๆเลยครับสำหรับ Ear Bud
ที่สำคัญ มันไม่เจ็บหูเลยครับ ใส่ทั้งวันจนลืมว่าใส่อยู่ 🙂
ยืนยันตามนี้เลยครับ ผมก็ใส่หูฟังประเภท in ear ไม่ได้
พอมาลองหูฟัง ear bud ตัวนี้ (ราคา ณ ปัจจุบัน ประมาณ 3 พัน)
มันดีมากจริงๆ ผมโคตรๆ ชอบเลย
ทั้ง anc ที่ใช้ได้จริง
ทั้ง game mode ที่ลดดีเลย์ได้ดีสุด
เสียงก็คุณภาพด้วย..คุ้มครับ